เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย—เราได้ยินคำนี้กันอยู่บ่อยๆ ในช่วงที่วิกฤติไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดอยู่ทั่วโลก ในเวลานี้เองผู้นำหลายประเทศก็ได้ออกมาแถลงต่อประชาชน จนได้รับคำชื่นชมถึงภาวะผู้นำและการสื่อสารที่ดี
เริ่มต้นจาก ตัวอย่างในไต้หวัน เมื่อประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ไม่ได้เพียงแค่ทำงานอย่างหนักและเตรียมการรับมือปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ หากยังรวมไปถึงการสื่อสารถึงประชาชนอย่างจริงจังด้วยตัวเธอเองหลายครั้ง
ยกตัวอย่างในวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ไช่ อิงเหวิน ได้แถลงอย่างเป็นทางการว่า เจ้าหน้าที่กำลังทำงานกันอย่างหนักและตลอด 24 ช่วงโมงเพื่อจัดการให้ปัญหาไวรัสนี้อยู่ภายใต้การควบคุม
ขณะเดียวกัน เธอก็ได้ยืนยันว่า รัฐจะช่วยเหลือประชาชนในเรื่องราคาของหน้ากากอนามัยที่แพงขึ้น รวมถึงหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดการกักตุนสินค้า ในวันเดียวกัน เธอยังได้แจกแจงด้วยว่าได้มอบหมายให้ใครในรัฐบาลดูแลปัญหาในเรื่องใดบ้าง เพื่อให้ประชาชนเห็นว่า รัฐบาลไต้หวันไม่ได้นิ่งนอนใจ
ในฝั่งเอเชียของเรา ยังมีตัวอย่างที่ได้รับควาชื่นชมมากมายอีกคน คือ ลี เซียนลุง นายกฯ สิงคโปร์ ที่สื่อสารกับประชาชนอย่างจริงใจ เขาเปิดใจคุยกับประชาชนถึงสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันอย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะการหยิบข้อมูลสถิติว่า โควิด-19 นั้นมีอัตราการตายอยู่ที่ประมาณ 0.2% ขณะที่ไข้หวัดธรรมดา มีอัตราการตายอยู่ที่ 0.1%
แน่นอนว่าข้อมูลเช่นนี้จำเป็นอย่างมาก ในช่วงเวลาที่สังคมกำลังโหยหาข้อมูลและกังวลใจต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น นอกจากเรื่องคำพูดแล้ว การแถลงของนายกฯ สิงคโปร์ยังได้รับคำชื่นชมถึงเรื่องภาพลักษณ์ และวิธีการนำเสนอที่เข้าถึงใจผู้คนได้เป็นอย่างดี
มาดูที่ทางด้าน นายกฯ เนเธอร์แลนด์ มาร์ก รุตเตอ ก็ใช้การแถลงผ่านโทรทัศน์เป็นช่องทางพูดคุยกับประชาชน เขาตัดสินใจบอกความจริงกับประชาชนเพื่อให้พร้อมรับมือว่า ในอนาคตอาจจะมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
“โคโรนาไวรัสจะกระจายไปยังทั่วโลกต่อไป และมันก็จะไม่ละเว้นประเทศเนเธอร์แลนด์เช่นเดียวกัน” นายกฯ เนเธอร์แลนด์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม รุตเตอ ย้ำว่ารัฐบาลและเจ้าหน้าที่กำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ประเทศผ่านวิกฤตินี้ไปได้ โดยเขาแนะนำเป็นไกด์ไลน์การปฏิบัติตัว เช่น การไม่จับมือหรือไม่เข้าไปอยู่ในที่สุ่มเสี่ยง รวมถึงวิธีการอื่นๆ
“คนเนเธอร์แลนด์ 17 ล้านคน ต้องร่วมมือกันเพื่อเอาชนะสิ่งนี้ไปให้ได้ การร่วมมือกันจะช่วยให้พวกเราก้าวพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
ตัดภาพมายังที่ประเทศเยอรมนี ล่าสุดนี้ ผู้นำอย่าง อังเกลา แมร์เคิล ได้ออกแถลงผ่านโทรทัศน์ไปยังประชาชนทั่วประเทศ (ซึ่งหลายสื่อมองว่า มันคือเรื่องที่ไม่บ่อยนักที่แมร์เคิลจะใช้วิธีการแถลงแบบนี้ด้วยตัวเอง)
แมร์เคิล บอกกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมาว่า นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองจบลง ประเทศเยอรมนีไม่เคยเจอช่วงเวลาใด ที่หนักหนาเท่ากับการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้เลย เธอขอให้ประชาชนทุกคนจริงจังกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่แม้ว่ามันจะท้าทายแค่ไหน เธอเชื่อว่า ความสามัคคีกันของคนในชาติคือสิ่งสำคัญ
เธออธิบายด้วยว่า ในข้อเสนอที่ให้มีการปิดเมือง ตลอดจนปิดประเทศนั้น จากการที่เธอเคยเติบโตขึ้นมาในเยอรมนีฝั่งตะวันออก ซึ่งมันทำให้เธอเข้าใจว่า มาตรการที่เข้มข้นสุดๆ เช่นนั้น มันควรจะใช้เมื่อสถานการณ์ถึงขีดสุดแล้ว
แมร์เคิล ยังได้ขอบคุณประชาชนที่ไม่กักตุนสินค้า ส่วนทางรัฐบาลก็จะทำทุกอย่างที่เหมาะสมเพื่อนำประเทศก้าวพ้นวิกฤตินี้
คำแถลงของแมร์เคิลน่าสนใจมากๆ เพราะมาในทิศทางที่ ‘ตรงไปตรงมา’ และบอกให้ประชาชนเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เป็นจริง คล้ายๆ กับกรณีของผู้นำเนเธอร์แลนด์ โดยทั้งสองคนได้สื่อสารด้วยท่าที่จริงจัง เพื่อให้ประชาชนเข้าใจปัญหา และเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะพาประเทศพ้นวิกฤติโควิด-19 ไปได้
อ้างอิงจาก
https://english.president.gov.tw/Issue/138
https://www.youtube.com/watch?v=WDkaqaa_c6k&feature=emb_title
https://nymag.com/intelligencer/2020/03/angela-merkel-nails-coronavirus-speech-unlike-trump.html
#Brief #TheMATTER