เราน่าจะอยู่ในยุคที่เลิกไล่เด็กผู้ชายให้ไปใส่กระโปรงกันแล้ว ทุกวันนี้ประเด็นเรื่องเพศสถานะ (gender) เป็นสิ่งที่ถูกขบคิดถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง จนล่าสุดก็เกิดในพื้นที่สำคัญๆ อย่างโรงเรียน พื้นที่ที่มีการจำแนกเพศของเด็กๆ ผ่านการใส่เครื่องแบบชายหญิง ซึ่งการที่เด็กต้องใส่ชุดนักเรียนตรงตามเพศในด้านหนึ่งก็เป็นการกะเกณฑ์อยู่ในทีว่า เธอเป็นผู้ชาย เธอเป็นผู้หญิง ควรจะต้องเป็นแบบไหน แต่งตัวหรือวางตัวยังไง ดังนั้นสมัยก่อนพอใครไม่มีคุณสมบัติตรงตามเพศของตัวเองก็มีการไล่ให้ไปนุ่งกระโปรง
ล่าสุดมีโรงเรียนเอกชนในอังกฤษและอีกหลายโรงเรียนเริ่มพิจารณานโยบายไม่ใช้ชุดนักเรียนแยกเพศของเด็กๆ คือเด็กผู้ชายอยากใส่กระโปรงไปเรียนก็ได้ ทำอะไรก็ทำถ้าสบายใจ
ถ้ามองจากสายตาสมัยเด็ก ในชุดความคิดแบบเก่าๆ การโดนให้ใส่ชุดของเพศตรงข้าม โดยเฉพาะผู้ชายต้องไปใส่ชุดของผู้หญิงเป็นการสร้างความอับอายอย่างหนึ่ง พอมีกระแสเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ ก็จะมีข้อโต้แย้งว่า อ้าว แบบนี้แปลว่าการเป็นผู้หญิงด้อยกว่าผู้ชายหรือ เพราะในทางกลับกันจะไม่ค่อยมีการลงโทษด้วยการให้เด็กผู้หญิงไปนุ่งกางเกงแต่อย่างใด
ระยะหลังแนวคิดที่เกี่ยวกับเพศ เพศสถานะ ที่บ่งชี้ว่าความเป็นเพศของผู้คนไม่ได้ถูกแบ่งและกะเกณฑ์ออกเป็นสองเพศโดยง่าย เรามีคนที่มีรสนิยมและความหลากหลายทางเพศที่แตกต่างและซับซ้อนเกินกว่าจะแยกแยะและบังคับให้เป็นแค่เพียงชายหรือหญิง
เด็กผู้ชายนุ่งกระโปรงไม่ใช่เรื่องน่าอาย ในสหราชอาณาจักรดูจะเป็นกระแสที่เด็กๆ ใช้เพื่อแสดงการต่อต้านประท้วงในประเด็นเรื่องเครื่องแบบ – ส่วนใหญ่คือกฎที่บังคับให้เด็กนักเรียนชายใส่กางเกงขายาวในช่วงหน้าร้อน ไม่ให้ใส่กางเกงขาสั้นใช่มั้ย งั้นก็ใส่กระโปรงซะเลย
กระแสใส่กระโปรงเพื่อต่อต้านเริ่มต้นในปี 2011 น้อง Chris Whitehead วัย 12 ปี นักเรียนโรงเรียน Impington Village College ใกล้ๆ เมืองเคมบริดจ์ บอกว่าการที่โรงเรียนมีกฎไม่ให้ใส่กางเกงขาสั้นแม้จะเป็นหน้าร้อนมันไม่โอเคเลย เลยประท้วงด้วยการใส่กระโปรง หลังจากนั้นดูเหมือนหลายโรงเรียนในอังกฤษคงมีกฎคล้ายๆ กัน ในปี 2013 ที่ Cardiff โรงเรียน Cardiff’s Whitchurch High School ก็มีกลุ่มเด็กนักเรียนชาย 17 คนใส่กระโปรงมาเรียนเพื่อประท้วงว่าจะใส่กางเกงขาสั้นเหมือนกัน และเมื่อปี 2016 ที่เมือง Brighton ก็มีนักเรียนชาย 4 คนใส่กระโปรงมาเรียนเพื่อประท้วงในประเด็นเดียวกัน
ไม่มีรายงานว่าผลการประท้วงทำให้การบังคับนักเรียนชายใส่กางเกงขายาวเปลี่ยนแปลงไหม แต่ล่าสุดที่โรงเรียน Highgate school ในลอนดอนออกกฎ ‘ชุดนักเรียนที่ยืดหยุ่น’ ซึ่งกฎนี้เป็นประเด็นที่ซับซ้อนไปกว่าการใส่เพื่อรับสภาพอากาศ แต่ทางโรงเรียนบอกว่าตอนนี้ประเด็นเรื่องเพศและตัวตนของนักเรียนมีความซับซ้อนก้าวหน้าไปมากแล้ว เด็กๆ เริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวตนของตัวเอง ดังนั้นกฎเรื่องเสื้อผ้าของโรงเรียนก็ควรจะมีความยืดหยุ่นและ ‘ไร้เพศ’ มากขึ้น คือเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงจะเลือกใส่เครื่องแบบไม่ว่าจะเป็นกระโปรงหรือกางเกงก็ได้ ไม่มีการแบ่งแยกเพศอีกต่อไป เอาความสบายใจเป็นสำคัญ
นอกจากโรงเรียน Highgate school ที่ออกกฎอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว The Guardian รายงานว่ามีโรงเรียนประถมอีกอย่างน้อย 120 โรงเรียนที่รับเอาแนวคิดเรื่องชุดนักเรียนไม่แบ่งแยกเพศ และพบว่าโรงเรียนประถมมีความก้าวหน้าในประเด็นนี้มากกว่าโรงเรียนมัธยม
สำหรับในอังกฤษเองก็มองว่าปัญหาเรื่องตัวตนและความแตกต่างหลากหลายทางเพศโดยเฉพาะในเด็กๆ และกลุ่มวัยรุ่นเป็นปัญหาที่ควรต้องให้ความสนใจ ในหลายโรงเรียนก็เริ่มปรับตัวเช่นการเปิดโอกาสให้เด็กเลือกใส่ชุดนักเรียนตามความต้องการ การมีห้องน้ำที่ไม่แยกเพศไว้ให้บริการ ไปจนถึงการเรียกเด็กๆ ด้วยคำที่ไม่มีเพศ เช่น ‘นักเรียน’ แทนการเรียกว่าเด็กชายหรือเด็กหญิง
ฟังดูอาจจะเยอะสิ่ง แต่เรื่องเพศและตัวตนก็เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเนอะ
ที่มา