คำสั่งปิดสถานที่สำคัญหลายสิบรายการ โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้า-ตลาดสด ของ กทม. (และอีกหลายจังหวัด) แบบฉับพลัน ชนิดประกาศวันนี้ พรุ่งนี้ปิด และปิดยาว 22 วัน ไม่เพียงทำให้ผู้คนตกใจรีบไปเข้าคิวซื้อของมากักตุนอีกครั้ง
แต่น่าจะทำให้คนทำงานหลายๆ คนต้องสูญเสียรายได้ไปมหาศาล สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) จึงโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเสนอมาตรการเยียวยาผู้ขาดรายได้ ด้วยวิธีที่เขาเห็นว่าตรงเป้าและเห็นผลเร็วที่สุด – นั่นคือการ ‘แจกเงิน’ เป็นเวลา 1 เดือน
สมชัยยังชวนคิดด้วยว่าจะแจกเงินอย่างไร เพื่อท้าทายข้อครหาว่าเป็นมาตรการสิ้นคิด
1.) ประชาชนไทยทุกครอบครัว ‘มีสิทธิ์เริ่มแรก’ ในการได้รับการแจกเงินแบบขั้นบันได ขึ้นกับจำนวนสมาชิกครัวเรือน เช่น 1-2 คน ให้ 1,500 บาท, 3-4 คนให้ 2,500 บาท จากนั้นให้เพิ่มอีกคนละ 500 บาทต่อสมาชิกแต่ละคนที่มากกว่า 4
2.) กระทรวงการคลังทำการตรวจสอบทุกคนในครอบครัวนั้น ๆ โดยทำการเทียบกับ 26 ฐานข้อมูลที่เคยใช้ตอนทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในการตัดครอบครัวที่ไม่ควรได้ออกไป เช่นคนในบ้านมีบ้านเป็นของตัวเองมูลค่าประเมินเกิน 3 ล้าน มีเงินฝากรวมกันเกิน 100,000 บาท มีที่ดินของตนเองเกิน xxx มีเงินเดือนรวมกัน (กรณีมีข้อมูลเงินเดือนเช่นเป็นข้าราชการ) เกิน 15,000 บาทเฉลี่ยต่อคน ฯลฯ
“วิธีนี้น่าจะตัดคนออกไปได้เยอะอยู่ ถ้าคิดจากฐานของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อาจจะเหลืออยู่ซัก 20 ล้านคน ซึ่งน่าจะอยุ่ใน 6-7 ล้านครอบครัวเท่านั้น ลดงบประมาณไปได้เยอะอยู่ และเป็นการตอบโจทย์ว่าไม่แจกให้คนมีฐานะ สายปานยาว” สมชัยระบุ
ถึงตอนนี้ เริ่มมีเสียงเรียกร้องให้ภาครัฐออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยเฉพาะมาตรการที่ปรับใช้มาจากแนวคิดเรื่อง social distancing เพราะส่งผลกระทบต่อคนที่เปราะบางทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะคนหาเช้ากินค่ำ เช่น คนขับแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ พ่อค้าแม่ค้า พนักงานในสถานบันเทิง ฯลฯ ต้องสูญเสียรายได้
ที่มา: https://www.facebook.com/somchai.jitsuchon/posts/3187788854575570
#Brief #TheMATTER