การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 ยังคงเป็นที่เฝ้าระวัง และต้องจับตาอยู่ในหลายประเทศ ซึ่งแม้ว่าไทยจะไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม และมีผู้ที่รักษาหายเพิ่มมากขึ้น แต่ในประเทศอย่างเกาหลีใต้ กลับพบเคสผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นเป็นสิบเท่า จากเพียงกว่า 30 ราย เป็นหลาย 346 ราย (อัพเดท 22/2/2020) ภายในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์เลยด้วย และกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดรองจากจีน
.
สาเหตุที่ทำให้การแพร่เชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก มาจากคุณป้า วัย 61 ปี ในแดกู ของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อรายที่ 31 ที่ถือว่าเป็นผู้แพร่เชื้อสู่คนจำนวนมาก (Super spreader) ที่ตอนนี้คาดว่า ผู้ที่ติดเชื้อกว่าร้อยคนรับเชื้อมาจากเธอ และยังมีผู้เข้าข่ายติดเชื้ออีกกว่า 1,160 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกของลัทธิโบสถ์ชินชอนจิ ที่เธอเข้าร่วมนมัสการในวันอาทิตย์ และมีกิจกรรมที่ทำให้มีการสัมผัสกับผู้คนจำนวนมาก
ผู้ติดเชื้อรายนี้เข้ารักษาในโรงพยาบาลหลังประสบอุบัติเหตุเล็กน้อยในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ซึ่งต่อมาพบว่าเริ่มมีอาการเจ็บคอ แต่ในวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ เธอได้เข้าร่วมนมัสการที่โบสถ์ ซึ่งแม้ว่าอาการป่วยจะเริ่มปรากฎมากขึ้น แต่เธอก็ได้ปฏิเสธแพทย์อย่างน้อย 2 ครั้ง ที่แนะนำให้เธอตรวจสอบเชื้อ COVID-19 โดยยืนยันว่าไม่ได้ไปจีนในช่วงที่ผ่านมา และไม่เคยพบปะผู้ติดเชื้อ ทั้งเธอเองยังไปโบสถ์ในวันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ ก่อนอาการจะทรุดลงจนตรวจพบเชื้อในวันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่รายงานว่า มีสมาชิกลัทธิชินชอนจิอย่างน้อย 1,000 คน ที่เข้านมัสการในโบสถ์ ใน 2 สัปดาห์นี้ และไม่ใช่แค่ในแดกู แต่เมื่อต้นกุมภาพันธ์ยังมีรายงานว่า ผู้ติดเชื้อรายนี้ได้เดินทางไปเมืองชองโด ใกล้ๆ กับแดกู ซึ่งเจ้าหน้าที่พบผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์อีก 108 คน ที่พบว่าติดเชื้อโคโรนาด้วย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย แต่การแพร่ระบาดครั้งนี้ ที่กระจายไปวงกว้าง ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตถึงระบบของคริสตจักร และลัทธิชินชอนจิ ที่ผู้ติดเชื้อรายที่ 31 เข้าร่วม ที่มีพิธีกรรม และความเชื่อว่า อาการป่วยเป็นบาป
มีการรายงานว่า ลัทธินี้ มีความเชื่อว่าเราไม่ควรทำอะไรกับใบหน้า เช่น การใส่แว่นตา หรือหน้ากาก แต่ต้องร้องเพลง และสวดภาวนาเสียงดังๆ โดย ลี โฮยอน หนึ่งในผู้ที่เคยอยู่ในลัทธิ แต่ออกไปตั้งแต่ปี ค.ศ.2015 เล่าว่า “ไม่เหมือนกับโบสถ์อื่นๆ ชินชอนจิจะให้สมาชิกนั่งอยู่บนพื้นอย่างแน่นหนาระหว่างการนมัสการอย่างเป็นระเบียบ คล้ายกองทหาร” ทำให้การแพร่เชื้อเป็นไปได้ง่าย ทั้งเธอยังเล่าว่า ถูกสอนว่าไม่ต้องกลัวความเจ็บป่วย ถูกสอนให้ไม่สนใจสิ่งต่าง ๆ ในโลก เช่น งาน ความทะเยอทะยานหรือความหลงใหล ทุกอย่างมุ่งเน้นไปที่การล้างบาปแม้ในขณะที่ป่วย
หลังมีรายงานถึงผู้ติดเชื้อ COVID-19 ครั้งแรกในหมู่สมาชิก พวกเขาถูกสั่งให้โกหกด้วย ซึ่งชุง ยุนซอก ผู้เชี่ยวชาญด้านลัทธิทางศาสนาที่ดูแลเว็บไซต์ Christian Portal News กล่าวว่า “พฤติกรรมของเธอไม่น่าแปลกใจสำหรับคนที่คุ้นเคยกับคริสตจักร สำหรับพวกเขาการป่วยเป็นบาป เพราะมันขัดขวางพวกเขาจากการทำงานของพระเจ้า” ในขณะที่ฮวาง อุยจอง ศิษยาภิบาลผู้ทำวิจัยเกี่ยวกับคริสตจักรบอกว่า สมาชิกชินชอนจิรู้ถึงภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของพวกเขา และมักจะซ่อนมันไว้จากผู้ที่ไม่ใช่สมาชิก ทั้งไม่น่าแปลกใจที่จะไม่สามารถเข้าถึงสมาชิกในการตรวจ เพราะพวกเขามักจะไปรวมตัว และภาวนาให้อาการป่วยหาย
ในขณะที่ล่าสุด ลี มันฮี ผู้นำลัทธิ ได้ส่งข้อความผ่านสมาชิกในลัทธิว่า “โรคนี้ถูกมองว่าเป็นมารที่จะหยุดยั้งการเติบโตอย่างรวดเร็วของชินชอนจิ และเช่นดียวกับการทดสอบที่ผ่านๆ มา ก็คือการทำลายความก้าวหน้าของเรา” ซึ่งในตอนนี้ ไม่ใช่แค่กิจกรรมของลัทธิที่ถูกระงับ แต่เจ้าหน้าที่ได้ประกาศให้แดกู และชองโด เป็น ‘เขตดูแลพิเศษ’ และควบคุมบริเวณโบสถ์ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส และเมืองเองยังห้ามไม่ให้มีการรวมกลุ่ม และขอให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านด้วย
อ้างอิงจาก
พิสูจน์อักษร: วัศพล โอภาสวัฒนกุล
#Brief #TheMATTER