ก่อนหน้านี้มีการค้นพบวัตถุประหลาดนอกระบบสุริยะที่โคจรใกล้โลก และก่อเกิดเป็นทฤษฎีขึ้นมามากมายเกี่ยวกับต้นกำเนิดของมัน รวมถึงการจับพิรุธบนโลกอินเตอร์เน็ต ที่พูดกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการปกปิดการเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวกับวัตถุชิ้นนี้
นี่คือเรื่องราวของ 3I/ATLAS วัตถุที่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่บอกว่าเป็นดาวหาง ในขณะที่ภาพถ่ายจากยานสำรวจของ NASA ที่อยู่บนดาวอังคารชี้ให้เห็นว่า มันมีลักษณะเป็นคือทรงกระบอกขนาดใหญ่ และมีลำแสงสีเขียวสว่างออกมา
เว็บไซต์ NASA ระบุว่า 3I/ATLAS จะไม่ก่อภัยคุกคามให้โลก และมีระยะห่างจากโลกอยู่พอสมควร ซึ่งระยะที่โคจรใกล้โลกมากที่สุดอยู่ที่ประมาณ 170 ล้านไมล์ หรือราวๆ 230 ล้านกิโลเมตร
อย่างไรก็ตาม ดาวหาง 3I/ATLAS สามารถมองเห็นได้ด้วยกล้องโทรทรรศน์ในช่วงเดือนกันยายน 2568 และดาวหางดวงนี้จะโคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์และไม่สามารถสังเกตเห็นได้ โดยจะปรากฎอีกครั้งในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2568
ขณะที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ในไทยเรา (NARIT) ให้ข้อมูลว่า ดาวหางดวงนี้อาจมีอายุมากถึง 7,000 ล้านปี ซึ่งมากกว่าระบบสุริยะของเรากว่า 3,000 ล้านปีเลยทีเดียว
“กุญแจสำคัญที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์คิดว่าดาวหางแอตลัสที่อายุเก่าแก่มาก คือ ข้อมูลที่ว่ามันมาจากบริเวณอื่น ๆ ของทางช้างเผือกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากวัตถุระหว่างดวงดาวในครั้งก่อนๆ จากระนาบวงโคจรของดาวหางแอตลัสที่ 3I/ATLAS ที่ตั้งชันเมื่อเทียบกับระนาบวงโคจรของโลกนั้น และเมื่อเปรียบเทียบกับกาแล็กซีทางช้างเผือกที่ระบบสุริยะของเราเป็นสมาชิกแล้ว ทีมนักวิจัยตั้งทฤษฎีว่าวิถีโคจรดังกล่าวมีที่มาจากบริเวณ “แผ่นจานหนา” ของกาแล็กซีทางช้างเผือกที่เต็มไปด้วยดวงดาว” บทความจาก NARIT ระบุ
แต่ อาวี โลบ นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เชื่อมั่นว่าวัตถุนี้อาจเป็นยานอวกาศ หรือยานสำรวจของมนุษย์ต่างดาว โดยเขาได้วิเคราะห์ภาพถ่ายของยานสำรวจ NASA และคำนวณระยะทาง ความเร็ว รวมถึงการตั้งค่ากล้อง
จากการศึกษาเบื้องต้นของโลบ เขาไม่เชื่อว่า 3I/ATLAS จะเป็นวัตรถุทรงกระบอกจริงๆ และตั้งข้อสังเกตว่ารูปร่างแปลกๆ นี้อาจเกิดจากกล้องของยานสำรวจที่ยืดรูปร่างมันออกไป และอธิบายว่ารูปทรงกระบอกที่ปรากฏจาก Navcam ที่ติดอยู่บนยานสำรวจ น่าจะเกิดจากการถ่ายภาพซ้อนหลายร้อยภาพในช่วงเวลาประมาณ 10 นาที ทำให้ภาพออกมาเหมือนท่อนซุงมากกว่าลูกบอล ซึ่งโลบบอกอีกว่า 3I/ATLAS น่าจะมีขนาดเล็กกว่าและกลมกว่า
ฮอเรซ ดรูว์ อดีตนักวิจัยอาวุโสจากองค์การวิจัยวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมแห่งเครือจักรภพ (CSIRO) ของออสเตรเลีย ตั้งข้อสังเกตว่า แสงสีเขียวลึกลับที่เห็นในภาพบางภาพอาจเป็นผลมาจากวัตถุดังกล่าวเป็นยานอวกาศที่เคลือบด้วยนิกเกิล เนื่องจากมนุษย์ก็ใช้แนวทางเดียวกันนี้กับเทคโนโลยีอวกาศเช่นกัน
เมื่อวันจันทร์ (6 ตุลาคม) ดูรว์ ระบุว่า “มันไม่ใช่ดาวหาง” ทว่าเขาเองก็ไม่เห็นด้วยกับโลบที่ว่า รูปทรงกระบอกนี้เป็นผลมาจากภาพซ้อน และบอกว่านักดาราศาสตร์คนอื่นๆ ก็ได้บันทึกภาพคล้ายๆ กันนี้ได้จากบนโลกด้วยกล้องโทรทรรศน์ของพวกเขาด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้โลบเคยตั้งทฤษฎีว่า 3I/ATLAS อาจเป็นยานลำที่สองที่ถูกส่งโดยสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก ต่อจากวัตถุทรงกระบอกประหลาดที่รู้จักกันในชื่อ โอมูอามูอา (Oumuamua) ซึ่งเคยโคจรผ่านโลกไปในปี 2017
อ้างอิงจาก