สถานการณ์การแพร่ระระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ตอนนี้ลุกลามไปกว่า 18 ประเทศ/เขตการปกครอง และมียอดผู้ติดเชื้อเกือบหมื่นราย ทำให้องค์การอนามัยโลก ต้องออกมาประกาศภาวะฉุกเฉินสาธารณสุขทั่วโลก
ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส (Tedros Adhanom Ghebreyesus) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO แถลงการณ์ให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขทั่วโลก ทั้งยังกำชับว่า นี่ไม่ใช่การโหวตไม่ไว้วางใจจีน แต่เป็นเพราะการลุกลามของไวรัส ที่อาจแพร่เชื้อไปยังประเทศที่มีระบบสาธารณสุขอ่อนแอ
อย่างกรณีการแพร่ระบาดของอีโบลา เมื่อปี ค.ศ.2014 ในแอฟริกาตะวันตก ที่ชี้ให้เห็นว่า ประเทศที่ยากจน ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโรคระบาด ซึ่งหากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แพร่ระบาดไปยังประเทศที่ยากจน ก็จะควบคุมสถานการณ์ได้ยากมาก
นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลก ยังออกคำแนะนำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของทุกประเทศ รวมถึงการยกระดับเฝ้าระวัง การเตรียมรับมือ และมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีกด้วย
นี่ถือเป็นการแนะนำให้ให้ทุกประเทศหาวิธีการป้องกัน และกำหนดข้อจำกัดในการเดินทาง เพื่อลดการแพร่เชื้อข้ามประเทศ ซึ่งประกาศนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่หลายประเทศออกแนวทางรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส เช่น ปิดพรมแดน ยกเลิกเที่ยวบิน ระงับวีซ่า รวมไปถึง เหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Ikea, Starbucks และ Tesla ที่ประกาศปิดบริษัทในจีนชั่วคราว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
ถึงแม้ว่า องค์การอนามัยโลก จะไม่มีอำนาจทางกฎหมาย ที่จะลงโทษประเทศที่ไม่ปฏิบัติตาม แต่ก็สามารถขอความร่วมมือจากรัฐบาล ในการจัดหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ เพื่อนำมาออกข้อจำกัดด้านการเดินทาง และการค้า ในกรณีที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขได้
*หมายเหตุ: ข้อมูลวันที่ 31 มกราคม ปี ค.ศ.2020 เวลา 8.30 น.
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-51318246
https://www.nytimes.com/2020/01/30/world/asia/coronavirus-china.html
พิสูจน์อักษร: วัศพล โอภาสวัฒนกุล
#Brief #TheMATTER