เพียงอีกไม่กี่วัน ก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ (5 พฤศจิกายน 2024) ทำให้ตอนนี้ผู้สมัครต่างหาเสียงอย่างเข้มข้น โดยล่าสุด กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต ประณามการปราศรัยที่ผ่านมาของ โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ว่าเขามัวแต่ “จดจ่ออยู่กับความคับข้องใจ กับตัวเอง และกับความแตกแยกในประเทศ”
การปราศรัยที่ผ่านมาของ โดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ที่เมดิสัน สแควร์ การ์เดน ในเมืองนิวยอร์ก ถูกสื่อหลายสำนักวิจารณ์ว่าเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เนื่องจากทรัมป์ได้โจมตีผู้อพยพอย่างชัดเจน ทั้งนี้ มีช่วงหนึ่ง ที่นักแสดงตลก โทนี่ ฮินช์คลิฟฟ์ ซึ่งเป็นผู้ร่วมปราศรัย ได้เรียกประเทศเปอร์โตริโกว่าเป็น ‘เกาะขยะลอยน้ำ’ จนหลายฝ่ายไม่พอใจ เพราะมองว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติ และไม่เคารพชาวเปอร์โตริโกจำนวนมาก ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ
หลังจากทรัมป์ถูกวิจารณ์อย่างหนักในประเด็นข้างต้น แฮร์ริสได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ฉันคิดว่าเมื่อคืนนี้ งานของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เมดิสันสแควร์การ์เดน ได้เน้นย้ำประเด็นที่ฉันพูดถึง มาตลอดการหาเสียงครั้งนี้จริงๆ” และกล่าวว่า “โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้เวลาอย่างเต็มที่ เพื่อพยายามทำให้คนอเมริกันชี้หน้ากัน เพื่อโหมกระพือเชื้อเพลิงแห่งความเกลียดชังและความแตกแยก และนั่นคือสาเหตุที่ผู้คนเหนื่อยหน่ายกับเขา”
ทั้งนี้ เธอย้ำว่า “สิ่งที่เขาทำเมื่อคืนนี้ ไม่ใช่การค้นพบอะไรใหม่ มันเป็นเพียงสิ่งเดิมๆ แค่อาจชัดเจนกว่าปกติ”
นอกจากนี้ หลายคนมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าว อาจเปลี่ยนแปลงคะแนนเลือกตั้งฯ ของทั้งสองแคนดิเดต โดยในสหรัฐฯ มีชาวเปอร์โตริโกจำนวนมากอาศัยอยู่ โดยเฉพาะในรัฐเพนซิลเวเนีย ที่มีชาวเปอร์โตริโกอาศัยอยู่ราว 500,000 คน ทั้งนี้เพนซิลเวเนีย ถือเป็นหนึ่งในรัฐสมรภูมิสำคัญ (swing states) ที่มีการเลือกสลับไปมาระหว่างพรรคเดโมแครตกับพรรครีพับลิกัน
ยิ่งการเลือกตั้ง ใกล้เข้ามา ผลกระทบใดๆ ล้วนก็เปลี่ยนแปลงผลคะแนนได้ ดังนั้นการชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร เราต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
อ้างอิงจาก