แม้จะลดลงแค่ 0.001% เท่านั้น แต่ก็ถือเป็นสัญญาณที่น่ายินดีสำหรับรัฐบาลจีน ที่ใช้สารพัดวิธีลดความแออัดของกรุงปักกิ่งมาโดยตลอด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จำนวนประชากร (ในนิยามของเขา นับเฉพาะผู้ที่อยู่อาศัยถาวร) ในกรุงปักกิ่งของปี 2017 มีทั้งสิ้น 21.707 ล้านคน ลดลงจากปีก่อนหน้าราว 22,000 คน ซึ่งอย่างที่บอกแม้จะลดลงในสัดส่วนที่น้อยมาก แต่ก็เป็นทิศทางที่ดี หลังพยายามจำกัดการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรมาหลายปี – เพราะเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 2 ทศวรรษ!
จำนวนคนที่มากเกินไป ทำให้กรุงปักกิ่งเผชิญปัญหาทั้งรถติดแสนสาหัส การขาดแคลนทรัพยากร และราคาที่อยู่อาศัยที่พุ่งสูงขึ้น เป็นที่มาของนโยบายของรัฐบาลจีนที่จะจำกัดจำนวนประชากรไม่ให้เกิน 23 ล้านคน ภายในปี 2025
สิ่งที่จีนทำมีทั้ง สร้างเขตเมืองใหม่ในมณฑลเหอเป่ยที่อยู่ข้างกรุงปักกิ่ง (คล้ายนนทบุรีกับกรุงเทพ) ย้ายกิจกรรมที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในเมืองหลวงออกไป และสร้างระบบขนส่งที่ครอบคลุมและง่ายต่อการเดินทางในระยะไกล และพยายามเหล่านี้ก็เพิ่งมาผลิดอก-ออกผล
แต่ในทางกลับกัน ขณะที่จีนพยายามควบคุมจำนวนประชากรในเมืองใหญ่ เช่น กรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้ ในภาพรวมรัฐบาลของสี จิ้นผิง กลับพยายามที่จะเพิ่มจำนวนประชากรของทั้งประเทศ หลังจากอัตราการเกิดลดต่ำลงเรื่อยๆ เพื่อที่จะรองรับสังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบที่น่าจะมาถึงในระยะเวลาอันใกล้ โดยคาดกันว่าในปี 2035 จีนจะมีผู้สูงอายุสูงถึง 400 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันถึง 2/3
อ้างอิงจาก
http://www.xinhuanet.com/english/2018-11/22/c_137624998.htm
#Brief #TheMATTER