เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (24 พฤศจิกายน 2024) วาฬนำร่องกว่า 30 ตัวที่เกยตื้นบนชายหาด Ruakākā ทางตอนเหนือของนิวซีแลนด์ และได้กลับคืนสู่มหาสมุทรอย่างปลอดภัย หลังจากเจ้าหน้าที่อนุรักษ์และชาวบ้านช่วยกันดึงเจ้าวาฬให้ลอยน้ำได้โดยใช้ผ้าใบรอง
กรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ (DOC) ให้ข้อมู,ว่า วาฬส่วนใหญ่ที่ได้รับการช่วยเหลือสามารถลอยน้ำได้และว่ายออกสู่ทะเลแล้ว แต่น่าเศร้าที่มีวาฬโตเต็มวัย 3 ตัวแ ละลูกวาฬ 1 ตัวเสียชีวิต
กลุ่มที่เร่งเข้าไปกู้ภัย นำโดย Patuharakeke หรือกลุ่มชาวเมารีในพื้นที่ และนอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่ และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมด้วย ซึ่งหลังจากช่วยเหลือสำเร็จแล้ว Patuharakeke ยังคงอยู่บนชายหาดตลอดทั้งคืน เพื่อให้แน่ใจว่าปลาวาฬที่ได้รับการช่วยเหลือจะไม่ถูกพัดพาขึ้นเกยตื้น อีก และตลอดทั้งคืนนั้นก็ไม่มีการเกยตื้นซ้ำอีกเลย
กรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งรับผิดชอบในการช่วยเหลือสัตว์ทะเลที่เกยตื้น เรียกความพยายามในการช่วยเหลือครั้งนี้ว่า ‘เหลือเชื่อ’ ที่ทุกคนต่างตั้งใจมาช่วยเจ้าปลาวาฬ
โจเอล เลาเทอร์บัค (Joel Lauterbach) ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการของกรมฯ กล่าวว่า “เป็นเรื่องน่าทึ่งที่ได้เห็นความเอาใจใส่ และความเห็นอกเห็นใจอย่างแท้จริง ที่ผู้คนมีต่อสัตว์ที่น่าทึ่งเหล่านี้” พร้อมกล่าวขอบคุณ Patuharakeke และ Project Jonah ที่ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี
นิวซีแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเกิดเหตุสัตว์ทะเลเกยตื้นสูงที่สุดในโลก หรือกล่าวได้ว่ามีวาฬกับโลมาเกยตื้นจนเป็นปกติ และกรมฯ ต้องรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เฉลี่ยประมาณ 85 ครั้งต่อปี แต่ส่วนใหญ่ก็พบเพียงครั้งละ 1-2 ตัวเท่านั้น
นับตั้งแต่ปี 1840 กรมฯ บันทึกข้อมูลไว้ว่า นิวซีแลนด์พบวาฬเกยตื้นมากกว่า 5,000 ตัวตั้งแต่ปี 1840 โดยพบวาฬนำร่องเกยตื้นมากที่สุดที่ประมาณ 1,000 ตัวที่หมู่เกาะแชทัมในปี 1918
แม้ปรากฏการณ์ ‘วาฬเกยตื้น’ จะมีสาเหตุที่ไม่ชัดเจน แต่เชื่อกันว่าภูมิศาสตร์ของประเทศเกาะแห่งนี้เป็นปัจจัยสำคัญ เพราะทั้งเกาะเหนือและเกาะใต้มีแนวชายฝั่งยื่นออกไป และชายหาดยังตื้นและลาดเอียง ซึ่งอาจทำให้สัตว์สายพันธุ์ต่างๆ เช่น วาฬนำร่องสับสนได้ เพราะเป็นสัตว?ที่อาศัยเสียงสะท้อนเพื่อนำทาง
อ้างอิงจาก