“คนไต้หวัน มีอยู่ 3 สิ่งที่ต้องทำในชีวิต”
หนึ่งในคำพูดของไกด์นำเที่ยวชาวไต้หวัน พูดขึ้นขณะที่รถกำลังมุ่งหน้าสู่สถานที่ท่องเที่ยว จนเกิดเป็นความสงสัยใคร่รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นคืออะไร ทำไมถึงใหญ่เสียจนเป็นเป้าหมายให้กับคนไต้หวันได้ทำ
และก็ไม่ปล่อยความสงสัยอยู่กับเรานาน ไกด์รีบอธิบายต่อทันทีว่า 3 สิ่งที่ต้องทำนั้นคือ ‘ปีนเขาหยก ว่ายน้ำข้ามทะเลสาบสุริยันจันทรา และปั่นจักรยานรอบเกาะไต้หวัน’
ทั้ง 3 กิจกรรมนี้เป็นเป้าหมายที่ชาวไต้หวันผู้ชื่นชอบธรรมชาติและการท่องเที่ยวหลายคนน่าจะปักธงไว้ในใจ ว่าชีวิตนี้ขอพิชิตสิ่งเหล่านี้ให้ได้ แต่สำหรับคนไทยเอง การจะนึกถึงภาพกิจกรรมเหล่านี้ได้ อาจจะต้องใช้จินตนาการร่วมด้วยสักหน่อย ให้นึกแบบเร็วๆ ที่แวบเข้ามาอาจจะเป็นการเห็นภาพทะเลสาบสุริยันจันทรา เพราะเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต แต่การจะคิดไปถึงภาพว่ายน้ำข้ามทะเลสาบนั้นอาจจะเหนือความคาดหมายของเราไปเสียหน่อย ถัดมาที่นึกภาพออกก็คงจะเป็นการแบ็กแพ็คปีนเขาหยก ที่เป็นจุดมุ่งหมายของเหล่านักปีนเขา และสิ่งสุดท้ายก็คือการปั่นจักรยานรอบเกาะไต้หวัน ที่มีระยะทางราวๆ 1,000 กิโลเมตร
แต่ก่อนที่จะไปลงรายละเอียดของกิจกรรมเหล่านี้ หนึ่งสิ่งที่เราสัมผัสได้ว่า นี่แหละเป็น ‘จุดขายการท่องเที่ยวของไต้หวัน’ ก็คือการท่องเที่ยวกับธรรมชาติ เพราะจากกิจกรรมที่ว่ามาล้วนแต่เป็นการเข้าใกล้ธรรมชาติให้มากกว่าที่เป็นอยู่ แอบหนีเมืองไปให้ธรรมชาติโอบกอด ทั้งขึ้นเขา ลงน้ำ ปั่นจักรยาน เรียกว่าครบสูตรการท่องเที่ยวในวิถีแห่งธรรมชาติ ใครที่หลงใหลการท่องเที่ยวแนวนี้อยู่เตรียมจองตั๋วรอได้เลย
เริ่มต้นภารกิจแรกด้วยการพาทุกคนไป ‘ปีนเขาหยก’ แต่ก่อนจะเริ่มรู้จักเขาหยกนั้น เท้าความก่อนสักเล็กน้อยว่าไต้หวันเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กกว่าไทยอยู่ราวๆ 13 เท่า และภูมิประเทศ 2 ใน 3 ส่วนใหญ่เป็นภูเขา การปีนเขาที่ไต้หวันจึงถือเป็นกิจกรรมที่นิยมและดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอันดับต้นๆ
‘เขาหยก’ หรือชื่อที่คนไต้หวันเรียกว่า ‘ยวี่ซาน’ (Jade Mountain) ตั้งอยู่ที่เมืองหนานโถว (Nantou) เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในไต้หวัน มีความสูงมากถึง 3,952 เมตร และนอกจากจะเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดแล้ว ยังเป็น 1 ใน 8 อุทยานแห่งชาติของไต้หวันอีกด้วย โดยภายในอุทยานนี้รวมป่าหลากหลายประเภทเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งป่าไม้ใบกว้าง ป่าผสม ป่าสน และป่าไผ่ มีเส้นทางที่ธรรมชาติให้เลือกเดิน นักปีนเขาทั้งชาวไต้หวันหรือต่างชาติก็ล้วนแต่อยากมาพิชิตยอดเขานี้ดูสักครั้ง
การได้เห็นวิวจากบนยอดเขา ได้อ้อมกอดของธรรมชาติมาช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก คงทำให้หัวใจได้รับการเติมเต็มได้อีกครั้ง และหากได้พิชิตเขาหยกนี้แล้ว ก็คงได้ติ๊กถูกหน้าช่องเป้าหมายของชาวไต้หวันไปได้ 1 ข้อ
ข้อถัดมาที่จะพาทุกคนไปทำความรู้จักเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่คนไทยต่างรู้จักกันดี นั่นก็คือ ‘ทะเลสาบสุริยันจันทรา’ หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ Sun Moon Lake อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกับเขาหยก เพราะตั้งอยู่ที่เมืองหนานโถวเช่นเดียวกัน แถมยังเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในเกาะไต้หวัน ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 748 เมตร มีพื้นที่ราวๆ 5.4 ตารางกิโลเมตร
