เช้าวันนี้แฟนซีรีส์ฝรั่งคงติดตามการประกาศรางวัล รางวัลไพรม์ไทม์เอ็มมีครั้งที่ 70 (Primetime Emmy Awards) ซึ่งเป็นรางวัลที่ถูกจัดขึ้นโดย สถาบันศิลปะและวิชาการทางโทรทัศน์ (Academy of Television Arts and Sciences – ATAS) และจัดต่อเนื่องเป็นเวลา 72 ปีแล้ว อธิบายเร็วๆ รางวัลนี้ถือว่ามีศักดิ์ศรีเท่ากันกับออสการ์ของฝั่งภาพยนตร์ แต่เป็นเวทีสำหรับผลงานที่ได้ฉายทางทีวีหรือออนไลน์ ซึ่งรายการที่มีโอกาสได้เข้าชิงรางวัลนี้มีจำนวนมาก แถมยังแยกย่อยเป็นซีรีส์อีกหลากหลายประเภท
นอกจากรางวัลเอ็มมี่ที่แจกกันในค่ำคืนนี้แล้ว ยังมีการแจกรางวัลที่ใช้ชื่อเอ็มมีแยกย่อยให้รายการประเภทอื่นๆ ด้วย เช่น รางวัลสำหรับรายการช่วงกลางวัน (Daytime Emmys), รางวัลสำหรับรายการกีฬา (Sports Emmys), รางวัลสำหรับรายการนานชาติ (International Emmys) เป็นต้น
ในปีนี้ผู้ที่รับรางวัลมากสุดก็คือซีรีส์ตลกเรื่อง The Marvelous Mrs. Maisel ซีรีส์ตลกย้อนยุคเกี่ยวแม่บ้านชาวยิวที่อาศัยในกรุงนิวยอร์ก สมัยปี ค.ศ. 1958 ซึ่งคว้ารางวัลกลับบ้านไปมากถึง 5 รางวัล จากการเข้าชิงทั้งหมด 6 รางวัล
ประเด็นการเคลื่อนไหวเชิงสังคมบนเวทีในปีนี้ไม่ได้เดือดพล่านเหมือนปีก่อนๆ แต่ก็มีจังหวะปล่อยมุกของสองพิธีกรในช่วงแรกของการแจกรางวัลที่แซะเรื่องความเท่าเทียมหลายแง่มุมในอเมริกาทั้งเรื่องรูปลักษณ์, เชื้อชาติ, ศาสนา รวมถึงจิกกัดสถานีโทรทัศน์กับบริการสตรีมมิ่งที่มีเหตุการณ์แปลกๆ อย่างการสร้างหรือยกเลิกซีรีส์เรื่องต่างๆ
ผู้ที่ได้รับรางวัลอันสอดคล้องกับการพูดถึงความหลากหลายก็ต้องยกให้กับรายการ RuPaul’s Drag Race ที่ได้คว้ารายการเรียลลิตี้ หรือ รายการแนวแข่งขันยอดเยี่ยม กลับบ้านเป็นครั้งแรก และไรอัน เมอร์ฟี (Ryan Murphy) ผู้อำนวยการผลิตซีรีส์ The Assassination of Gianni Versace: American Crime Story ตอนขึ้นมารับรางวัลซีรีส์ขนาดสั้นยอดเยี่ยมที่เขาได้กล่าวว่า “ซีรีส์นี้เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับหลายๆ อย่าง มันเกี่ยวกับความกลัวคนรักเพศเดียวกันทั้งแบบที่ไม่แสดงออกและแบบที่แสดงออก เกี่ยวกับประเทศที่ปล่อยให้ความเกลียดชังไม่ถูกตีตรวนและไร้การตรวจสอบ ผู้มีความหลากหลายทางเพศ หนึ่งในสี่ของประเทศนี้จะต้องตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมจากความเกลียดชัง พวกเราขออุทิศรางวัลนี้ให้กับการรับรู้เรื่องราวเหล่านี้ การทำกฎหมายเกี่ยวกับอาชญากรรมจากความเกลียดชังให้รัดกุมขึ้น และแน่นอนว่ารางวัลนี้ขออุทิศให้ จิอันนี (จิอันนิ เวอร์ซาเช่ – Gianni Versace) และ เจฟฟ์ (เจฟฟรี่ เทรล – Jeffrey Trail) และ เดวิด (เดวิด แมดเซน – David Madsen)” ซึ่งสามชื่อหลังนี้เป็นเหยื่อการฆาตกรรมต่อเนื่องโดย แอนดริว คูนาแนน (Andrew Cunanan)
ส่วนจังหวะการรับรางวัลที่ชวนหัวใจเต้นตึกตักของปีนี้ก็คงจะเป็นการพูดของ Glenn Weiss ซึ่งขึ้นไปประกาศขอแต่งงานตอนได้รับรางวัล ก่อนจะเอาแหวนหมั้นของพ่อแม่มายื่นแฟนสาวทำเอาคนดูทั้งในงานและนอกงานร่วมแสดงความยินดีด้วย ซึ่งฝ่ายหญิงก็ตอบตกลงพร้อมเสียงปรบมืออวยพรที่ดังกึกก้องไปทั่วงานประกาศรางวัล
และรายชื่อของผู้ได้รับรางวัลเอ็มมี่ทั้งหมดในปีนี้มีรายละเอียดดังนี้
ซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม – Game of Thrones
