การประกาศรางวัลออสการ์ ในปี 2020 ในส่วนของพรมแดงอาจจะไม่มีอะไรจัดจ้านนักหากเทียบกับหลายเวทีก่อนหน้า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนโดดเด่นเสียเลย อย่าง Billy Porter ปีนี้ก็ใส่เสื้อสีทองกับกระโปรงสีส้ม, Spike Lee ยังมาในสูทม่วงเพิ่มเติมคือการขลิบสีเหลืองและติดหมายเลข 24 บนตัวเสื้อ ซึ่งเป็นเบอร์ประจำตัวของ Kobe Bryant นักบาสเก็ตบอลผู้เสียชีวิตไปในช่วงปลายเดือมมกราคม ปี 2020, Natalie Portman ดาราที่ใช้พื้นที่พรมแดงในการประกาศจุดยืนด้วยการใส่ชุดหรูที่มาพร้อมกับเสื้อคลุมปักชื่อผู้กำกับภาพยนตร์หญิง ที่ไม่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ของปีนี้
อีกคนที่โดดเด่นบนพรมแดง ก็คือ แก้ม วิชญาณี ที่สื่อต่างประเทศหลายเจ้านำภาพของเธอในชุดเดรสสีชมพูเล่นโทนของแบรนด์ POEM ไปเป็นหนึ่งในกลุ่มเซเลปที่มีชุดเดินพรมแดงที่ดูดีที่สุด
ในส่วนการมอบรางวัล ปีนี้ก็ถือว่าเป็นปีที่สองติดต่อกันที่ไม่มีพิธีกรหลักในงาน แต่ผู้ประกาศทุกคนจะทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการร่วมกัน โดยปีนี้เริ่มต้นอย่างมีสีสันด้วยการร้องเพลงของ Janelle Monáe ที่แนะนำหนังเด่นๆ ที่เข้าชิงหลายๆ เรื่อง และรางวัลของวันนี้คือ การได้รับรางวัลออสการ์ในสาขาการแสดงครั้งแรกของ Brad Pritt จากภาพยนตร์ Once Upon a Time in Hollywood ก่อนที่การดำเนินรายการจะออกมาในมู้ดสนุกสนาน สดใส และหลายๆ ครั้งก็ยิงมุกกันโบ๊ะบ๊ะแบบไม่ทันให้คนดูตั้งตัว
ความน่าสนใจในการดำเนินรายการออสการ์ของปีนี้ก็คือ เหมือนทีมงานออสการ์รู้ตัวดีว่ารายชื่อผู้เข้าชิงหลายรายการนั้นมีอะไรขาดตกบกพร่องไปพอสมควรจึงมีการจิกกัดตัวเองอยู่บ่อยครั้ง อย่าง Chris Rock ที่ออกมาแซะแรงๆ ว่าในรางวัลใหญ่ๆ ขาดผู้กำกับหญิง ส่วน Mark Ruffalo ที่ประกาศรางวัลสาขาสารคดีด้วยการระบุว่า ภาพยนตร์เหล่านีมีผู้กำกับหญิงร่วมกำกับทั้งหมด
และการประกาศรางวัลดนตรีประกอบยอดเยี่ยมก็ให้ Gal Gadot, Sigourney Weaver กับ Brie Larson มาประกาศพร้อมคำพูดว่า ‘ผู้หญิงทุกคนคือซูเปอร์ฮีโร่’ (All women are superheroes) ก่อนจะส่งต่อให้ Eímear Noone วาทยากรหญิง คนแรกสำหรับเวทีออสการ์นำการบรรเลงดนตรีประกอบที่ได้เข้าชิงรางวัลในปีนี้ และผู้ได้รับรางวัลคือ Hildur Guðnadóttir ที่เป็นนักแต่งเพลงหญิง ที่มาพร้อมขึ้นพูดว่าว่า ‘ถึงเด็กผู้หญิง ถึงสตรี ถึงเหล่ามารดาและบุตรี ที่ได้ยีนเสียงเพลงในหัวใจ…โปรดส่งเสียงออกมา พวกเราต้องการได้ยินเสียงของพวกคุณ’ (To the girls, to the women, to the mothers and daughters who hear the music pumping within…please speak up. We need to hear your voices)
เวทีของออสการ์ยังพยายามแสดงว่าเปิดรับความหลากหลายมากขึ้น ด้วยการให้พื้นที่เวทีกับบุคลากรอื่นๆ ทั้งจากการให้ Zack Gottsagen นักแสดงจากภาพยนตร์ The Peanut Butter Falcon ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์เวทีออสการ์ที่ผู้มีอาการดาวน์ซินโดรมได้เป็นผู้ประกาศรางวัล หรือในของ Brad Pitt ที่ได้รับรางวัลสาขาดาราสมทบชายยอดเยี่ยมก็ทำการพูดเชิดชูเหล่าสตันท์ที่อยู่เบื้องหลังวงการและสอดคล้องกับบทที่ตัวเขาแสดงในภาพยนตร์
