ไม่กี่วันที่ผ่านมา #ป้าบัวผัน ติดเทรนด์โซเชียลมีเดีย หลังจากผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ออกมาเปิดเผยหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่ชี้ว่าผู้ร้ายตัวจริงในคดีนี้คือ เด็กและเยาวชนกลุ่มหนึ่ง ไม่ใช่สามีของป้าบัวผัน ที่ก่อนหน้ายอมรับสภาพว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุ
ดังนั้น คดีนี้จึงถูกรื้อออกมาสืบสวนใหม่อีกครั้ง เพราะผู้คนคับข้องใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ จนเกิดกระแสเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ป้าบัวผัน รวมถึงสามีของป้า ที่ในขณะนี้หลายคนมองว่า เป็นแพะรับบาปในคดีดังกล่าว วันนี้ The MATTER จึงขอมาสรุปเรื่องราวนี้ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันให้ทุกคนได้อ่านกัน
1. จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้น เมื่อวันศุกร์ (12 มกราคม) ที่ผ่านมา หลังมีการพบศพ ‘ป้าบัวผัน’ หรือ ‘ป้ากบ’—บัวผัน ตันสุ อายุ 47 ปี บริเวณบ่อน้ำ หลังปั๊มน้ำมันเก่า ข้างโรงเรียนอนุบาลศรีอรัญโญทัย จังหวัดสระแก้ว ทำให้ตำรวจได้นำตัว ลุงเปี๊ยก หรือ เปี๊ยก—ปัญญา คงแสนคำ อายุ 56 ปี สามีของผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำ
2. ลุงเปี๊ยกให้การยอมรับสารภาพ โดยระบุว่า เขาได้ใช้เก้าอี้ทุกหัวป้าบัวผัน เนื่องจากเมาและทะเลาะวิวาทกัน หลังจากนั้นก็นำศพไปทิ้งที่จุดพบศพ ทำให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลเพื่อส่งตัวเข้าเรือนจำจังหวัดสระแก้ว
3. ทว่า ณัฐดนัย นะราช ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ที่ลงพื้นที่ไปทำข่าวเรื่องนี้ตั้งแต่วันแรกที่พบศพป้าบัวผัน ได้มีการไปสัมภาษณ์คนในพื้นที่ รวมถึงลุงเปี๊ยกที่ในขณะนั้นยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุ แต่เขาไม่สามารถให้คำตอบอะไรแก่ผู้สื่อข่าวได้เลย
4. ต่างกับช่วงทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ลุงเปี๊ยกสามารถเล่าเหตุการณ์ได้เป็นฉากๆ ณัฐดนัย และ ทีมข่าว จึงเกิดความข้องใจ เลยนำไปสู่การหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดหลายจุด โดยย้อนหาเหตุการณ์ที่สามีป้าบัวผันได้สารภาพไว้ ตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 11 มกราคม จนถึง 06.00 น. ของวันที่ 12 มกราคม
เช่น จุดที่ลุงเปี๊ยกอ้างว่าทิ้งเสื้อที่เปื้อนเลือดไว้ หรือ จุดที่ลุงเปี๊ยกอ้างว่ามีปากเสียงระหว่างกัน แต่ทีมข่าวกลับไม่พบหลักฐานเหล่านี้เลย
5. ในทางกลับกัน ผู้สื่อข่าวกลับพบป้าบัวผันกับกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีอายุประมาณ 13-16 ปี จากกล้องวงจรปิด ในช่วงเวลา 02.00 น. ของวันที่ 12 มกราคม แทน โดยรายละเอียดของคลิปสามารถชี้ได้ว่า ป้าบัวผันนั่งอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ภายในซอยบำรุงราษฎร์ เขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ
สักพักหนึ่งจึงมีกลุ่มวัยรุ่น 5 คน ขี่รถจักรยานยนต์มา 2 คัน และเดินเข้าไปยั่วยุให้ป้าบัวผันโกรธ เธอจึงปาขวดน้ำใส่ และพยายามเดินหลีกหนีไป แต่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ขี่รถตาม และมีการทำร้ายร่างกายเธอด้วยการเตะเสยคางจนหงายหลัง พร้อมกับลากขึ้นจักรยานยนต์ ทว่าป้าบัวผันพยายามดิ้นจนตกจากรถหลายครั้ง แต่ในท้ายที่สุดเธอก็ถูกกลุ่มวัยรุ่นพาขึ้นรถได้สำเร็จ
