รางวัลโนเบล สาขาเคมี ประจำปีนี้ได้มอบให้กับนักวิจัยสามคน โดยสองคนแรกทำงานคู่กัน ซึ่งก็คือ เซอร์ Gregory P. Winter กับ George P. Smith ส่วนรางวัลเป็นซีกมอบให้กับ Frances H. Arnold
คณะกรรมการแถลงว่า นักวิจัยที่ได้รับรางวัลในปีนี้ มีจุดร่วมกันที่สำคัญคือ พวกเขาได้ใช้พื้นฐานของทฤษฏีวิวัฒนาการ มาต่อยอด-ปรับใช้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติในแง่มุมใหม่ๆ
สำหรับ Arnold นั้น เธอได้รับรางวัลจากการวิจัยเกี่ยวกับการศึกษาวิวัฒนาการของ ‘เอนไซม์’ โดยเข้าไปดูว่าเอนไซม์ที่กลายพันธุ์นั้น มันสร้างส่งผลกระทบ และสร้างปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง ก่อนที่จะหยิบการกลายพันธุ์ที่น่าจะเป็นประโยชน์มาศึกษาต่อในขอบเขตอื่นๆ ซึ่งคณะกรรมการเชื่อว่า งานวิจัยของ Arnold จะเป็นประโยชน์ต่อการผลิตสารเคมี โดยเฉพาะการพัฒนาพลังงานที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ และการผลิตยาต่างๆ
ขณะที่ Smith ได้พัฒนาวิธีการที่เรียกว่า ‘Phage Display’ โดยค้นพบว่า Phage หรือไวรัสที่แพร่เชื้อให้กับแบคทีเรียนั้น สามารถนำไปใช้สร้างประโยชน์เป็นโปรตีนชนิดใหม่ได้ ส่วน Winter นั้นก็ได้ใช้วิธีการนี้ไปใช้ประโยชน์ในแง่ของการพัฒนายา
ที่สำคัญคือการศึกษาว่าด้วย Phage Display ได้สร้างประโยชน์ไปสู่ antibody ที่สามารถลบล้างพิษของท็อกซิน ตอบโต้โรคแพ้ภูมิตัวเอง ตลอดจนช่วยพัฒนาการรักษามะเร็งในระยะลุกลามได้
อ้างอิงจาก
https://www.nytimes.com/2018/10/03/science/chemistry-nobel-prize.html
#Brief #TheMATTER