การประท้วงในฮ่องกงเข้าสู่สัปดาห์ที่ 13 หรือกำลังจะเข้าสู่เดือนที่ 4 แล้ว โดยสถานการณ์เริ่มดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ มีการบุกเข้าสถานีรถไฟ ยิงแก๊สน้ำตา จับกุมผู้ชุมนุม ซึ่งทำให้มีประชาชนบาดเจ็บหลายคน รวมถึงทางผู้ประท้วงเองก็มีการก่อกองไฟ และโยนระเบิดเพลิงด้วย
สถานีโทรทัศน์ต่างๆ ได้ถ่ายทอดภาพตำรวจปราบจลาจลใช้กระบองเข้าตีผู้โดยสาร ในตู้รถไฟ สถานี Prince Edward ใช้แก๊สน้ำตา และพ่นสเปรย์พริกไทยใส่ผู้โดยสารจำนวนมาก ซึ่งในคลิป แสดงให้เห็นภาพประชาชนที่โดนทำร้ายจนเลือดไหล และหวาดกลัว ซึ่งรัฐบาลได้กล่าวในแถลงการณ์ว่า ผู้ประท้วงได้ก่อเหตุก่อกวนในสถานี และโจมตีประชาชน เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเพื่อหยุดการกระทำที่รุนแรงและจับกุมผู้กระทำความผิด
นอกจากนี้ ในการชุมนุมที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ทางตำรวจเองก็ได้ใช้วิธีอย่างการฉีดน้ำย้อมสีฟ้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ตัวผู้ประท้วงเลอะสี และเป็นสัญลักษณ์ สำหรับการจับกุมในภายหลังได้ รวมถึงยังยิงแก๊สน้ำตาด้วย
ในขณะเดียวกัน ฝั่งผู้ประท้วงเองก็มีการโต้ตอบตำรวจด้วยการขว้างอิฐ และค็อกเทลโมโลตอฟ หรือระเบิดเพลิง ทำเป็นแผงกั้นและเครื่องกีดขวางขนาดใหญ่บนถนน Hennessy ในบริเวณ Wan Chai โดยสถานการณ์ที่ตึงเครียดนี้ ทำให้สถานีรถไฟบางแห่งปิดลง รถไฟใต้ดินหยุดชั่วคราว และตำรวจได้เตือนประชาชนให้อยู่ข้างในบ้าน ปิดหน้าต่าง ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ใช้กำลัง เพื่อสลายกลุ่มผู้ประท้วง
แต่ในตอนนี้ก็มีการถกเถียงกันว่า คนที่โยนระเบิดเพลิง เป็นผู้ประท้วง หรือตำรวจ เพราะมีการเชื่อว่าอาจเป็นการสร้างสถานการณ์ หลังตำรวจยอมรับว่า มีเจ้าหน้าที่แฝงตัวเข้าไปกับกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย
สถานการณ์ในฮ่องกงตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ หลังวันศุกร์ที่ผ่านมา โจชัว หว่อง และนักเรียกร้องประชาธิปไตยอีก 2 คน โดนตำนวจจับกุม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่อนุมัติการขออนุญาตชุมนุมของผู้ประท้วง ซึ่งหนึ่งในผู้ประท้วงมองว่า การประท้วงเคยเกิดขึ้นอย่างสงบ แต่ไม่มีการตอบโต้จากรัฐบาล นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เรากำลังก้าวร้าวมากขึ้นและพยายามขัดขวางเศรษฐกิจฮ่องกง
อ้างอิงจาก
#Brief #TheMATTER