ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อในไทยวันที่ 13 เมษายน 2563 ว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 28 ราย กระจายอยู่ใน 68 จังหวัด รวมเป็นผู้ป่วยสะสม 2,579 ราย มีผู้ที่กลับบ้านได้รวม 1,288 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวมเป็น 40 ราย
รายละเอียดของผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รายแรกได้แก่ ผู้ป่วยชายไทยอายุ 56 ปี มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันมาก่อน มาเข้ารับการรักษาในจังหวัดสมุทรปราการ เบื้องต้นแพทย์วินัจฉัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่ต่อมายืนยันว่าเป็นเคส COVID-19 ซึ่งอาการหนักขึ้น ชายไทยอายุ 43 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เบาหวาน ไตวายเรื้อรัง ไขมันในเลือดสูง เข้ารับการรักษาวันที่ 31 มีนาคม ต่อมาอาการไม่ดีขึ้น จึงเข้ามารับการรักษาอีกครั้งวันที่ 5 เมษายน และมีการยืนยันภายหลังว่าติดเชื้อ COVID-19 เสียชีวิตด้วยภาวะอาการหายใจล้มเหลว
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ สามารถจำแนกได้ดังนี้
กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 18 ราย
กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 7 ราย
– คนต่างชาติที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 0 ราย
– คนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ 1 ราย
– มีประวัติไปในสถานที่ชุมนุมชน เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว 1 ราย
– กลุ่มอาชีพเสี่ยง เช่น ทำงานในสถานที่แออัด หรือทำงานใกล้ชิด สัมผัสชาวต่างชาติ เป็นต้น 2 ราย
– บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 3 ราย
กลุ่มที่ 3 อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 0 ราย
กลุ่มคนที่กลับมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantine 3 ราย (จังหวัดสตูล 2 ยะลา 1 กลับจากอินโดนีเซีย)
จากข้อมูลผู้ป่วยใน 68 จังหวัดทั่วไทย กรุงเทพฯ พบผู้ป่วยเยอะที่สุดอยู่ที่ 1,306 ราย รองลงมาคือ ภูเก็ต ที่ 182 ราย และตามมาด้วย นนทบุรี 150 ราย โดย 9 จังหวัดที่ยังไม่พบผู้ป่วย COVID-19 เลย ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พิจิตร ระนอง สิงห์บุรี และอ่างทอง
#Brief #TheMATTER