“ผมทำในสิ่งที่ผมไม่เข้าใจ ด้วยหัวใจที่เต็มร้อย” – นนท์ ธนนท์
ถ้าจะมีสักค่ำคืนที่คอนเสิร์ตไม่ใช่แค่คอนเสิร์ต แต่คือการเนรมิตคฤหาสน์เพื่อต้อนรับทุกคน ‘สุรุ่ยสุร่าย’ คือคืนนั้น
กลางอิมแพค อารีน่า จากฮอลล์คอนเสิร์ตธรรมดา แปรเปลี่ยนเป็นคฤหาสน์หลังโตที่เนรมิตด้วยความตั้งใจ แม้ความสุรุ่ยสุร่ายจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นตัวตนของนนท์ แต่ในครั้งนี้ เขาทุ่มเทสุดพลังสร้างสิ่งที่ใหญ่กว่าตัว ก้าวข้ามขีดจำกัดที่เคยมี เนรมิตทุกวินาทีด้วยความใส่ใจเท่าที่ตัวเขาและทีมงานทุกคนจะทำได้ เพื่อตอบแทนทุกการรอคอย และเพื่อให้ทุกคนที่ได้สัมผัสถึงการต้อนรับจากหัวใจ
คฤหาสน์ที่โอ่อ่า บันไดหรูใต้แชนเดอเลียร์ เวทีหมุน 360 องศา ม่านน้ำตก เวทีที่ประกอบต่อกันรอบฮอลล์ เรือ และไพรเวทเจ็ตที่พาให้เราได้ใกล้กันขึ้นอีกนิด ทุกฉากที่ปรากฏ ทุกดีเทลบนเวที สะท้อนถึงความตั้งใจและความรักจากศิลปินคนหนึ่งที่อยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับแฟนคลับ จนเราตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะมีคฤหาสน์หลังไหน ที่เจ้าของบ้านเต็มใจต้อนรับเราได้มากเท่านี้อีกไหมนะ
ในทุกเพลงที่ร้อง เสียงของนนท์ไม่ได้หยุดอยู่แค่ปลายลำโพง แต่มันพุ่งตรงเข้าสู่ความทรงจำของเราทีละเพลง ความสนุกของเพลงเปิดตัว คลั่งเธอ พร้อมแดนเซอร์อีกกว่า 20 ชีวิต ตามมาด้วย กำลังจะ พร้อมเวทีหมุนให้ทุกคนมองเห็นรอบด้าน และ จำนน ก่อนจะเปิดประตูสู่ห้องนั่งเล่นพร้อมกับเพลงอบอุ่นของเมดเลย์จากยุค LOVEiS พาให้เราอิ่มเอมใจตั้งแต่เริ่มคอนเสิร์ต
และคฤหาสน์ก็เปิดประตูต้อนรับแขกรับเชิญที่แวะมาในแต่ละคืนแทบไม่ซ้ำหน้า ไม่ได้มาเพื่อเป็นเพียงสีสัน แต่มาเพื่อบอกว่า ‘เส้นทางดนตรีของนนท์ไม่ได้เดียวดายอีกต่อไป’ มิตรภาพถูกเล่าผ่านบทเพลงที่เปล่งเสียงร้อง ทั้งไททิศมิตร, BUS because of you i shine, PiXXiE, Bodyslam, K-OTIC, Jeff Satur, THE TOYS และ สิงโต นำโชค รวมถึงแขกรับเชิญที่เข้ามาร่วมสร้างสีสันผ่านการสนทนาบนเวที ที่ทำให้เราได้รู้จักนนท์มากขึ้นไปอีก ทั้งแก๊งบุฟเฟ่ต์, น้าเน็ก และ Farose
ทว่าสิ่งที่ทำให้คอนเสิร์ตนี้พิเศษยิ่งกว่าความอลังการ คือความสัมพันธ์ที่ร่วมถักทอด้วยกันมาอย่างดีระหว่างนนท์กับ Nont Fam ทุกเสียงกรี๊ดคือการตอบรับด้วยหัวใจ ทุกเสียงร้องตามคือการบอกว่า ‘เราอยู่ด้วยกันตรงนี้เสมอ’ และทุกสายตาที่จับจ้องไปยังเวทีเต็มไปด้วยอบอุ่น ยิ่งนนท์ส่งมอบความรักออกมาให้ทุกคนเท่าไหร่ ทุกคนก็ส่งรักกลับไปอย่างดีไม่แพ้กัน จนทั้งอิมแพค อารีน่าเหมือนจะสั่นไหวด้วยพลังแห่งความผูกพัน
และความสุรุ่ยสุร่ายก็กระแทกเข้าหาเราอย่างจัง เมื่อนนท์ขึ้นร้องเพลงโคฟเวอร์ I Miss You บนไพรเวทเจ็ต บินไปหาทุกคนในฮอลล์ พร้อมโปรยเงินให้สมกับความร่ำรวย ก่อนจะพาทุกคนเข้าสู่ห้วงแห่งความโรแมนติกกับเพลงประกอบละครที่ร้องตามกันได้ทุกคำ และยังไม่หยุดอวดความรวยด้วยการล่องเรือจริงๆ ไปกับเพลงรักแรก ตามมาด้วย พิง และเพียงนิทาน ท่ามกลางม่านน้ำตกสุดอลังการ
กระทั่งเสียงเพลงสุดท้ายบรรเลงจบ และไฟในฮอลล์ค่อยๆ สว่างขึ้น หลายคนยังนั่งกับที่ราวกับว่าไม่อยากให้ค่ำคืนนี้จบลง ความอิ่มเอมที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงเพราะได้ฟังเพลงจากศิลปินที่รัก แต่เพราะพวกเขาได้เห็นศิลปินที่รัก กำลังแสดงความรักตอบกลับมา มันเลยกลายเป็นความทรงจำที่มีค่า และจะติดตรึงอยู่ในความทรงจำไปอีกนานแสนนาน
“ผมยังคงเป็นคนเดิมที่มีพวกคุณทุกคนเป็นจุดมุ่งหมายในการตื่นมาทำสิ่งนี้ ผมรักสิ่งนี้ ผมรักพวกคุณ ผมจึงรักตัวเอง” – นนท์ ธนนท์