คดีฆาตกรรมที่เคยทำให้ประเทศไทยเป็นข่าวดังระดับโลก เมื่อ 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษถูกฆ่าบนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ในปี พ.ศ.2557 ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องระดมสรรพกำลังมหาศาลมาคลี่คลายคดี ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์และความพยายามตรวจสอบการทำงานจากนักสืบบนโลกออนไลน์ ล่าสุดได้ปิดฉากลงแล้ว หลังศาลฎีกามีคำตัดสินออกมา
ศาลฎีกาพิพากษายืนให้ ‘ประหารชีวิต’ จำเลยชาวพม่า ทั้งซอลินและวิน ซอ ตุน โดยการอ่านคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ และมีล่ามแปลภาษา
ไทยพีบีเอสรายงานคำพิพากษาของศาลฎีกาว่า คดีนี้มีพยานหลักฐาน รวมทั้งผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ การตรวจสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ตรงกับจำเลย ตามที่โจทก์ยื่นพยานหลักฐาน จึงมีความชัดเจน น่าเชื่อถือและมีความละเอียดในเรื่องของห้วงเวลา ทั้งนี้ ไม่เชื่อว่าตำรวจจะสร้างพยานหลักฐานเท็จเพื่อปรักปรำจำเลย รับฟังได้ปราศจากข้อสงสัย ข้อฎีกาของจำเลยทั้ง 2 จึงฟังไม่ขึ้น
“ศาลพิพากษายืนตามศาลอุทรณ์ ให้ประหารชีวิตสถานเดียว”
ทนายความของจำเลยทั้ง 2 คน บอกว่า กำลังขอรายละเอียดคำพิพากษามาดูก่อนพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่อาจจะทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งต้องทำภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คดีถีงที่สุด
เหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ.2557 ที่หาดทรายรีบนเกาะเต่า โดยผู้เสียชีวิตคือฮันนาห์ วินเธอร์ริดจ์ และเดวิด มิลเลอร์ จำเลยชาวพม่าทั้ง 2 คนถูกจับกุมหลังเกิดเหตุไม่นาน โดยตำรวจไทยอ้างว่าทั้งคู่รับสารภาพ แต่จำเลยให้การกับศาลในเวลาต่อมาว่าถูกทำร้ายร่างกายให้สารภาพ ทั้งนี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินให้ประหารชีวิตบุคคลทั้งสอง
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/thai/49506391
https://www.thairath.co.th/news/local/central/1648595
https://news.thaipbs.or.th/content/283513
#Brief #TheMATTER