กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่า ฐานทัพอากาศอิน อัล-อาซาด (Ain al-Asad) ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศอิรัก และเป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ถูกยิงถล่มด้วยขีปนาวุธหลายสิบลูก โดยกองพิทักษ์การปฎิวัติอิหร่าน (IRGC) ซึ่งอิหร่านประกาศว่า เป็นการล้างแค้นให้กับนายพล คาเซ็ม ซูลีมานี
สื่อในอิหร่าน รายงานด้วยว่า กองทัพปฏิวัติอิหร่านประกาศจะมีการโจมตีที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม และขยายวงกว้างไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ โดยระบุว่าหากประเทศใดอนุญาตให้สหรัฐฯ ใช้พื้นที่เป็นฐานในการโจมตีอิหร่าน ก็จะถูกตอบโต้จากอิหร่านไปด้วยเช่นกัน
ตอนนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้เรียกประชุมฉุกเฉินหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทั้งหมด เพื่อประเมินขอบเขตความเสียหายจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความผ่านแอคเคาท์ส่วนตัวด้วยว่า “ทุกอย่างโอเค มิสไซล์จากอิหร่านเข้าโจมตีสองฐานทัพที่ตั้งอยู่ในอิรัก ขณะนี้กำลังประเมินผู้บาดเจ็บและความเสียหายที่เกิดขึ้น ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาอะไร เรามีกองกำลังทหารที่ทรงพลานุภาพ และยุทโธปกรณ์ที่ครบครันทุกที่ในโลก! ผมจะแถลงการณ์พรุ่งนี้เช้า”
ขณะนี้ สำนักงานบริการการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ (FAA) ประกาศห้ามสายการบินทุกแห่งของสหรัฐฯ บินเหนือน่านฟ้าอิรัก อิหร่าน อ่าวโอมาน รวมถึง เหนือน่านน้ำระหว่างอิหร่านกับซาอุดิอาระเบีย หลังจากปฏิบัติการตอบโต้สหรัฐฯ ของอิหร่าน
อ้างอิงจาก
https://twitter.com/realDonaldTrump/status/1214739853025394693
https://www.nytimes.com/2020/01/07/world/middleeast/trump-iran.html
https://www.theguardian.com/business/2020/jan/07/faa-ban-iran-iraq-us-airlines
พิสูจน์อักษร: วัศพล โอภาสวัฒนกุล
#Brief #TheMATTER