หนึ่งโชว์ที่ชาวไทยหลายคนน่าจะรอชมกันก็คือช่วงการแสดงเพลง Into The Unknown ที่ คุณแก้ม วิชยานี ร่วมแสดงด้วย โดยคุณแก้มได้ขึ้นแสดงด้วยชุดเดรสสีงดงาม โดยท่อนที่คุณแก้มได้ร้องคือท่อน ‘หรึอว่านี่เธอก็คล้ายกัน และเข้าใจตัวฉันได้ดี’
ไฮไลท์ในช่วงประกาศรางวัลใหญ่ๆ เริ่มต้นตั้งแต่ Bong Joon Ho ผู้กำกับภาพยนตร์ Parasite ได้รับเสียงตอบรับกระหึ่มจากผู้ชม และในตอนที่ขึ้นรับรางวัลสาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ได้ขึ้นไปขอบคุณ Martin Scorsese ที่เป็นอาจารย์ ขอบคุณ Quentin Tarantino ที่นำพาหนังของเขาให้ชาวอเมริการู้จัก ก่อนจะบอกกล่าวว่าอยากจะเอาเลื่อยไฟฟ้ามาหั่นออสการ์ให้กับผู้ร่วมเข้าชิงรางวัลท่านอื่นๆ อีกด้วย
Joaquin Phoenix ที่ได้รับรางวัลดารานำชายยอดเยี่ยม ขึ้นพูดช่วงรับรางวัล ที่เวทีนี้ขอแสดงความเห็นให้ช่วยเหลือผู้คนต่างๆ ด้วยความรักและความสงบสุขก็จะตามมา (ซึ่งเป็นคำพูดของ River Phoenix พี่ชายผู้ชายผู้ล่วงลับ) รวมถึงบอกกล่าวว่าตัวของเขาเองก็เคยผิดพลาดและล้มเหลวมาก่อนจะได้รับโอกาสใหม่เช่นกัน
Renée Zellweger ที่ได้รับออสการ์ตัวที่สองจากรางวัลดารานำหญิงยอดเยี่ยม นอกจากขอบคุณนักแสดงคนอื่นๆ ที่เป็นเหมือนฮีโร่ที่นำพาแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้ค้นพบตัวของตัวเอง เธอยังขอบคุณ Judy Garland นักแสดงที่เป็นแรงบันดาลใจไม่ใช่แค่เฉพาะตัวของเธอเองแต่ยังส่งต่อมาถึงบุคลากรในฮอลลีวูดจนถึงปัจจุบัน
และผู้ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนี้ ก็เป็นการมาร่วมกับพูดบนเวทีของทีมนักแสดงจากภาพยนตร์ Parasite ที่ไม่คาดมาก่อนว่าจะได้รางวัลนี้ และเห็นว่านี่เป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ ก่อนที่จะมีการขอบคุณคณะกรรมการของรางวัลออสการ์ที่ตัดสินใจเช่นนี้ และนี่น่าจะเป็นไม่กี่ครั้งที่ผู้ชมในสถานที่ถ่ายทอดสด ส่งเสียงเชียร์ให้ทีมนักแสดงพูดให้ยาวกว่าเดิม ซึ่งทีมนักแสดงก็ออกมาขอบคุณ Bong Joon Ho ที่เป็นผู้กำกับรวมถึง ทีมงาน ทุกๆ คนที่รับภาพยนตร์จากเกาหลีใต้เรื่องนี้ รวมถึงขอบคุณผู้ชมชาวเกาหลีใต้ที่วิจารณ์ตรงๆ และทำการผลักดัน นักแสดง ให้ผู้กำกับ ทำงานให้ดีขึ้นจนมาถึงวันนี้
ในปีนี้ภาพยนตร์ที่เข้าชิงมากที่สุดในปีนี้คือ Joker ที่ได้เข้าชิงมากถึง 11 รางวัล รองลงมาคือ The Irishman, 1917, Once Upon A Time In Hollywood ที่ได้เข้าชิงเป็นจำนวน 10 รางวัลเท่ากัน รองมาก็คือ Jojo Rabbit, Little Woman, Marriage Story และ Parasite ที่เข้าชิง 6 รางวัลเท่ากัน
ภาพยนตร์ที่เข้าชิงและได้รับรางวัลกลับบ้านไปมากที่สุดก็คือ Parasite ได้รับรางวัลไปทั้งหมด 4 สาขา
รายชื่อผู้ได้รับรางวัลออสการ์ในคืนนี้ทั้งหมดอยู่ในรายละเอียดด้านล่างนี้
สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture)
– Parasite
สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director)
– Bong Joon Ho จากภาพยนตร์ Parasite
สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Actor)
– Joaquin Phoenix จากภาพยนตร์ Joker
สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Best Actress)
– Renée Zellweger จากภาพยนตร์ Judy
สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Supporting Actor)
– Brad Pitt จากภาพยนตร์ Once Upon a Time in Hollywood
สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Best Supporting Actress)
– Laura Dern จากภาพยนตร์ Marriage Story
สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Screenplay)
– Bong Joon-ho และ Han Jin-won จากภาพยนตร์ Parasite
สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (Best Adapted Screenplay)
– Taika Waititi จากภาพยนตร์ Jojo Rabbit ดัดแปลงบทมาจากนิยาย Caging Skies ที่เขียนโดย Christine Leunens
สาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม (Best Animated Feature Film)
– Toy Story 4
สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best International Language Film)
– Parasite
สาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม (Best Documentary – Feature)
– American Factory
สาขาสารคดีสั้นยอดเยี่ยม (Best Documentary – Short Subject)
– Learning To Skateboard In A Warzone (If You’re A Girl)
สาขาภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยม (Best Live Action Short Film)
– The Neighbors’ Window
สาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นสั้นยอดเยี่ยม (Best Animated Short Film)
– Hair Love
สาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Score)
– Joker
สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Song)
– (I’m Gonna) Love Me Again จากภาพยนตร์ Rocketman
สาขาตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม (Best Sound Editing)
– Ford V Ferrari
สาขาผสมเสียงยอดเยี่ยม (Best Sound Mixing)
– 1917
สาขาออกแบบการถ่ายทำยอดเยี่ยม (Best Production Design)
– Once Upon A Time In Hollywood
สาขากำกับภาพยอดเยี่ยม (Best Cinematography)
– 1917
สาขาแต่งหน้าและออกแบบทรงผมยอดเยี่ยม (Best Makeup and Hairstyling)
– Bombshell
สาขาออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (Best Costume Design)
– Little Women
สาขาตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Film Editing)
– Ford V Ferrari
สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม (Best Visual Effects)
– 1917
อ้างอิงข้อมูลเพิ่มเติมจาก
https://edition.cnn.com/2020/02/09/entertainment/natalie-portman-oscars-cape/index.html
https://www.hollywoodreporter.com/news/peanut-butter-falcon-star-zack-gottsagen-makes-history-at-oscars-1277720
#Brief #TheMATTER