ข่าวใหญ่ระดับโลกเวลานี้ ไม่มีเรื่องใดเกินกรณี Jamal Khashoggi นักข่าวชื่อดังชาวซาอุดิอาระเบียถูกฆ่าในสถานกงสุลซาอุฯ ที่ตุรกี เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่มีการปล่อยข้อมูล-คลิปเสียง-ภาพจากกล้องวงจรปิดต่างๆ จนเรื่องราวโยงใยไปใกล้ตัวเจ้าชาย Mohammed bin Salman มกุฎราชกุมารของซาอุฯ มากขึ้นทุกที กระทั่งกษัตริย์ King Salman ของซาอุฯ ต้องไล่คนใกล้ชิดของเจ้าชาย Saud al-Qahtani และทีมงานอีก 4 คนออก เพื่อสกัดข้อกล่าวหาไม่ให้บานปลาย
ถึงเวลานี้ มีผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ 18 คนถูกจับกุม (15 คนเชื่อว่าเป็นทีมสังหาร) สื่อตุรกีอ้างว่าคาช็อกกีถูกลวงเข้าไปฆ่าแล้วหั่นศพ ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดราชวงศ์ซาอุฯ อ้างกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า คาช็อกกีเสียชีวิตโดยไม่ตั้งใจ หลังมีการต่อสู้กัน แล้วเขาถูกล็อกคอจนขาดอากาศหายใจ
สำนักข่าวรอยเตอร์พยายามสืบหาความจริงจากหลายๆ ฝ่าย ทั้งผู้ใกล้ชิดกับราชวงศ์ซาอุฯ หน่วยงานข่าวกรองของอาหรับ และหน่วยข่าวกรองของตุรกี ก่อนจะได้ข้อมูลที่น่าสนใจ คือ อัลกาห์ตานี อาจเป็นผู้สั่งการให้สังหารคาช็อกกี้ผ่านโปรแกรมแชท Skype โดยเขาโทรมาด่านักข่าวรายนี้อย่างเสียๆ หายๆ ก่อนจะสั่งให้มือสังหารลงมือ (“Bring me the head of the dog”)
มีการอ้างด้วยว่า ปัจจุบัน คลิปการสไกป์ของคนใกล้ชิดมกุฎราชกุมารซาอุฯ นี้ อยู่ในมือของเรเจพ เทยิพ แอร์โดอาน ประธานาธิบดีตุรกีแล้ว
(คลิปเสียงที่สื่อตุรกีนำมาปล่อยก่อนหน้านี้ ก็อ้างกันว่า ได้จากการอัดผ่าน Apple Watch ของคาช็อกกี)
สำหรับอัลกาห์ตานี ชายวัย 40 ปี ว่ากันว่า เป็นสายเหยี่ยวที่อยู่ข้างตัวเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มักเข้าควบคุมสื่อของซาอุฯ และตอบโต้ทุกเสียวิจารณ์ต่อเจ้านายของเขาอย่างแข็งกร้าว (จนได้ฉายาว่าเป็น Steve Bannon ของซาอุฯ) และมีบทบาทสำคัญในการจับกุมตัวเจ้าชายและนักธุรกิจซาอุฯ กว่า 200 คน ไปคุมขังไว้ในโรงแรมห้าดาวในกรุงริยาด เพื่อสอบสวนข้อหาเกี่ยวกับการทุจริต เมื่อปีก่อน
แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดราชวงศ์ซาอุฯ ก็ยังยืนยันว่า “เหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลสถานะของมกุฎราชกุมารซาอุฯ เพราะกษัตริย์ซัลมานก็ทรงออกมาปกป้องพระองค์ เพียงแต่อาจทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย และต้องใช้เวลานานกว่าจะกอบกู้กลับคืนมา”
อ้างอิงจาก
https://edition.cnn.com/2018/10/19/world/saudi-arabia-khashoggi-intl/index.html?no-st=1540270193
https://www.facebook.com/thematterco/posts/2157371117811612
#Brief #TheMATTER