ทำเอาโลกออนไลน์กลับมาเดือดอีกครั้ง กับตำนานความรักที่จบไม่สวยของ 2 นักแสดงอย่าง จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) วัย 56 ปี และแอมเบอร์ เฮิร์ด (Amber Heard) วัย 33 ปี โดยสาเหตุที่เรื่องราวของทั้งสองถูกพูดถึงอีกครั้ง เพราะมีการปล่อยคลิปเสียงสนทนาของทั้งคู่ออกมา ซึ่งพูดถึงการทำร้ายร่างกายกันด้วย
The MATTER ขอสรุปเรื่องราวมหากาพย์ ของอดีตคู่รักดาราดัง โดยหลายคนมองว่า เป็นการปะทะกันระหว่างกัปตัน แจ็ค สแปร์โรว์ และราชินีเมร่า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ความรุนแรงในครอบครัวไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว
1. เริ่มเรื่องกันที่ การพบกันครั้งแรกของจอห์นนี เดปป์ และแอมเบอร์ เฮิร์ด ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ‘The Rum Diary’ ขณะนั้น เดปป์ยังคงใช้ชีวิตคู่อยู่กับ วาเนสซ่า พาราดีส์ (Vanessa Paradis) และมีลูกด้วยกัน 2 คน จนเมื่อเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ.2012 พาราดีส์กับเดปป์ ก็แยกทางกันโดยดี ปิดฉากความรัก 14 ปี
2. เกือบ 2 ปีหลังจากนั้น เดปป์และเฮิร์ด ตกลงหมั้น และเข้าพิธีแต่งงานกัน ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ.2015 แบบส่วนตัวเงียบๆ หลังจากคบหากันมานาน
3. หลังจากแต่งงานได้ 15 เดือน เฮิร์ดก็ยื่นเรื่องขอหย่ากับศาล ในวันที่ 23 พฤษภาคม ปี ค.ศ.2016 โดยระบุว่า เป็นเพราะความแตกต่างที่เข้ากันไม่ได้ ทั้งยังอ้างว่า เดปป์ทำร้างร่างกายเธอ และพูดจาดูถูกเหยียดหยามเธอ เมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นแสดงความเห็นแย้งกับเขาอีกด้วย โดยมีคลิปวิดีโอที่เดปป์ขว้างปาข้าวของ และรูปใบหน้าฟกช้ำของเธอ โดยอ้างว่า เป็นเพราะเดปป์ขว้างไอโฟนใส่หน้าเธอเป็นหลักฐานประกอบ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ข่าวเรื่องแม่ของเดปป์เสียชีวิต ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะพอดี
4. สิ่งที่เฮิร์ดเรียกร้อง คือ ค่าเลี้ยงดูจำนวน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท เพราะเดปป์ทำให้เธอมีรอยฟกช้ำ ทั้งยังทำให้เธอตกงาน ถูกเลิกจ้างจากการถ่ายภาพยนตร์ และงานถ่ายแบบอีกด้วย โดยศาลก็เปิดเผยข้อมูลรายได้และค่าใช้จ่ายของเฮิร์ด ซึ่งอยู่ที่ 44,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน หรือราวๆ 1.3 ล้านบาท แต่รายรับกลับอยู่แค่ราว 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยเท่ากับ 3 แสนกว่าบาทเท่านั้น
5. พยานของฝั่งเฮิร์ด คือ ไอโอ ทิลเล็ต ไรท์ (iO Tillett Wright) ศิลปินและเพื่อนสนิทของเฮิร์ด เล่าว่า ในคืนที่เฮิร์ดอ้างว่า เดปป์ปาโทรศัพท์ใส่หน้าเธอ ทิลเล็ต ไรท์ เป็นคนโทรเรียกตำรวจเอง โดยกล่าวว่า “ผมเป็นคนโทรเรียกตำรวจ เพราะรู้ดีว่าเธอไม่ทำแน่ (หมายถึง เฮิร์ดไม่โทรเองแน่ๆ) เพราะทุกครั้งที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ความคิดแรกของเธอคือการปกป้องเขา ทุกครั้งที่เกิดเรื่องแบบนี้ สามีสุดที่รักของเธอจะกลับมาพร้อมกับคำขอโทษมากมาย ด้วยคำพูดว่า เขารู้ดีว่าสิ่งที่เขาทำมันแย่ และสาบานว่าจะไม่ทำอีก”
อย่างไรก็ดี ตำรวจ 2 คนที่ไปยังบ้านของเดปป์และเฮิร์ดในคืนนั้น กลับระบุว่า ไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่าเกิดเหตุอาชญากรรมขึ้น เจ้าหน้าที่ก็เลยออกจากที่เกิดเหตุและทิ้งนามบัตรไว้
