เกิดเหตุกราดยิงขึ้น 2 ครั้งภายในหนึ่งวันที่สหรัฐฯ เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้า Walmart ในรัฐ Taxas คนร้ายถือปืนไรเฟิลเข้าไปบุกยิงผู้คน และมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้อย่างน้อย 20 ราย ส่วนเหตุการณ์ที่สอง เกิดขึ้นที่ เมืองเดย์ตัน รัฐโอไฮโอ มีผู้เสียชีวิต 9 ราย
สถิติที่น่าสนใจคือ ถ้านับ 9 อันดับเหตุกราดยิงที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดแล้ว จะพบว่า 4 ใน 9 นั้นเกิดขึ้นในรัฐ Texas
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น?
ประเด็นสำคัญมีทั้งปัจจัยเรื่องกฎหมายการครอบครองปืนที่ Texas ที่ค่อนข้างเปิดช่องให้การซื้อและพกพาปืน (ทั้งปืนสั้นและปืนยาว) ในที่สาธารณะเป็นไปโดยง่ายกว่ารัฐอื่นๆ ในประเทศ
สื่อสหรัฐฯ เคยตั้งคำถามถึงกรณีเหตุกราดยิงที่โบสถ์เมื่อปี 2017 ว่า คนร้ายก็สามารถถือปืนยาวในที่สาธารณะได้อยู่แล้ว และนี่น่าจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้การถือปืนออกไปยิงใส่ผู้คนเกิดขึ้นได้ (ถึงอย่างนั้น ก็พอจะมีข้อจำกัดอยู่เหมือนกัน เช่น ห้ามพกปืนไปในบางสถานที่ หรือร้านค้าบางแห่งก็สามารถติดป้ายว่า ขอความร่วมมือไม่ให้ลูกค้าพกปืนเข้าไปได้)
ขณะเดียวกัน ถ้ามองในภาพกว้าง การเมืองในรัฐเองก็เข้มข้นมากๆ ในเรื่องนี้ เพราะผู้ว่าการรัฐ ‘เกร็ก แอ๊บบอต’ เองก็อยู่ในฝั่งที่ได้รับการสนับสนุนจาก NRA (สมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติ – National Rifle Association) ซึ่งมีอิทธิพลและอำนาจค่อนข้างมากในการล็อบบี้นักการเมืองต่างๆ ให้สนับสนุนธุรกิจปืน
อย่างล่าสุด แอ๊บบอต ก็เพิ่งถูกวิจารณ์เรื่องที่ใช้อำนาจวีโต้ แนวคิดที่จะให้การนำปืนเข้าไปในสถานที่ปลอดภัยในสนามบินเป็นอาชญากรรมที่รุนแรงในระดับรัฐมาแล้ว
เช่นเดียวกับเหตุรุนแรงที่เพิ่งเกิดขึ้นในห้างสรรพสินค้า แอ๊บบอตก็ขอให้นักข่าวอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนโยบายควบคุมปืนมากนัก หลังจากถูกถามเรื่องนโยบายควบคุมปืน ขณะเดียวกัน เขาก็พยายามจะเน้นน้ำหนักไปที่ปัจจัยภายในภาวะจิตใจของมือปืน
ปัจจัยด้านด้านภูมิศาสตร์ก็น่าสนใจไม่น้อยเหมือนกัน เพราะเป็นที่รู้กันว่า Texas ก็อยู่ใกล้กับชายแดนประเทศเม็กซิโก ซึ่งความขัดแย้งทั้งด้านจุดยืนทางการเมืองด้านสุดโต่งของคนที่ต่อต้านผู้อพยพ รวมถึงความเกลียดชังเรื่องชาติพันธุ์เองก็อาจมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะกับการก่อเหตุที่เป็น Hate Crime
อย่างไรก็ดี เคยมีการเปรียบเทียบประเด็นการเมืองกับมาตรการควบคุมปืนอยู่หลายครั้ง หนึ่งในนั้นคือจุดยืนของนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ จาซินดา อาร์เดิร์น ที่เคย ประกาศคำสั่งห้ามซื้อขายอาวุธปืนไรเฟิลอัตโนมัติ และกึ่งอัตโนมัติทุกประเภท ซึ่งคนสหรัฐฯ จำนวนไม่น้อย ย้อนกลับมาตั้งคำถามกับนโยบายในทั้งระดับประเทศและรัฐของตัวเอง
-สถิติกราดยิง 8 ครั้งที่รุนแรงที่สุดในสหรัฐฯ-
เทศกาลดนตรีในเมือง Las Vegas รัฐ Nevada : 58 ราย (ปี 2017)
Pulse night club เมือง Orlando รัฐ Florida : 49 ราย (ปี 2016)
มหาวิทยาลัย Virginia Tech รัฐ Virginia : 32 ราย (ปี 2007)
โรงเรียนประถม Sandy Hook รัฐ Connecticut : 27 ราย (ปี 2012)
First Baptist Church รัฐ Texas : 25 ราย (ปี 2017)
ร้านอาหาร Ruby’s รัฐ Texas : 23 ราย (ปี 1991)
McDonald’s รัฐ California : 21 ราย (ปี 1984)
ห้างสรรพสินค้า Walmart รัฐ Texas : 20 ราย (ปี 2019)
มหาวิทยาลัย Texas รัฐ Texas : 18 ราย (ปี 1966)
อ้างอิงจาก
https://edition.cnn.com/2019/08/03/us/texas-el-paso-walmart-shooting-among-deadliest-trnd/index.html
https://abcnews.go.com/US/wireStory/latest-police-multiple-mall-shooters-64754578
https://www.voathai.com/a/new-zealand-guns-used-in-mosque-attack-banned-immediately/4841813.html
https://thematter.co/quick-bite/8-mass-shooting-in-us/36723
#Brief #TheMATTER