วันนี้ หลังประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ออกมาแถลงข่าวอัพเดตความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ ที่จะดำเนินการเพื่อรับมือกับ COVID-19
นายกฯ เผยว่า ได้ให้ทางกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงอื่นๆ ที่มีอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ มีอำนาจในการพิจารณาไม่ว่าจะเป็นการห้ามประชาชนเข้าออกในพื้นที่ หรือ ในจังหวัด ที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น แม้แต่ในพื้นที่ทีมีการแพร่ระบาดมาล่วงหน้าแล้ว จนต้องมีการปิดหลายสถานที่ด้วยกัน ห้ามขายสุรา ห้ามเล่นกีฬา การพนันเด็ดขาด ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยได้สั่งให้ตำรวจทหารตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเต็มที่แล้ว
สำหรับเรื่องกรณีสินค้าที่อาจจะมีราคาสูงขึ้นในช่วงนี้ เนื่องจากมีหลายร้านค้าที่ฉวยโอกาส นายกฯ เผยว่า ได้สั่งการไปแล้ว ขอให้ประชาชนสามารถจะแจ้งได้ เจ้าหน้าที่สามารถรับเรื่องร้องเรียนได้ และสามารถเข้าตรวจสอบได้ในทันที รวมไปถึงเรื่องของหนี้นอกระบบ ที่วันนี้มีการแพร่ระบาดมากขึ้น จะมีการเรียกมาดำเนินคดี หรือ ไกล่เกลี่ย ให้ใช้ดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด
พล.อ.ประยุทธ์ เผยว่า รัฐบาลได้เน้นในเรื่องของการให้บริการ Grab Line man จะต้องมีการตรวจสอบเชื้อกับผู้ให้บริการเหล่านี้
ด้วย และเตือนว่าอย่าไปแออัดในร้านค้า ทุกคนต้องรับผิดชอบตัวเอง และรับผิดชอบคนอื่นด้วยเสมอ
ในส่วนของการเดินทาง นายกฯ เผยว่า ได้ให้กระทรวงคมนาคมไปพิจารณาว่าการให้บริการขนส่งต่างๆ ของภาครัฐต้องทำอย่างไร จำเป็นต้องลดจำนวนลงหรือไม่ในการให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถเมล์ต่างๆ หากไม่เรียบร้อยอาจต้องงดการให้บริการทั้งหมด
ในเรื่องคนไทยในต่างแดน นายกฯ เผยว่า ได้มีการควบคุมให้มากขึ้น อย่างคนที่มาจากกลุ่มประเทศเสี่ยงๆ ก็ได้มีการเอาเข้าสถานกักกันของรัฐแล้ว โดยต้องถูกกักกัน 14 วัน
ในเรื่องการทำบุญของศาสนา นายกฯ เผยว่า ได้เน้นย้ำไปแล้วเรื่องของมาตรการในการทำบุญ ในการสวดมนต์ต่างๆ ต้องมีการแยก ต้องมีการกำหนดจำนวน วิธีการทำบุญต่างๆ ให้เหมาะสม
สำหรับเรื่องของการปลดล็อคความเร็วรถในถนน 4 เลน นายกฯ เผยว่า ในทางปฏิบัติ ก็จำเป็นต้องทำป้ายต่างๆ ให้ชัดเจนมากขึ้นว่าช่วงใดใช้ความเร็ว 120 ได้บ้าง อีกส่วนหนึ่งก็คือคนที่ขับรถใหม่ที่มักเผลอไปเลนขวา กระทบต่อการจราจร ถ้าถนนรถไม่ติด ก็ใช้มาตรการนี้ได้ แต่ถ้ารถติดก็ใช้ไม่ได้ ต้องระมัดระวังในเรื่องของความปลอดภัยทางถนนด้วย
#Brief #TheMATTER