ผู้อพยพ กลายเป็นประเด็นที่มีการโต้เถียงกันอย่างดุเดือดในหลายประเทศ ที่บางประเทศก็มีนโยบายเปิดประเทศ ต้อนรับผู้อพยพ แต่กลับบางประเทศก็เลือกปิดกั้นเขตแดน ไม่รับผู้ลี้ภัย แต่ที่ออสเตรเลีย เตรียมเสนอนโยบายใหม่ในการกำกับที่อยู่ให้ผู้อพยพ และไม่ให้อาศัยในเมืองใหญ่
รัฐบาลออสเตรเลียได้เปิดตัวข้อเสนอเพื่อบังคับให้ผู้อพยพย้ายถิ่นฐานใหม่ ไปอาศัยอยู่นอกเมืองซิดนีย์และเมลเบิร์น โดย Alan Tudge รัฐมนตรีด้านเมือง โครงสร้างพื้นฐาน และประชากรในเมืองระบุว่า นโยบายนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อบรรเทาปัญหาความแออัดของเมืองใหญ่ 2 แห่งในประเทศ และส่งเสริมพื้นที่ในภูมิภาค
การเสนอนโยบายนี้ มาจากปัญหาความแออัดของประเทศออกเตรเลีย ที่มีประชากร 25 ล้านคน แต่ 2 ใน 5 ของประชากรทั้งหมด กลับอาศัยอยู่ในซิดนีย์ และเมลเบิร์น และประชากรของประเทศยังสูงขึ้น 1.6% เมื่อปีที่ผ่านมา ขึ้นสูงที่สุดในกลุ่มประเทศองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ซึ่งรัฐบาลรายงานว่าสูงขึ้นจากผู้อพยพที่มักย้ายมาอยู่ในซิดนีย์ เมลเบิร์น และทางตะวันออกเฉียงใต้ของควีนส์แลนด์
นอกจากนี้ ในการขอวีซ่าในอนาคต อาจมีการกำหนดพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ทั้งจะมีการเสนอเงื่อนไขวีซ่า เพื่อให้ผู้อพยพบางคนย้ายออกไปนอกเมืองด้วย แต่ถึงอย่างนั้นผู้เชี่ยวชาญบางคนก็ตั้งคำถามกับแนวคิดของนโยบายนี้ว่า อาจจะไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง หรือโน้มน้าวให้บรรลุเป้าหมายได้
Brendan O’Connor นักการเมืองจากพรรคแรงงานกลับมองว่านโยบายนี้ ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น และเป็นประเด็นที่ต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะมีหลายภูมิภาคของประเทศนี้ที่มีงานไม่มาก และมีตัวเลขการว่างงานอยู่ในระดับสูงของภูมิภาค ดังนั้นความคิดที่จะนำคนที่ผ่านขั้นตอนการอพยพไปยังภูมิภาคที่มีการว่างงานสูงอยู่แล้วอาจก่อให้เกิดปัญหาได้ และรัฐบาลควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างจริงจังด้วย
อ้างอิงจาก
https://www.bbc.com/news/world-australia-45793262
#Brief #TheMATTER