ที่มาที่ไปของชื่อทะเลสาบสุริยันจันทรานั้นมาจากลักษณะของทะเลสาบ ซึ่งทางตอนใต้ของเกาะลาลู (Lalu Island) ที่ตั้งอยู่ตรงกลางทะเลสาบ มีลักษณะคล้ายดวงจันทร์ ส่วนทางตอนเหนือของเกาะมีลักษณะคล้ายดวงอาทิตย์ จุดเด่นที่ทำให้ทะเลสาบสุริยันจันทรากลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด เพราะธรรมชาติของสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความสวยงามที่ยากจะบรรยายได้หมด ภูเขาที่สลับซับซ้อนรายล้อมรอบผืนน้ำสีฟ้าอมเขียวที่ต้องสะท้อนแสงอาทิตย์ในตอนกลางวัน ยิ่งสร้างความระยิบระยับให้กับผืนน้ำราวกับภาพวาดชั้นดีในพิพิธภัณฑ์
และแน่นอนว่าทะเลสาบแห่งนี้ก็มีมิชชั่นที่ท้าทายให้ไปลองทำอยู่ นั่นก็คือการว่ายน้ำข้ามทะเลสาบ ซึ่งเป็นระยะทางกว่า 3,000 เมตร แต่ไม่ใช่ว่านึกอยากว่ายน้ำวันนี้ก็เดินทางไปทะเลสาบแล้วกระโดดตู้มได้เลยนะ การว่ายน้ำข้ามทะเลสาบสุริยันจันทราสามารถทำได้ในช่วงที่จัด ‘เทศกาลว่ายน้ำทะเลสาบสุริยันจันทรา’ เท่านั้น ซึ่งก็จะอยู่ในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ หรือช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกปี โดยเมื่อปีก่อนๆ เคยมีผู้ร่วมแข่งขันถึงกว่า 20,000 คนเลยทีเดียว เป็นงานที่นักว่ายน้ำทั่วโลกจับตามอง ใครที่อยากพิชิตเป้าหมายข้อนี้ ก็เตรียมฟิตร่างกายรอเทศกาลว่ายน้ำในปีนี้ได้เลย!
ข้อสุดท้ายคือ ‘ปั่นจักรยานรอบเกาะไต้หวัน’ ไต้หวันได้รับการขนานนามว่าเป็นสวรรค์ของเหล่านักปั่น ‘Bicycle Friendly’ ด้วยเหตุผลข้อแรกที่สำคัญคือการเป็นประเทศที่สนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตจักรยานส่งออกให้กับประเทศอื่นๆ มากมาย ทั้งในเอเชียและยุโรป โดยเริ่มมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 ก่อนจะขยับขยายสร้างแบรนด์ของตัวเอง จนในวันนี้มีแบรนด์จักรยานชื่อดังที่เหล่านักปั่นได้ยินจะร้อง ‘อ๋อ’ ทันที เช่น GIANT และ MERRIDA
แต่ไม่ใช่เพราะเป็นแค่ผู้ผลิตอย่างเดียวเท่านั้นที่ทำให้ไต้หวันเป็นประเทศที่เด่นเรื่องจักรยาน แต่ยังรวมไปถึงการสร้าง ‘ไบค์เลน’ หรือทางจักรยานทั้งรอบประเทศ และในเมืองต่างๆ แม้จะมีขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุม แต่ก็ไม่ทิ้งเส้นทางปั่นจักรยานให้เดียวดาย เพราะทางจักรยานนี้เป็นเสมือนจุดเชื่อมให้ชุมชนเข้าถึงเมืองได้มากยิ่งขึ้น
ถ้าหากมีเวลาและอยากลองท่องเที่ยวทั่วทั้งเกาะไต้หวัน กิจกรรมที่น่าสนใจไม่แพ้สิ่งอื่นก็คือการปั่นจักรยาน โดยมีสิ่งที่เรียกว่า Taiwan Cycle Route No.1 เส้นทางจักรยานที่มีความยาว 968 กิโลเมตร ทั่วทั้งเกาะ และไม่เพียงแค่มีเส้นทางจักรยานเท่านั้น แต่ยังอำนวยความสะดวกให้กับเหล่านักปั่นโดยการมีจุดรองรับ สำหรับแวะพัก ซ่อมจักรยาน หรือดื่มน้ำก่อนลุยต่อ ในส่วนนี้ไกด์ของเราก็ยังแชร์ประสบการณ์เพิ่มเติมให้ว่า ตัวเขาเองใช้เวลาประมาณ 5 วัน ปั่นจักรยานรอบเกาะ ถือเป็นการทำเป้าหมายให้สำเร็จไปได้อีก 1 ข้อ
สำหรับคนไทยที่เป็นสายท่องเที่ยวธรรมชาติ อยากให้ธรรมชาติโอบกอดและบรรเทาความเหนื่อยล้า การเลือก ‘ไต้หวัน’ ให้เป็นสถานที่ฮีลใจ ออกไปสัมผัสและดื่มด่ำกลิ่นอายแห่งเมฆหมอก ภูเขา สายน้ำ ด้วยการทำมิชชั่นตามแบบฉบับคนไต้หวันแท้ๆ ก็เป็นตัวเลือกการใช้วันลาที่น่าสนใจนะ
อ้างอิงจาก
https://www.taiwantourism.org/th/what-to-do/taiwantourism-travel-climbmountainintaiwan/
https://www.taiwantourism.org/th/what-to-do/เทยว-เมองรอง-ไตหวนตองรองวาว/
https://www.taiwantourism.org/th/where-to-go/จดชมววทะเลสาบสรยน/
https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/judprakai/1091547
https://ngthai.com/travel/49444/taiwan-bicycle-trip/
https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/judprakai/1091547
https://epicroadrides.com/cycling-blog/taiwan-cycling-route-1/