ปัญหาโลกร้อนสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกอย่างมหาศาล และทำให้เกิดความกังวลมากมาย อย่างผลกระทบที่เกิดขึ้นในทวีปแอนตาร์กติกา ที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น แผ่นน้ำแข็งในทวีปจำนวนมากละลาย และจะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้น
เมื่อวัน 6 มกราคมที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) Esperanza ศูนย์วิจัยในอาร์เจนตินา บันทึกว่า ทวีปแอนตาร์กติกา มีอุณหภูมิอยู่ที่ 18.3 องศาเซลเซียส สูงกว่าอุณหภูมิสูงสุดที่เคยมีการบันทึกไว้ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคม ปี ค.ศ. 2015 (ที่มีอุณหภูมิ 17.5 องศาเซลเซียส) โดยองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) กำลังทำการตรวจสอบเรื่องนี้อยู่
ทวีปแอนตาร์กติกาเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่อุณหภูมิเพิ่มขึ้นสูงเร็วที่สุดในโลก โดยอุณหภูมิในทวีปได้เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 3 องศาเซลเซียส ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง WMO เผยว่า ธารน้ำแข็งกว่า 87% ที่อยู่ในทางชายฝั่งภาคตะวันออกของทวีปได้ ‘ล่าถอย’ ไปในเวลานั้น
นอกจากนี้ WMO ยังเผยอีกว่า ธารน้ำแข็งได้แสดงให้เห็นว่ามีการ ‘ล่าถอยที่เร็วขึ้น’ ในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาภาวะโลกร้อน
เหล่านักวิทยาศาสตร์ เตือนว่า ปัญหาโลกร้อน ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกใต้ละลายหนักมาก และสุดท้ายมันจะแตกสลายไป ซึ่งส่งผลให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นอย่างน้อย 3 เมตร ตลอดช่วงหลายศตวรรษ
โฆษกของ WMO กล่าวว่า ปริมาณน้ำแข็งของแผ่นน้ำแข็งที่อยู่ในทวีปแอนตาร์กติกาที่สูญเสียไปในแต่ละปี ได้เพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1979 ถึง ค.ศ.2017
“การละลายของธารน้ำแข็งเหล่านี้ แสดงให็เห็นว่า พวกเรากำลังเจอกับปัญหาใหญ่ ในเรื่องของระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น” โฆษกของ WMO กล่าวเสริม
การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิในทวีป เกิดจากระดับความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภูมิภาคมานานหลายวัน ระบบความดันสูง ประกอบไปด้วย อากาศจม แต่ปรากฏการณ์นี้มีอิทธิพลแค่ในระดับท้องถิ่น เพราะลมเฟิห์น (Foehn) ที่เกิดจากลมที่พัดภูเขา ได้เกิดการบีบอัด เมื่อความกดอากาศสูงขึ้นใกล้พื้นผิวโลก ซึ่งทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้หากดูจากภาพจำลองสภาพภูมิอากาศในช่วงที่มีการบันทึกว่ามีอุณหภูมิสูงที่สุด พบว่า มีอากาศร้อนสูงในระดับพื้นผิวโลก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า อากาศที่ผสมปนเปกันที่ระดับพื้นผิวโลก ก็สามารถทำให้อุณหภูมิในทวีปเพิ่มสูงขึ้นได้
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-51420681
พิสูจน์อักษร: จิรัชญา ชัยชุมขุน
#Brief #TheMATTER