10 ตุลาคมของทุกปี ถูกยกให้เป็น ‘วันสุขภาพจิตโลก’ (World Mental Health Day) เพื่อรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต ขณะที่หลายปีหลังโฟกัสไปประเด็นที่การป้องกันการฆ่าตัวตายด้วย (จริงๆ มีวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก หรือ World Suicide Prevention Day อยู่แล้ว เป็นวันที่ 10 กันยายนของทุกปี แต่ระยะหลัง ปัญหาการฆ่าตัวตายมีความรุนแรงมากขึ้น)
ในวันสุขภาพจิตโลก องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เผยสถิติว่า ทั่วโลกมีคนฆ่าตัวตายทุกๆ 40 วินาที หรือราว 8 แสนคน/ปี จึงออกคู่มือป้องกันการฆ่าตัวตาย ที่ทำได้ภายใน 40 วินาที ที่ชื่อ ’40 seconds of action’
อาทิ
– หากคุณประสบปัญหา ให้หาเวลาสัก 40 วินาทีคุยกับคนที่คุณไว้ใจ
– หากคุณรู้ว่าใครเพิ่งเสียคนที่รักไปหาเวลาสัก 40 วินาทีพูดคุยกับเขาว่าจะทำอะไรต่อ
– ถ้าคุณทำงานในแวดวงศิลปะหรือสื่อดิจิทัลให้หาเวลาสัก 40 วินาทีอธิบายวิธีป้องกันการฆ่าตัวตาย
ฯลฯ
ด้านกรมสุขภาพจิตของไทย เคยให้ข้อมูลว่า มีคนไทยฆ่าตัวตายเฉลี่ยวันละ 11-12 คน หรือราว 2 ชั่วโมงต่อคน สาเหตุมาจากเรื่องความสัมพันธ์ ปัญหาจากสุรา โรคทางกาย ปัญหาด้านเศรษฐกิจ และโรคทางจิต
ในขณะที่ภาครัฐมีการจัดงานเสวนาเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตและการฆ่าตัวตาย อาทิ กรมสุขภาพจิตให้ข้อมูลเรื่องวิธีสังเกต 5 สัญญาณเตือนการฆ่าตัวตายจากสิ่งที่โพสต์ในโลกโซเชียล เช่น โพสต์ข้อความส่งเสียเป็นนัย, โพสต์ถึงความตายหรือไม่อยากอยู่อีกแล้ว, โพสต์ข้อความว่ารู้สึกผิด ล้มเหลว หมดหวังในชีวิต, โพสต์ถึงความเจ็บปวด และโพสต์ว่าตัวเองเป็นภาระผู้อื่น ซึ่งหากใครพบว่ามีปัญหาสามารถปรึกษาจิตแพทย์ที่คลินิกใกล้บ้าน หรือสายด่วนสุขภาพจิต 1323
ส่วนภาคเอกชนก็มีอาทิ Ooca แพล็ตฟอร์มให้คำปรึกษาผ่านวีดิโอคอลล์ ก็เปิดให้คำปรึกษาฟรี ระหว่างเวลา 09.00-24.00 น. โดยจะมีจิตแพทย์และนักจิตวิทยารอสแตนด์บายให้คำปรึกษา 20 คน
อ้างอิงจาก
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1657393
https://www.dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=29984
https://www.facebook.com/oocaok/posts/678919179178327
#Brief #TheMATTER