ย้อนกลับไปช่วงที่ COVID-19 เริ่มระบาดข้ามทวีป ฝรั่งเศสคือประเทศแรกในยุโรปที่พบผู้ติดเชื้อ จากนั้น อิตาลีและสเปน และประเทศอื่นๆ ในยุโรปก็ต้องเผชิญกับการระบาดอย่างหนักหน่วง แต่ในช่วงหลังมานี้ ยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันของหลายประเทศในยุโรป เริ่มลดลงเรื่อยๆ หลายประเทศจึงเริ่มประกาศคลายล็อกดาวน์กันแล้ว
เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา สเปนเริ่มอนุญาตให้เด็กๆ ออกไปนอกบ้านได้ 1 ชั่วโมงต่อวัน แต่ต้องมีผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันไปดูแลด้วย โดยมีข้อกำหนดให้ผู้ใหญ่ 1 คน ดูแลเด็กได้มากสุด 3 คนเท่านั้น และในสัปดาห์ถัดไป ผู้ใหญ่ก็จะได้รับอนุญาตให้ออกไปเดินเล่น หรือออกกำลังกายนอกบ้านได้
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีของสเปนระบุว่า จะปลดล็อกมาตรการต่างๆ อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่จะยังไม่เปิดสอนในโรงเรียนอีกจนกว่าจะถึงเดือนกันยายน
ส่วนในอิตาลี หลังจากที่มีการหารือกับผู้คนในชุมชนแล้ว นายกรัฐมนตรีของอิตาลี กล่าวว่า ยกระดับการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ ในวันที่ 4 พฤษภาคมนี้ โดยอนุญาตให้สวนสาธารณะกลับมาเปิดทำการได้ตามปกติ ผู้คนสามารถออกกำลังกายนอกบ้าน และเดินทางไปเยี่ยมญาติได้ แต่ยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัย และทำ Social Distancing ไปด้วย
นอกจากนี้ โรงงานและอาคารต่างๆ ก็จะสามารถเปิดทำการได้อีกครั้งเช่นกัน โดยต้องรักษาการทำ Social Distancing อย่างเข้มงวดเช่นกัน ส่วนร้านอาหารยังคงอนุญาตให้ซื้อกลับบ้านได้เท่านั้น แล้วในวันที่ 1 มิถุนายน ร้านอาหารต่างๆ รวมถึงร้านค้า ร้านทำผม พิพิธภัณฑ์จึงจะสามารถเปิดทำการอย่างเต็มรูปแบบได้
ขณะที่ ฝรั่งเศสระบุว่าจะเปิดสถานที่สำคัญ เช่น เปิดบริษัทต่างๆ และระบบขนส่งสาธารณะ ขณะเดียวกันก็จะเพิ่มการตรวจหาเชื้อให้มากขึ้นไปด้วย นอกจากนี้ โรงเรียนในฝรั่งเศสก็จะกลับมาเปิดสอนอีกครั้ง โดยห้ามผู้ปกครองไปส่งเด็กๆ เข้าห้องเรียน
การห้ามผู้ปกครองไปส่งนักเรียนนั้น เป็นหนึ่งในข้อห้ามสำหรับโรงเรียนในเดนมาร์กเช่นกัน ซึ่งตอนนี้ เดนมาร์กเองก็เริ่มผ่อนปรนมาตรการและอนุญาตให้บางอาชีพกลับไปทำงานได้แล้ว เช่น ช่างทำผม หมอฟัน ช่างสัก นักกายภาพบำบัด นักจิตวิทยา เป็นต้น
นอกจากนี้ ประเทศอื่นๆ ในยุโรปก็เริ่มคลายการล็อกดาวน์แล้ว ทำให้ธุรกิจบางอย่างเริ่มกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เช่น ร้านตัดผมในสวิตเซอร์แลนด์ ร้านขายของในสาธารณรัฐเช็ก โรงเรียนประถมในนอร์เวย์ เป็นต้น โดยการผ่อนปรนมาตรการเหล่านี้มีผลมาจากแรงกดดันของประชาชนที่มีต่อเหล่าผู้นำประเทศ หลังจากมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อชีวิตของประชาชน
สำหรับประเทศไทยนั้น แถลงการณ์จากกระทรวงสาธารณสุข วันนี้ (28 เมษายน) ระบุว่า จะทยอยผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ และเปิดกิจการต่างๆ โดยสถานที่ที่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อน้อยจะมีโอกาสได้เปิดทำการก่อน ขณะที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพฯ ก็เตรียมจะปลดล็อกสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านทำผม ร้านอาหาร ตลาด แล้วเช่นกัน
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-europe-52322249
#Brief #TheMATTER