สถานการณ์การประท้วงในฮ่องกงดุเดือดมากขึ้นเรื่อย โดยเฉพาะในช่วงเดือนที่ 4 หลังจากมีนักศึกษาชายโดนกระสุนจริงยิงในวันชาติ ทำให้การชุมนุม และประท้วงนั้นรุนแรงมากขึ้น และมียกระดับการรับมือจากรัฐบาลที่จะเฝ้าระวังเหตุการณ์มากขึ้น
ความรุนแรงจากการประท้วงนี้ ทำให้ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบบรถไฟฟ้าใต้ดินทั้ง 11 สายหยุดให้บริการ เนื่องจากการชุมนุม ก่อนจะมีเปิดให้บริการบางส่วน เช่นเดียวกับธนาคาร และห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ที่ปิดให้บริการเช่นกัน สถานการณ์ที่ฉุกเฉินนี้ ทำให้ชาวฮ่องกงจำนวนมากตื่นตระหนก ออกไปจับจ่ายสินค้าเพื่อกักตุน โดยมีสินค้าขาดตลาด หมดจากร้านค้า และยังมีรายงานว่า มีการต่อคิวเพื่อจ่ายเงินที่แคชเชียร์ซึ่งต้องรอนานถึง 45 นาทีเลยด้วย
ในโซเชียลมีเดียเอง ก็มีการโพสต์ภาพของร้านค้าต่างๆ ที่ชั้นวางว่าง สินค้าไม่เพียงพอ โดยแม่บ้านคนนึงในย่านมงก๊กที่รีบมาซูเปอร์มาเก็ตเพื่อกักตุนของก็เล่าว่า พนักงานซูเปอร์มาเก็ตระบุว่าพวกเขาไม่มีเวลาที่จะเติมเสบียงใหม่เนื่องจากความวุ่นวายทั่วฮ่องกง “ฉันไม่รู้ว่าผู้คนแสดงออกกันเกินไปหรือไม่ แต่ฉันไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนในชีวิต นี่คือช่วงสงคราม ฉันเห็นคนที่กักตุนแม้แต่กระดาษทิชชู่”
นอกจากซูเปอร์มาเก็ตที่ขาดสินค้าแล้ว ตู้ ATM ต่างๆ มีคิวคนรอถอนเงินสดจำนวนมาก ทั้งยังมีรายงานว่าหลายๆ ตู้ขาดแคลนเงินสดด้วย จากการที่ประชาชนแห่กดเงินออกจำนวนมากอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะตู้ของธนาคาร HSBC ซึ่งมีการรายงานว่า รัฐจีนได้ติดตามผู้ประท้วงฮ่องกงผ่านทางพฤติกรรมการชำระเงินทางดิจิทัลของพวกเขา ทำให้เขาเปลี่ยนมาใช้เงินสด รวมถึงปริมาณซื้อขาย Bitcoin ในฮ่องกงก็เพิ่มขึ้น
สถานการณ์ที่รุนแรงขึ้น ทำให้รัฐบาลฮ่องกงประกาศกฎหมายฉุกเฉิน ซึ่งเป็นการใช้อำนาจฉุกเฉินในรอบ 50 ปี ทำให้แครี่ หลำ ผู้ว่าเกาะฮ่องกง สามารถใช้กฎหมายข้อบังคับใดก็ได้โดยไม่ต้องผ่านการเห็นชอบจากสภา เช่นการตรวจสอบสื่อ ควบคุมระบบขนส่งสาธารณะ และคำสั่งห้ามผู้ชุมนุมใส่หน้ากาก รวมถึงยังมีรายงานว่า ตอนนี้ โรงเรียนต้องแจ้งรัฐบาลหากพบนักเรียนสวมใส่หน้ากาก
และตอนนี้ มีนักศึกษาชาย และผู้หญิงอายุ 38 ปี ที่เป็น 2 คนแรกที่ขึ้นศาลจากการถูกกล่าวหาว่าสวมหน้ากาก ซึ่งผิดกฎหมาย โดยอาจจะถูกจำคุกนานถึง 3 ปีจากการชุมนุม และฝ่าฝืนการห้ามสวมหน้ากากที่มีโทษจำคุกอีกไม่เกิน 1 ปี ในขณะที่นอกศาลมีผู้ประท้วงที่ตะโกนว่า “สวมหน้ากากปิดหน้าไม่ใช่อาชญากรรม” และ “กฎหมายไม่ยุติธรรม” ด้วย
https://beincrypto.com/hong-kong-atms-run-out-of-money-as-bitcoin-trading-volume-balloons/
https://qz.com/1722642/hong-kong-has-shut-down-its-entire-train-system/
#Brief #TheMATTER