โบสถ์หลายแห่งในเนเธอร์แลนด์ ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองไปสู่สถานที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมทางศาสนามากขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนจะเป็นเทรนด์ที่สะท้อนถึงที่ทางของคริสต์ศาสนาในทุกวันนี้ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
สื่อท้องถิ่นของเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยรายงานที่น่าสนใจออกมาว่า ตอนนี้โบสถ์เก่าๆ ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อระหว่างปี 1800-1970 นั้น มีจำนวน 25 เปอร์เซ็นต์ (หรือราวๆ 1 ใน 5) ที่ถูกเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานของสถานที่เป็นอย่างอื่น ที่ไม่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมทางศาสนาโดยตรงอีกต่อไปแล้ว
ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงเช่น โบสถ์ที่ถูกออกแบบภายในใหม่ให้กลายเป็นบาร์เหล้า ร้านขายของแบรนด์ต่างๆ รวมถึงคอนโดที่พักอาศัย ตลอดจนลานสเก็ตน้ำแข็ง ที่ครอบครัวต่างๆ สามารถนำลูกๆ มาใช้เวลาพักผ่อนหย่อนใจได้
หนึ่งในโปรเจ็กต์ที่ถูกพูดถึงอยู่บ่อยๆ คือโบสถ์ Maastricht ที่วันนี้ได้กลายเป็นร้านหนังสือ Boekhandel Selexyz Dominicanen ซึ่งได้รับคำชมถึงเรื่องความสวยงามพอสมควร
รายงานระบุว่า ปัจจัยหลักๆ ที่เกี่ยวข้องต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ มาจากทั้งเรื่องต้นทุนและเงินทุนเกี่ยวกับการดูแลสถานที่เอง ที่โบสถ์บางแห่งมีค่าใช้จ่ายที่ดูแลเยอะเกินที่จะดูแลเองต่อไปได้
ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญอยู่ที่กระแสของ ‘Secularization’ หรือการเปลี่ยนผ่านสังคมให้เป็นเรื่องฆราวาสมากยิ่งขึ้น ซึ่งกระแสนี้เกิดขึ้นอย่างเข้มข้นในเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่ช่วงปี 2017 เป็นต้นมา
นอกจากเนเธอร์แลนด์แล้ว กระแสความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับศาสนากระแสหลัก ก็เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ รวมถึงอังกฤษด้วยเหมือนกัน
ผลสำรวจของ British Social Attitudes (BSA) พบว่า คนรุ่นใหม่ๆ ในอังกฤษมากกว่าครึ่งหนึ่ง ระบุตัวเองว่า ‘ไม่มีศาสนา’ และมีอีกจำนวนไม่น้อยที่ระบุว่าเป็น atheist หรือ อเทวนิยม
อ้างอิงจาก
https://www.huffpost.com/entry/dutch-churches-secular-building_n_5d23855ae4b01b83473ae3a2
https://theconversation.com/are-the-non-religious-becoming-the-new-religion-105446
#Brief #TheMATTER