การเข้าใจสิ่งที่ผู้นำพูดถือว่าสำคัญมากๆ ต่อประชาชน ทั้งในแง่ตรวจสอบการทำงาน และการตีความเจตนาที่อยู่เบื้องหลัง
โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นชื่อเรื่องลีลาการพูดที่เป็นสไตล์โดดเด่น ซึ่งที่ผ่านมาก็มีความพยายามจะวิเคราะห์การสื่อสารของเขาอยู่เรื่อยๆ แต่ข่าวที่ออกมานี้ก็ยิ่งทำให้วิธีการพูดของทรัมป์นั้นน่าสนใจขึ้นไปกว่าเดิม
ประเด็นคือว่า นักวิจัยในสหรัฐฯ ได้พยายามสร้างฐานข้อมูลเกี่ยวกับการสื่อสารของ โดนัลด์ ทรัมป์ มาสักพักใหญ่ๆ โดยรวบรวมจากสุนทรพจน์ การให้สัมภาษณ์ รวมถึงการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ เพื่อค้นหาว่า การสื่อสารของทรัมป์มีแบบแผน (pattern) อย่างไรบ้าง
ที่น่าสนใจก็คือ เมื่อเร็วๆ นี้ นักวิจัยได้ให้ AI bot เข้าไปวิเคราะห์สปีชของทรัมป์ในโอกาสครบรอบเหตุการณ์ ‘ยุทธนาวีทะเลคอรัล’ เมื่อปี ค.ศ.2017 แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เมื่อ AI bot ที่ชื่อว่า ‘Margaret’ ได้นำสปีชครั้งนั้นมาวิเคราะห์โครงสร้างภาษาแล้ว มันก็แทบจะพังลงในแทบจะทันที
Bill Frischling ผู้นำวิจัยในโปรเจ็กต์นี้ ให้สัมภาษณ์กับ Los Angeles Times ว่า Margaret เกิดอาการพังลงหลังจากที่วิเคราะห์ภาษาที่ทรัมป์ใช้ เพราะสิ่งที่ทรัมป์พูดออกไป เป็นโครงสร้างภาษาที่ Margaret ไม่เคยเข้าใจมาก่อน (แม้ว่า Margaret จะเคยถูกสอนให้เข้าใจเรื่องไวยากรณ์ภาษาอังกฤษมาแล้วก็ตาม)
นักวิจัย บอกว่า Margaret เกิดอาการสับสนว่า สปีชที่ถูกป้อนมาให้วิเคราะห์นั้น มันต้องเป็นไปตามไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ หรือมันต้องเป็นไปตามไวยากรณ์ที่เป็นส่วนตัวของทรัมป์กันแน่
หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ ส่งผลให้ทีมงานต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญมาช่วยงานเพิ่มเติม ที่จะมาช่วยให้ Margaret ยกเลิกไวยากรณ์ที่เคยเรียนรู้มาแบบเดิมๆ แล้วเปลี่ยนมาเป็นการเข้าใจในไวยากรณ์แบบทรัมป์เป็นการเฉพาะแทน
ในรายงานข่าว ได้ระบุเพิ่มเติมด้วยว่า หลังจากที่ Margaret ได้เริ่มจับทางการสื่อสารของทรัมป์ได้ดีขึ้นแล้ว มันก็สามารถเข้าใจในเจตนาต่างๆ ที่ทรัมป์พูดได้ดียิ่งขึ้น ทั้งเรื่องอารมณ์และความรู้สึกของทรัมป์ในระหว่างพูดมากยิ่งขึ้น
หนึ่งในสิ่งที่ Margaret ค้นพบคือทรัมป์มักจะเริ่มจริงจังกับการพูดมากขึ้น หลังจากเขาหยุดขยับหรือโบกมือไปมาระหว่างพูด กล่าวคือ ถ้าทรัมป์ยืนนิ่งๆ เมื่อไหร่ ก็แปลว่า จังหวะหลังจากนั้นแหละ จะเกิดประเด็นสำคัญขึ้นมาแน่นอน
นักวิจัยยกตัวอย่างด้วยว่า ถึงแม้ทรัมป์จะเคยพูดถึงข้อเสนอในนโยบายบางอย่าง โดยที่พูดถึงมันประมาณว่า ‘ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่เลวร้ายที่สุด’ แต่มันก็มีกรณีที่เขากลับเซ็นอนุมัตินโยบายนั้นในอีก 10 ชั่วโมงต่อมาด้วย
อ้างอิงจาก
https://qz.com/631497/mit-built-a-donald-trump-ai-twitter-bot-that-sounds-scarily-like-him/
#Brief #TheMATTER