แบรนด์เสื้อผ้าต่างๆ ในโลกหันมาใส่ใจกับปัญหาการซักเสื้อผ้าที่เกินความจำเป็นมากขึ้น ด้วยการออกแบบเสื้อผ้าที่ไม่ต้องซักบ่อยๆ เพราะนอกจากจะเสียแรงและเสียเวลาแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อโลกได้ด้วยนะ
การซักเสื้อผ้าที่เกินความจำเป็น สามารถส่งผลกระทบในแบบที่หลายๆ คนอาจคาดไม่ถึง รายงานระบุว่าเครื่องซักผ้าใช้น้ำประมาณ 17 เปอร์เซ็นต์ของการใช้น้ำทั้งหมดในบ้าน ที่สำคัญยังพบด้วยว่าประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ของเสื้อผ้าที่ถูกซักไม่ได้สกปรกพอที่จะถึงกับต้องซักด้วยซ้ำ
Pangaia แบรนด์เสื้อผ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตเสื้อผ้าที่ทำจากเส้นใยสาหร่ายทะเล และใส่น้ำมันเปปเปอร์มินต์เพื่อให้เสื้อผ้ามีความสดใหม่นานขึ้นระหว่างการใช้งาน และป้องกันแบคทีเรียได้ดี โดยไม่ต้องใช้สารเคมี จะได้ไม่ต้องซักบ่อยๆ ประหยัดน้ำกว่าการซักเสื้อผ้าที่ทำจากฝ้ายไปได้ราว 3,000 ลิตร ตลอดการใช้งาน
ในขณะที่อีกแบรนด์หนึ่งอย่าง Wool & Prince ผลิตเสื้อผ้าผู้ชายจากขนแกะเพราะเกิดความสกปรกได้ยากกว่า วัสดุขนแกะนั้นระบายอากาศและความชื้นได้ดี เหงื่อบนร่างกายจึงสามารถระเหยไปได้ แทนที่จะมาอับอยู่ใต้เสื้อผ้า แถมยังป้องกันทั้งอากาศหนาวและร้อนได้ด้วย
“มันสำคัญที่เราจะต้องเข้าใจก่อนว่าทำไมเสื้อผ้าถึงสกปรก เหงื่อจริงๆ แล้วสะอาดนะ แต่พอมันซึบซับไปยังเสื้อผ้า นั่นแหละคือการดึงดูดแบคทีเรียและส่งกลิ่นเหม็น ดังนั้นวิธีการก็คือเราต้องหาวัสดุที่ไม่ซึมซับหรือดักเหงื่อ” Mac Bishop ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Wool & Prince กล่าว
จริงๆ แล้ว อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนเราซักเสื้อผ้ากันบ่อย คือการโฆษณาของแบรนด์ผงซักฟอก ซึ่งผู้บริโภคจะตีความออกมาว่ามันเป็นสิ่งที่ดีและเป็นหน้าที่ที่ต้องทำเสื้อผ้าให้สะอาดเสมอๆ ดังนั้นความท้าทายของแบรนด์เสื้อผ้าที่ไม่ต้องซักบ่อยๆ คือการโน้มน้าวผู้บริโภคให้เข้าใจว่าการไม่ซักเสื้อผ้าบ่อยๆ ไม่ได้แปลว่าเราจะต้องสกปรกหรือเหม็นเสมอไป
Bishop บอกว่ามันต้องใช้เวลาในการให้ผู้บริโภคปรับความเข้าใจ หลังจากถูกปลูกฝังมาตลอดว่าการใส่เสื้อผ้าที่ไม่ได้ซักทำให้คนใส่ไม่สะอาด
ในปี 2017 องค์กรไม่แสวงผลกำไร Fashion Revolution ได้ก่อตั้งโครงการ ‘Care Label Project’ เพื่อให้ความรู้ผู้บริโภคเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการซักเสื้อผ้าที่มากเกินความจำเป็น และร่วมออกแบบป้ายฉลากที่ระบุว่า “อย่าซักมากเกินความจำเป็น” ลงไปบนเสื้อผ้ากว่า 18,200 แบบ
การซักเสื้อผ้าที่มากเกินไปสามารถส่งผลไปถึงมลพิษขยะพลาสติกได้เช่นกัน ในการซักแต่ละครั้ง อนุภาคพลาสติกขนาดเล็กจากผ้าใยสังเคราะห์จะถูกปล่อยออกมา และสุดท้ายมันก็จะไหลไปยังแหล่งน้ำต่างๆ หรือทะเลก็ด้วย นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า 83 เปอร์เซ็นต์ของตัวอย่างน้ำประปาในหลายประเทศมีใยพลาสติกเจือปนอยู่
อ้างอิงจาก
https://www.fastcompany.com/90359188/the-next-big-thing-in-fashion-not-washing-your-clothes
#Brief #TheMATTER