การชุมนุมในฮ่องกงมีสิ่งน่าสนใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คราวนี้ดูเหมือนกับเรื่องราวในหนังแนว Cyber Punk เมื่อผู้ชุมนุมหลายคนใช้เครื่องยิงเลเซอร์ตอบโต้เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าของฝั่งตำรวจ
หลายวันมานี้ นักข่าวจากสื่อหลายๆ สำนักได้พบเทคนิคใหม่ๆ ที่ผู้ชุมนุมชาวฮ่องกงนำมาใช้เพื่อต่อสู้กับเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า ที่ผู้ชุมนุมเชื่อว่ามันคืออาวุธที่ทางการสามารถนำมาตรวจสอบ และสามารถนำข้อมูลตัวตนเหล่านั้นส่งต่อไปให้กับทางจีนแผ่นดินใหญ่ได้
เลเซอร์ที่ยิงออกไป ก็เพื่อทำให้กล้องตรวจจับใบหน้าของตำรวจเกิดความสับสน และไม่สามารถบันทึกหรือนำไปประมวลข้อมูลผู้ชุมนุมได้ต่อไป
รายงานของ Washington Post เล่าว่า ผู้ชุมนุมหลายคนโดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ในแนวหน้าของการประท้วงได้ติดอุปกรณ์ยิงเลเซอร์ไว้กับตัวเอง เพราะเป็นกลุ่มที่จะต้องเผชิญหน้ากับตำรวจเยอะที่สุด
เหตุการณ์ในบางช่วงยังเป็นคล้ายกับหนังแนวไซไฟ เมื่อท้องถนนเต็มไปด้วยควันจากแก๊สน้ำตา ขณะเดียวกัน แสงเลเซอร์ต่างๆ จากผู้ชุมนุมก็ยิงออกมาจากควันเหล่านั้น ทั้งจากผู้ชุมนุมในแนวหน้าและแนวหลักที่ปักหลักอยู่ โดยทั้งหมดพยายามเล็งเลเซอร์ไปยังฝั่งตำรวจ
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าการพยายามปกปิดตัวตนของผู้ชุมนุม ยังเป็นมากกว่าแค่เรื่องของความไม่ไว้วางใจทางการ เพราะมันยังรวมถึงการรักษาความสัมพันธ์กับคนที่คิดเห็นต่างทางการเมืองในชีวิตประจำวันอีกด้วย
ด้าน Telegraph สื่อของอังกฤษ สัมภาษณ์หนึ่งในผู้ชุมนุมถึงเรื่องนี้ โดยเธอตอบว่า “ในทุกสุดสัปดาห์ ฉันรู้สึกโกรธ รุ่มร้อน และหมดหวัง…แต่พอเริ่มต้นสัปดาห์มาใหม่ คุณต้องทำตัวเป็นปกติแล้วกลับไปทำงานต่อ”
การชุมนุมที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเด็นที่น่าสนใจมากๆ คือการที่เส้นแบ่งระหว่างทางการของฮ่องกง กับทางการจีนเบาบางลงเรื่อยๆ หรือพูดในอีกทางหนึ่งได้ว่า การชุมนุมของฮ่องกงในช่วงหลังมานี้ ผู้ชุมนุมหลายคนได้คิดว่า นี่คือการต่อสู้กับรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ไปโดยปริยายแล้ว
อ้างอิงจาก
https://futurism.com/the-byte/hong-kong-protesters-lasers-facial-recognition
#Brief #TheMATTER