เคยเป็นไหม? ก่อนนอนหรือตอนกำลังเคลิ้มหลับ จะรู้สึกไม่สบายขาเหมือนมีแมลงมาไต่ที่ขา บางครั้งก็คล้ายถูกไฟช็อต จนอยู่นิ่งไม่ได้และอยากขยับขาอยู่ตลอดเวลา ถ้าเคยเป็น บางทีคุณอาจกำลังเผชิญกับ กลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุข (Restless Legs Syndrome หรือ RLS) ภาวะที่พบบ่อย แต่หลายคนไม่เคยได้ยินมาก่อน
ข้อมูลจากมูลนิธิกลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุข (Restless Legs Syndrome Foundation) ระบุว่าอาการนี้เป็นภาวะทางระบบประสาท ที่ทำให้คนรู้สึกถึงแรงกระตุ้นที่จะขยับขาแบบควบคุมไม่ได้ หรือรู้สึกไม่สบายขาอย่างมาก ซึ่งอาการอาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาพักผ่อน เช่น นั่งหรือนอนลง ทั้งนี้อาการขาอยู่ไม่สุขจะไม่ได้เกิดจากภาวะอื่น เช่น ตะคริวขา ขาบวม หรือโรคข้ออักเสบ
นอกจากนี้มูลนิธิฯ ยังระบุว่า คนทั่วโลกอาจมีอาการขาอยู่ไม่สุขราว 7-8% และแม้ว่าอาการนี้จะเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่มูลนิธิฯ กล่าวว่าอาการนี้พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะมีอาการ มากกว่าผู้ชายอย่างน้อย 2 เท่า
ผลสำรวจในสหรัฐฯ ระบุว่าอาการขาอยู่ไม่สุขอาจเกิดกับผู้ใหญ่ มากกว่า 10 ล้านคน ในขณะที่เด็กและวัยรุ่น อาจมีอาการนี้ประมาณ 1.5 ล้านคน ซึ่งกว่า 40% ของคนจำนวนนี้ มีอาการรุนแรงจนต้องพบแพทย์
สำหรับสาเหตุ นพ.นพดล ตรีประทีปศิลป์ จากศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกระบุว่า 30% ของผู้มีอาการอาจมีประวัติของโรคนี้ในครอบครัว และอาจพบร่วมกับโรคอื่นๆ เช่น โรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก หรือไตวายเรื้อรัง
สิ่งที่น่ากังวลคือ อาการนี้มากส่งผลต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก โดยเฉพาะการนอนหลับ เนื่องจากอาการขาอยู่ไม่สุข มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาพักผ่อน ทำให้นอนหลับยาก หรือหลับไม่สนิท
“ทุกคืนฉันจะพลิกตัวไปมาบนเตียง จนต้องลุกเดินไปมา ที่โถงทางเดินนอกห้องนอนในที่สุด” Andrea Javor วัย 45 ปี หนึ่งในผู้มีอาการขาอยู่ไม่สุขเล่าบนเว็บไซต์ The Guardian ถึงสิ่งที่ต้องพบเจอในแต่ละคืน แล้วเล่าต่อว่า “จากนั้นฉันก็จะเข้านอนอีกครั้ง พร้อมกับน้ำตาคลอเบ้า จากความหงุดหงิด” จนหลายครั้ง กว่าเธอจะนอนหลับได้ ก็ผ่านเวลานอนไปหลายชั่วโมงแล้ว
เธอบอกต่อว่า เมื่ออายุมากขึ้น อาการของเธอก็รุนแรงขึ้นไปด้วย จนบางครั้งเธอก็นอนไม่หลับไปหลายวัน โดยนาฬิกา Apple Watch ของเธอ จะติดตามก้าวเดินต่อหนึ่งวันได้ 5,000-10,000 ก้าว และบางครั้งก็ถึง 20,000 ก้าว
จนในที่สุด Javor ก็พยายามหาทางรักษา จนได้พูดคุยกับ Andrew R. Spector ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านประสาทวิทยาที่ Duke University School of Medicine โดยเขาบอกกับเธอว่า อาการขาอยู่ไม่สุขเป็นหนึ่งในโรคที่มักถูกมองข้ามมากที่สุดในด้านประสาทวิทยา
ทั้งนี้ Spector แนะนำว่า เบื้องต้นผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงสารกระตุ้นต่างๆ เช่น แอลกอฮอล์ นิโคติน และคาเฟอีน ซึ่งอาจทำให้อาการแย่ลง โดยจากนั้น อาจพบแพทย์เพื่อตรวจระดับธาตุเหล็กในเลือด เพื่อประเมินว่าขาดสารอาหารที่จำเป็นหรือไม่ และจากนั้นแพทย์อาจสั่งยา ที่มีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อให้กับผู้ป่วย เพื่อบรรเทาอาการ
Javor เล่าว่าหนึ่งในสิ่งที่ให้อาการดีขึ้น คือการตรวจระดับธาตุเหล็ก โดยผู้เชี่ยวชาญอธิบายกับเธอว่าจริงๆ แล้วอาการขาอยู่ไม่สุข อาจไม่ใช่ภาวะของขาเท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับระดับธาตุเหล็กในสมองด้วย
แม้กรณีของ Javor ที่เล่ามานี้ จะเป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างของผู้ที่ทุกข์ทรมาน จากอาการขาอยู่ไม่สุข แต่การสำรวจตัวเอง และการขอความช่วยเหลือ หรือปรึกษาแพทย์ก็จะเป็นแนวทางเริ่มต้นที่ดี สำหรับผู้ที่กำลังเผชิญ หรือกังวลกำลังเผชิญกับกลุ่มอาการเช่นนี้ได้
อ้างอิงจาก