ซีรีส์ตลกยอดเยี่ยม – The Marvelous Mrs. Maisel
ซีรีส์ขนาดสั้นยอดเยี่ยม – The Assassination of Gianni Versace: American Crime Story
รายการเรียลลิตี้ หรือ รายการแนวแข่งขันยอดเยี่ยม – RuPaul’s Drag Race
รายการวาไรตี้แนวเล่นมุกตลกยอดเยี่ยม – Saturday Night Live
รายการวาไรตี้แนวทอลค์โชว์ยอดเยี่ยม – Last Week Tonight with John Oliver
นักแสดงนำชายจาก ซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม – Matthew Rhys จากเรื่อง The Americans
นักแสดงนำหญิงจาก ซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม – Claire Foy จากเรื่อง The Crown
นักแสดงสมทบชายจาก ซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม – Peter Dinklage จากเรื่อง Game Of Thornes
นักแสดงสมทบหญิงจาก ซีรีส์ดราม่ายอดเยี่ยม – Thandie Newton จากเรื่อง Westworld
นักแสดงนำชายจาก ซีรีส์ตลกยอดเยี่ยม – Bill Hader จากเรื่อง Barry
นักแสดงนำหญิงจาก ซีรีส์ตลกยอดเยี่ยม – Rachel Broshanan จากเรื่อง The Marvelous Mrs. Maisel
นักแสดงสมทบชายจาก ซีรีส์ตลกยอดเยี่ยม – Henry Winkler จากเรื่อง Barry
นักแสดงสมทบหญิงจาก ซีรีส์ตลกยอดเยี่ยม – Alex Borstein จากเรื่อง The Marvelous Mrs. Maisel
นักแสดงนำชายจาก ซีรีส์ขนาดสั้น หรือภาพยนตร์โทรทัศน์ยอดเยี่ยม – Darren Criss จากเรื่อง The Assassination of Gianni Versace: American Crime Story
นักแสดงนำหญิงจาก ซีรีส์ขนาดสั้น หรือภาพยนตร์โทรทัศน์ยอดเยี่ยม – Regina King จากเรื่อง Seven Seconds
นักแสดงสมทบชายจาก ซีรีส์ขนาดสั้น หรือภาพยนตร์โทรทัศน์ยอดเยี่ยม – Jeff Daniels จากเรื่อง Godless
นักแสดงสมทบหญิงจาก ซีรีส์ขนาดสั้น หรือภาพยนตร์โทรทัศน์ยอดเยี่ยม – Merritt Wever จากเรื่อง Godless
ผู้กำกับยอดเยี่ยมจากซีรีส์ดราม่า – Stephen Daldry จาก ตอน Paterfamilias ของเรื่อง The Crown
ผู้กำกับยอดเยี่ยมจากซีรีส์ตลกยอดเยี่ยม – Amy Sherman-Palladino จาก ตอนไพลอท ของเรื่อง The Marvelous Mrs. Maisel
ผู้กำกับยอดเยี่ยมจาก ซีรีส์ขนาดสั้น ภาพยนตร์โทรทัศน์ หรือบทละครพิเศษ – Ryan Murphy จากเรื่อง The Assassination of Gianni Versace: American Crime Story ตอน The Man Who Would Be Vogue
ผู้กำกับยอดเยี่ยมจาก รายการวาไรตี้พิเศษ – Glenn Weiss จากรายการ The Oscars หรือการประกาศรางวัลออสการประจำปี 2017
ผู้เขียนบทยอดเยี่ยมจาก ซีรีส์ดราม่า – Joe Weisberg กับ Joel Fields จาก ตอน Start ของเรื่อง The Americans
ผู้เขียนบทยอดเยี่ยมจาก ซีรีส์ตลก – Amy Sherman-Palladino จาก ตอนไพลอท ของเรื่อง The Marvelous Mrs. Maisel
ผู้เขียนบทยอดเยี่ยมจาก ซีรีส์ขนาดสั้น ภาพยนตร์โทรทัศน์ หรือบทละครพิเศษ – William Bridges กับ Charlie Brooker จาก ตอน USS Callister ของเรื่อง Black Mirror
ผู้เขียนบทยอดเยี่ยมจาก รายการวาไรตี้พิเศษ – John Mulaney จากรายการ John Mulaney: Kid Gorgeous at Radio City
อ้างอิงจาก
https://www.etonline.com/2018-emmy-awards-today-2018-09-17-live-updates
https://www.cbsnews.com/live-news/emmys-2018-70th-primetime-emmy-awards-live-updates-2018-09-17/
ภาพจาก – https://www.hollywoodreporter.com/