หน้ากากไม่พอ เครื่องช่วยหายใจก็ขาดแคลน เป็นสถานการณ์ที่แพทย์ในหลายพื้นที่กำลังเผชิญ ในอิตาลีเองก็เช่นกัน แต่ล่าสุด บริษัทเทคโนโลยีสตาร์ทอัพแห่งหนึ่งในอิตาลี ปรับเอาหน้ากากสำหรับดำน้ำ มาปรับเป็นเครื่องช่วยหายใจแทน โดยสร้างแบบจำลองจาก 3D-printing
อิตาลี เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างหนัก ด้วยยอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 80,000 ราย และมียอดผู้เสียชีวิต 8,000 กว่าราย (ข้อมูลวันที่ 27 มี.ค. เวลา 14.00 น.) โดยสาเหตุที่ทำให้อิตาลีได้รับผลกระทบอย่างหนักก็คือ การขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เครื่องช่วยหายใจนั่นเอง
คริสเตียน ฟราคาสซี (Cristian Fracassi) และ อาเลสซานโดร โรมาออลี (Alessandro Romaioli) ผู้ก่อตั้งบริษัท Isinnova กำลังพยายามแก้ไขปัญหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ขาดแคลน โดยอาศัย 3D-printing มาช่วยปรับเปลี่ยนหน้ากากสำหรับดำน้ำ มาเป็นเครื่องช่วยหายใจ เพื่อรักษาโรค COVID-19 แทน
ทั้งสองได้ข่าวว่า โรงพยาบาลมีหลอดสุญญากาศไม่พอใช้สำหรับเครื่องช่วยหายใจ เพื่อรักษาผู้ป่วย และบริษัทที่ผลิตหลอดสุญญากาศเหล่านั้น ก็ไม่สามารถผลิตได้ทันความต้องการ ทำให้ทั้งคู่อยากเข้ามาช่วยแก้ปัญหา แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยทำหลอดสุญญากาศมาก่อนเลยก็ตาม
นอกจากนี้ บริษัท Isinnova ยังระบุว่า เขาได้รับการติดต่อจาก เรนาโต ฟาเวโร (Renato Favero) แพทย์จากโรงพยาบาล Gardone Val Trompia ซึ่งช่วยแชร์ไอเดียในการทำเครื่องช่วยหายใจ โดยใช้ส่วนประกอบที่ทำจาก 3D-printing อีกด้วย
ตอนแรก พวกเขาทดลองผลิตหลอดสุญญากาศออกมากหลายแบบ ซึ่งพอนำไปทดลองใช้งานในโรงพยาบาล ก็สำเร็จจริง แต่ไม่ใช่กับทุกโรงพยาบาล เพราะแต่ละแห่งก็มีรูปแบบของเครื่องช่วยหายใจที่แตกต่างกันไป พวกเขาจึงต้องคิดหนทางต่อ ก่อนจะมาค้นพบว่า สามารถใช้หน้ากากดำน้ำมาช่วยแก้ปัญหานี้ได้
“สิ่งนี้ได้จุดประกายแนวคิดต่อมา คือการปรับเปลี่ยนหน้ากากดำน้ำในตลาด เพื่อสร้างหน้ากากช่วยหายใจสำหรับโรงพยาบาลที่ต้องการอุปกรณ์เพิ่มเติม” โดยในเว็บไซต์ของบริษัทยังระบุด้วยว่า ตัวต้นแบบที่พวกเขาคิดค้นนั้น เชื่อมต่อกันพอดีกับตัวเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งแปลว่า มันสามารถใช้ได้ผลจริง
อ้างอิงจาก
https://www.nytimes.com/2020/03/22/opinion/ventilators-coronavirus-italy.html
https://futurism.com/neoscope/3d-printed-adapter-snorkelling-mask-into-ventilator
#Brief #TheMATTER