สาวโสดทั้งหลายที่อายุ 30 แล้วยังไม่แต่งงาน อย่าเพิ่งตกใจ นักวิชาการบอกว่า ตอนนี้อาการแต่งงานช้ากำลังเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งนักวิชาการเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า ‘ภาวะรอ’ (waithood) คือการที่คนอายุน้อยเลือกเป็นโสดไปก่อน สาวๆ มักให้ความสำคัญกับการประสบความสำเร็จทั้งในด้านการศึกษาและหน้าที่การงาน ซึ่ง ‘ภาวะรอ’ รอแต่งงานสร้างครอบครัว นี้ปรากฏทั้งในผู้ชายและผู้หญิง แต่เทรนด์นี้ค่อนข้างสร้างแรงกดดันให้กับผู้หญิง โดยเฉพาะการหาคู่ครองที่เหมาะสมและการมีลูกในช่วงอายุที่มากแล้ว
ภาวะรอถูกใช้ครั้งแรกโดย Diane Singerman ในปี 2008 งานศึกษาของเธอศึกษาสังคมตะวันออกกลาง และพบความเกี่ยวข้องระหว่างปัจจัยทางเศรษฐกิจและการแต่งงาน เธอพบภาวะรอในผู้ชายที่ว่าด้วยปัจจัยเรื่องการเงิน การแต่งงานในวัฒนธรรมตะวันออกกลางมีราคาที่สูง เด็กหนุ่มจึงไม่สามารถรับภาระการแต่งงานได้ จึงต้องรอ—เลื่อนเวลาการก้าวไปสู่ชีวิตครอบครัวออกไปก่อน
ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Marcia Inhorn ศาสตราจารย์ด้านมานุษยวิทยาและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ Yale University จัดการประชุมวิชาการในตีมการรอ ปรากฏการณ์ที่คนเลื่อนการไปสู่สถานะใหม่ๆ ในชีวิตด้วยช่วงอายุที่ช้าลง นอกจากการแต่งงานแล้ว ภาวะรอนี้ยังรวมถึงการขยับขยายอื่นๆ เช่น การออกจากบ้านพ่อแม่ การซื้อบ้าน
Marcia Inhorn บอกว่าในการประชุมนั้นพบว่าการแต่งงานช้ากำลังเป็นกระแสที่เกิดขึ้นทั่วโลก มีงานวิจัยว่าด้วยการเลื่อนการแต่งงานไปเมื่ออายุมากขึ้นทั้งจากจอร์แดน จีน สหรัฐอเมริกา รวันดา และกัวเตมาลา ประเด็นเรื่องการแต่งงานช้าจึงถือได้ว่าเป็นกระแสที่กำลังก่อตัวขึ้น และที่สำคัญคือปรากฏขึ้นในหลายวัฒนธรรมและด้วยหลายเหตุปัจจัย
หนึ่งในสาเหตุสำคัญคือประเด็นเรื่องการศึกษา ผู้หญิงในยุคปัจจุบันมีทางเลือกและเข้าสู่ระบบการศึกษาในระดับสูง พวกเธอจึงเลือกความสำเร็จในชีวิตด้านอื่นก่อนที่จะกระโดดเข้าสู่สถานะของการมีชีวิตครอบครัว—และการเป็นแม่ แต่กระแสแต่งงานช้าไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นเรื่องการศึกษาหรือความสำเร็จส่วนบุคคลเพียงอย่างเดียว ในประเทศแถบแอฟริกาที่การศึกษาเข้าไม่ถึงผู้หญิงเท่ากับภูมิภาคอื่น เหล่าสาวๆ ในแถบนั้นก็เลือกที่จะแต่งงานช้าไปที่หลังอายุ 30 โดยพวกเธอเลือกที่จะให้ความสำคัญกับการหาประสบการณ์ชีวิตก่อน
ดังนั้น สาวๆ ที่เงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าสามสิบกว่าแล้วแต่แฟนยังไม่มี วี่แววจะแต่งงานหาไม่เจอ ก็อย่าเพิ่งกังวลใจ Nancy Smith-Hefner นักวิจัยจาก Boston University พบว่ามีตัวเลขเพียง 2% ของผู้หญิงช่วงวัย 40 เท่านั้นที่ไม่เคยแต่งงาน เอาน่า อย่างน้อยๆ ยังพอมีหวัง แต่ด้วยสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้การหาคู่ครองที่เหมาะสมสำหรับสาวๆ เป็นเรื่องลำบากพอตัว
กลับมาที่ประเด็นเรื่องการศึกษา ง่ายที่สุดคือ อัตราของผู้หญิงในระบบการศึกษาค่อนข้างสูงกว่าผู้ชาย สัดส่วนของผู้หญิงและผู้ชายจึงไม่ค่อยสมดุลกันเท่าไหร่ ดังนั้นเมื่อถึงจุดที่สาวๆ รู้สึกว่าตัวเองพร้อมจะมีคู่ คิดเรื่องความรักในวัย 30 แล้ว การควานหาหนุ่มๆ ที่มีสถานะเหมาะสม มีการศึกษา มีรายได้ที่สมน้ำสมเนื้อเป็นชายหนุ่มโสดก็หาได้ไม่ง่ายเท่าไหร่
แม้ว่าโลกจะก้าวไกลแค่ไหน ประเด็นเรื่องสุขภาพและความพร้อมของสาวๆ ในการมีลูก การเป็นแม่เมื่ออายุมาก ก็ยังถือเป็นปัญหาที่รออยู่จากการเลื่อนชีวิตครอบครัวออกไป นวัตกรรมสำคัญเช่นการแช่แข็งไข่และเทคโนโลยีทางการเจริญพันธุ์ต่างๆ จึงค่อนข้างมีบทบาทมากขึ้นจากการที่ผู้หญิงประสบความสำเร็จมากขึ้น
อ้างอิงข้อมูลจาก