‘แม่น้ำอะแมซอน’ แม่น้ำที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งตั้งอยู่ในป่าฝนเขตร้อนผืนใหญ่ที่สุดในโลก ทว่าขณะนี้แม่น้ำที่สำคัญดังกล่าวกำลังเผชิญกับภัยแล้งระดับรุนแรงในรอบกว่าศตวรรษ
ผลกระทบอันหนักหน่วงนี้ถูกเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (16 ตุลาคม) ที่ผ่านมา เนื่องจากวิกฤตนี้กำลังกระทบกับชีวิตผู้คนหลายแสนคน และสร้างความเสียหายอย่างมากต่อระบบนิเวศป่าไม้ อย่างที่ท่าเรือมาเนาส์ (The port of Manaus) เมืองที่มีประชากรมากที่สุดของภูมิภาค ซึ่งอยู่บริเวณจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำริโอ เนโกร (Río Negro) และแม่น้ำแอมะซอน (Amazon) กำลังประสบกับภัยแล้งระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1902 หรือ 121 ปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี น้ำที่แห้งเหือดอย่างรวดเร็วนี้ สร้างผลกระทบต่อผู้คนประมาณ 481,000 คน โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล เพราะเรือไม่สามารถนำอาหาร น้ำ และยารักษาโรคไปให้พวกเขาได้ ไม่เพียงเท่านั้น น้ำยังมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างพุ่งพรวด ทำให้โลมามากกว่า 100 ตัวต้องตาย “ชุมชนของเราฝนไม่ตกเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว” เมนดอนกา (Mendonca) ผู้อาศัยอยู่ทางตะวันตกของเมืองมาเนาส์ กล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์ของบราซิลออกมาระบุว่า ปรากฏการณ์สภาพภูมิอากาศเอลนีโญเป็นต้นตอหลักที่ก่อให้เกิดภัยแล้ง ซึ่งจะไม่ได้กระทบแค่ที่บราซิล แต่กับทุกที่ทั่วโลก
อ้างอิงจาก