6. เวลาประมาณ 02.40 น. กลุ่มผู้ก่อเหตุปรากฏตัวที่ร้านล้างรถแบบหยอดเหรียญ คาดเพื่อล้างรถที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 2 กิโลเมตร และยังมีการคาดการณ์ว่าเป็นช่วงหลังจากที่เพิ่งทำร้ายป้าบัวผันจนถึงแก่ชีวิต และนำศพไปทิ้งที่บ่อน้ำ ดังนั้นผู้สื่อข่าวจึงนำหลักฐานนี้เปิดเผยต่อสาธารณชน
7. ทำให้เมื่อวันอาทิตย์ (14 มกราคม) ที่ผ่านมา พ.ต.อ.อนันท์ หูแก้ว รองผบก.ภ.จังหวัดสระแก้ว ลงพื้นที่เพื่อติดตามคดีดังกล่าว หลังหลักฐานบ่งชี้ว่า ลุงเปี๊ยก สามีของป้าบัวผัน อาจไม่ใช่ผู้ก่อเหตุที่แท้จริง
ไม่เพียงเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังนำตัวเด็กและเยาวชนทั้ง 5 คน ที่มีอายุ 13 ปี 2 คน อายุ 14 ปี 2 คน และ 16 ปี 1 คน มาสอบปากคำ ซึ่งทั้งหมดยอมรับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุจริง
8. อย่างไรก็ดี หลังจากเรื่องราวทั้งหมดมาถึงจุดนี้ ทำให้โลกโซเชียลเกิดการตั้งคำถามต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จน #ป้าบัวผัน และ #ป้ากบ ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ (X)
9. เพราะตามกฎหมายกำหนดว่า เด็กอายุมากกว่า 12 ปี แต่ไม่เกิน 15 ปี จะได้รับการ ‘ยกเว้นโทษ’ และไม่มีการนำโทษจำคุกมาใช้กับเด็กและเยาวชน แต่ศาลมีอำนาจที่จะกำหนดมาตรการอื่นๆ แทน เช่น กำหนดให้พ่อแม่ควบคุมดูแลเด็ก หรืออาจส่งตัวไปสถานที่สำหรับการคุมประพฤติ
นอกจากนี้ เยาวชน หรือ ผู้ที่อายุระหว่าง 15-18 ปี ถ้าทำผิด ศาลอาจตัดสินลงโทษหรือไม่ลงโทษก็ได้ ถ้าสมมติว่า ตัดสินลงโทษทางอาญาแบบคนทั่วไป โทษสำหรับเยาวชนก็จะลดลงกึ่งหนึ่งทันที
10. กลับมาที่ประเด็นหลัก เมื่อวานนี้ (15 มกราคม) มีการรายงานว่า พนักงานสืบสวน สภ.อรัญประเทศ ได้นำหลักฐานส่งให้ศาลจังหวัดสระแก้ว ส่งผลให้เรือนจำได้ทำการปล่อยตัวลุงเปี๊ยกออกมาจากเรือนจำ เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น.
ทั้งนี้ พนักงานสืบสวนเกิดข้อสงสัยว่าเหตุใดสามีของป้าบัวผันถึงยอมรับว่าเป็นผู้กระทำผิด อีกทั้งยังได้นำเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดเกิดเหตุ และทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งอาจจะเข้าข่ายการแจ้งความเท็จ
แต่ พ.ต.อ.ปรีชา สมสถาน กล่าวว่า จะไม่มีการแจ้งข้อหาต่อลุงเปี๊ยกแต่อย่างใด ทว่าตอนนี้ลุงเปี๊ยกกลับหายตัวไปหลังจากออกจากเรือนจำ และญาติไม่สามารถติตต่อได้
11. ล่าสุดวันนี้ (16 มกราคม) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ระบุว่า คดีนี้เกี่ยวกับเด็กและเยาวชนที่เขากำกับดูแล ซึ่งญาติไม่มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยเขาทราบว่าเด็กทั้ง 5 คนถูกจับกุมทั้งหมดแล้ว ซึ่งในจำนวนนั้นมีลูกของตำรวจด้วย แต่ประเด็นที่สังคมสงสัยคือเหตุใดลุงเปี๊ยกจึงยอมรับสารภาพ
ดังนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงจะลงพื้นที่สั่งการพร้อมไปติดตามหาตัวลุงเปี๊ยก และหากมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องจริงก็ต้องดำเนินคดี ไม่ปกป้องคนที่ทำผิด ยอมรับว่าพฤติการณ์การก่อเหตุของเด็กกลุ่มนี้เลวร้ายมาก ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งการแก้ไขกฎหมายเพื่อลดอายุของเด็กให้รับโทษรุนแรงขึ้นนั้น เป็นเรื่องระยะยาวที่ยังต้องหารือกันร่วมกับหลายหน่วยงานอยู่
อ้างอิงจาก