ไปเที่ยวต่างประเทศ สถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งที่จะทำให้เราได้รู้จักประวัติศาสตร์ พื้นเพ วัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ ก็คือพิพิธภัณฑ์ ซึ่งสะสมของมีค่า โบราณวัตถุ เรื่องราวต่างๆ ทางประวัติศาสตร์ไว้มากมาย แต่เมื่อคืนนี้ กลับเกิดเหตุไฟไหม้ใหญ่ที่พิพิธภัณฑ์ในบราซิล ที่ทำให้สูญเสียอย่างใหญ่หลวงกับประเทศ
เกิดเหตุเพลิงไหม้รุนแรงที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบราซิลอายุ 200 ปี ในนครริโอเดจาเนโอ ซึ่งเป็นพิพิธภัณที่เก่าแก่ และสำคัญที่สุดของบราซิล โดยภายในอาคารนั้นมีโบราณวัตถุประมาณ 20 ล้านชิ้นเก็บสะสมอยู่ และถึงแม้ว่าจะไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ แต่เหตุการณ์นี้ก็ถูกมองว่า เป็นความเสียหายของบราซิลด้านวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ที่ไม่สามารถประเมินค่าได้
เหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นในคืนวันอาทิตย์ หลังจากพิพิธภัณฑ์ปิดให้บริการแล้ว โดยตำรวจและเจ้าหน้าที่กำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนหาต้นเหตุเพลิงไหม้
Cristiana Serejo หนึ่งในผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์แห่งนี้กล่าวว่า ”มันเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกา เรามีงานสะสมล้ำค่าที่มีอายุมากกว่า 100 ปี” ทั้งปธน. Michel Temer ยังทวีตข้อความว่า “วันนี้เป็นวันที่น่าสลดใจกับพิพิธภัณฑ์ในประเทศของเรา 200 ปีแห่งการทำงานวิจัย และความรู้ได้สูญหายไปด้วย”
อาคารโบราณของพิพิธภัณฑ์เคยเป็นที่ประทับของราชวงศ์โปรตุเกส ก่อนจะมีการปรับเป็นพิพิธภัณฑ์เมื่อ 200 ปีก่อน โดยภายในมีการเก็บสะสมทั้ง งานที่ถูกนำมายังบราซิลโดย เจ้าชายโปรตุเกส Dom Pedro I, สิ่งประดิษฐ์จากอียิปต์และกรีกโรมัน,โครงกระดูก Luzia อายุ 12,000 ปีที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปอเมริกา, ซากดึกดำบรรพ์ของไดโนเสาร์และอุกกาบาตที่พบในปี 1784 และยังมีงานบางส่วนที่ถูกเก็บถาวรไว้ในอีกอาคารหนึ่ง
Luiz Duarte หนึ่งในผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์โทษว่าเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ และไม่สนับสนุนพิพิธภัณฑ์ ปล่อยให้อยู่ในสภาพทรุดโทรม และหลายปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ต่างต่อสู้กับรัฐบาลเพื่อให้สถานที่แห่งนี้ได้รับการซ่อมแซม และรักษาอย่างถูกต้อง ส่วนด้านชาวบราซิลบางส่วนก็เปรียบเทียบเพลิงไหม้ครั้งนี้เป็น บาดแผลของประเทศ ท่ามกลางการต่อสู้ที่น่ากลัว ทั้งเรื่องอาชญากรรม เศรษฐกิจ และภาวะที่ประชาชนกว่า 12 ล้านคนว่างงาน
อ้างอิงจาก
https://www.theguardian.com/world/2018/sep/03/fire-engulfs-brazil-national-museum-rio?CMP=twt_gu
#Brief #TheMATTER