ปัญหาสิ่งแวดล้อม และธรรมชาติ เป็นปัญหาที่เร่งด่วนที่เราเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในด้านลบกับโลกของเราแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโลกที่ร้อนมากขึ้น ภัยธรรมชาติ น้ำแข็งขั้วโลกละลาย สัตว์ต่างๆ เริ่มสูญพันธ์ ที่แม้บางประเทศก็เริ่มมีนโยบายด้านนี้ออกมา แต่หลายๆ คน โดยเฉพาะกลุ่มน้องๆ นักเรียนมองว่า ยังไม่เพียงพอ จนต้องโดดเรียนในวันศุกร์ เพื่อมาชุมนุมประท้วงกัน
เด็กนักเรียนหลายแสนคนทั่วโลก จาก 1,8000 เมือง ในกว่า 110 ประเทศ ตั้งแต่อินเดีย ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร ไปถึงแอฟริกาใต้ ได้หยุดเรียนในวันศุกร์ และรวมตัวประท้วง ให้กับวิกฤติสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม ที่รุนแรงมากขึ้น โดยในครั้งนี้ พวกเขาได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาล และนักการเมืองดำเนินการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหา และหลีกเลี่ยงการทำลายระบบนิเวศที่รุนแรง
การชุมนี้ เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยการนัดหยุดเรียน และออกมาชุมนุมนั้นเป็นแรงบันดาลใจจาก Greta Thunberg วัยรุ่นชาวสวีเดนอายุ 16 ปี ที่เริ่มหยุดเรียนในวันศุกร์ และประท้วงหน้ารัฐสภาสวีเดนตั้งแต่ปี 2018 ในแคมเปญ #FridayForFuture ซึ่งหลังจากนั้นได้กลายเป็นการเคลื่อนไหวก้าวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ของกลุ่มวัยรุ่นทั่วโลก ที่ออกมาเรียกร้องให้ตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อม
Ivy นักเรียนอายุ 14 ปี ที่มาเข้าร่วมชุมนุมให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันมาที่นี่เพราะฉันเชื่อว่าไม่มีประโยชน์ที่จะได้รับการศึกษา หากไม่มีอนาคต ฉันผิดหวังมากเหลือเกินที่คนที่สนใจเรื่องนี้เป็นคนที่ไม่สามารถลงคะแนนได้” เช่นเดียวกับ Arissa ที่เสริมว่า “พวกเราอายุแค่ 14 ปี แต่คนอื่นๆ ไม่มีใครทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันเป็นอนาคตของเรา และเราจะมีทางเลือกอะไร”
การนัดหยุดโรงเรียน และร่วมประท้วง เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวของเยาวชนทั่วโลก ในสหรัฐฯ ยังมีกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นผู้นำในการฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อต่อต้านรัฐบาลในการแสวงหาผลประโยชน์จากเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น หรือในโรงเรียนและสถานศึกษา นักเรียนเหล่านี้ก็ผลักดันให้ปลอดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งในการชุมนุมครั้งหน้า กลุ่มเยาวชน ยังชวนให้ผู้ใหญ่ออกมาชุมนุมด้วยกัน ในวันที่ 20 กันยายนที่จะถึงนี้ด้วย
#Brief #TheMATTER