รู้หรือไม่? ประเทศญี่ปุ่นใช้แสงสีน้ำเงิน (Blue Light) ลดอัตราการฆ่าตัวตายในสถานีรถไฟฟ้า พบงานวิจัยรองรับว่าช่วยได้ถึง 84%
ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีอัตราการฆ่าตัวตายอันดับต้นๆ ของโลก แต่รัฐบาลญี่ปุ่นได้พยายามหาแนวทางป้องกันการฆ่าตัวตาย ซึ่งสำเร็จจากจำนวนการฆ่าตัวตายที่ลดลงในปี 2549 ถึง 2565 ถึงกว่าร้อยละ 35
หากใครเคยไปญี่ปุ่นจะสังเกตได้ว่าพื้นที่สาธารณะอย่าง ชานชาลารถไฟ ถนน ห้องน้ำ สวนสาธารณะ หรือพื้นที่เปลี่ยว จะมีการติดตั้งหลอดไฟสีน้ำเงินตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณชานชาลา ซึ่งมักเป็นพื้นที่โดดเดี่ยวที่สุด
โดยไฟเหล่านี้จะสว่างกว่าหลอดฟลูออเรสเซนต์มาตรฐานและอาบชานชาลาด้วยสีน้ําเงิน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตเกียวเห็นว่าความพยายามฆ่าตัวตายลดลง 84 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 10 ปีที่สถานีที่มีไฟอยู่
งานวิจัยของ มิชิโกะ อุเอดะ (Michiko Ueda) จากมหาวิทยาลัยวาเซดะ เผยว่า แสงสีน้ำเงินช่วยให้ผู้ประสบกับความเครียดทางจิตใจกลับสู่สภาวะผ่อนคลายได้เร็วขึ้นเมื่ออยู่ในพื้นที่แสงสีน้ำเงิน เนื่องจาก ‘สีน้ําเงิน’ เป็นสีที่ให้ความรู้สึกเงีบยสงบ เชื่อมโยงกับท้องฟ้าและทะเล จึงถูกนำมาใช้เพื่อปลอบประโลมใครก็ตามที่อาจทุกข์ใจ
ถึงกระนั้น อุเอดะพบว่า การฆ่าตัวตายบนทางรถไฟของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นหลังวันที่สภาพอากาศเลวร้ายหลายวัน โดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ชิกะวิเคราะห์การฆ่าตัวตายและความพยายามฆ่าตัวตาย 971 ครั้ง และพบว่าหลังวันที่มีเมฆมากและฝนตกชุกจะมีผู้พยายามจบชีวิตตัวเองสูงขึ้น
นอกจากการใช้แสงช่วยลดการฆ่าตัวตายแล้ว ประเทศญี่ปุ่นยังออกแบบให้มีประตูและสิ่งกีดขวางในระดับที่สูงกว่าหน้าอกในสถานีรถไฟหลายแห่ง โดยเฉพาะในโตเกียว
งานวิจัยดังกล่าว สะท้อนการพยายามแก้ปัญหาสุขภาพจิตของประเทศญี่ปุ่น โดยลงทุนกับการออกแบบพื้นที่เพื่อลดการฆ่าตัวตายในพื้นที่สาธารณะของคนในประเทศ ซึ่งอาจนำมาปรับใช้ได้กับประเทศไทย ผ่านการศึกษาและปรับปรุงรูปแบบให้เข้ากับสังคมไทย ควบคู่กับการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างอื่นๆ ไปด้วย