6. อีกด้าน เดปป์ก็ขึ้นให้การในชั้นศาลว่า เขาไม่ได้ทำร้ายเฮิร์ด แต่เธอใส่ร้ายเขา เพื่อจะที่เรียกร้องเงินค่าเลี้ยงดู เพราะตอนนั้นเธอยังไม่มีชื่อเสียงมากนัก และเฮิร์ดต่างหากที่เป็นฝ่ายทำร้ายเดปป์ ทั้งคำพูดและขว้างปาข้าวของใส่ ถึงขั้น ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บจนถึงกระดูกนิ้วกลาง จนต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วนมาแล้ว
7. ขณะเดียวกัน ดั๊ก สแตนโฮป (Doug Stanhope) นักแสดงตลก เพื่อนของเดปป์ ก็ออกมาบอกว่า เฮิร์ดใส่ร้ายเดปป์ จนเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ปี ค.ศ.2016 เฮิร์ดก็ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทต่อ สแตนโฮป ที่มากล่าวหาว่าเธอไปแบล็กเมลล์เดปป์ แต่หลังจากนั้น เธอก็ถอนฟ้องสแตนโฮป
8. เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ปี ค.ศ.2016 ลิลี่ โรส เดปป์ (Lily Rose Depp) ลูกสาวของเดปป์ ออกมาโพสต์อินสตราแกรมเพื่อปกป้องพ่อของเธอว่า พ่อของเธอเป็นคนใจดี อบอุ่น และใครก็ตามที่รู้จักเดปป์ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันหมด
9. พาราดีซ์ ภรรยาเก่าของเดปป์ ก็ออกมาให้สัมภาษณ์เช่นกันว่า “ตลอดเวลาที่ฉันรู้จักเดปป์ เขาไม่เคยทำร้ายร่างกายฉันเลยแม้แต่ครั้งเดียว นั่นดูไม่เหมือนผู้ชายที่ฉันใช้ชีวิตคู่ด้วยตลอด 14 ปีเลยซักนิด” เช่นเดียวกับ ลอรี่ แอนน์ อัลลิสัน (Lori Anne Allison) ภรรยาคนแรกของเดปป์ ก็เห็นด้วยกับพาราดีซ์ ทั้งยังยืนยันว่า เธอไม่เชื่อในสิ่งที่เฮิร์ดกล่าว
10. ต่อมา เฮิร์ดก็ถอนฟ้องที่จะเรียกร้องค่าเลี้ยงดูจากเดปป์ แต่ก็ประกาศการหย่าร้างกับเดปป์ โดยเรียกเงินมูลค่า 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 216 ล้านบาท โดยระบุว่า จะนำไปบริจาคให้องค์กรการกุศลสองแห่ง คือ ACLU องค์กรที่มุ่งเน้นการหยุดความรุนแรงต่อผู้หญิง และโรงพยาบาลเด็กลอสแองเจลิส
11. พอเฮิร์ดบอกว่า จะนำเงินทั้งหมดไปบริจาคให้องค์กรการกุศล เดปป์ก็จ่ายเงิน 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับองค์กรการกุศลโดยตรง ทำให้เฮิร์ดไม่พอใจอย่างมาก และมองว่า การที่เดปป์จ่ายเงินให้องค์กรการกุศลโดยไม่ผ่านเธอนั้น เพราะเขาตั้งใจจะใช้เงินบริจาคดังกล่าว มาลดหย่อนภาษี และทั้งคู่ก็หย่าร้างกันในปี ค.ศ.2017
12. เรื่องราวเหมือนจะเงียบไปแล้วก็จริง แต่เมื่อปี ค.ศ.2019 เดปป์ กลับเดินหน้าฟ้องเฮิร์ดต่อ พร้อมด้วยคลิปหลักฐาน การทำร้ายร่างกายจากกล้องวงจรปิดจำนวน 87 คลิป ทั้งยังมีพยานยืนยันอีกด้วย ซึ่งเป็นการยืนยันว่า เดปป์ไม่ได้ทำร้ายร่างกายเฮิร์ดเลย
13. สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สาเหตุที่เดปป์ ฟ้องเฮิร์ดกลับอีกครั้ง เป็นเพราะเฮิร์ดเขียนบทความเรื่องความรุนแรงในครอบครัว ลงในหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ว่า เธอเป็นเหยื่อที่ถูกกระทำ ซึ่งเป็นการพาดพิงมาถึงเดปป์
14. นอกจากนี้ หมายฟ้องของฝั่งเดปป์ ยังเล่าถึงผลกระทบหลังคำกล่าวหาของเฮิร์ดว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเสียบท กัปตัน แจ็ค สแปร์โรว์ ในเรื่อง Pirate of the Caribbean แม้ดีสนีย์จะชี้แจงว่า เป็นเพราะค่าตัวของเดปป์แพงเกินไปก็ตาม ขณะที่ หัวหน้าทีมทนายของเฮิร์ด ออกมาวิจารณ์ว่า เดปป์พยายามจะปิดปากเฮิร์ดมากกว่า
15. ยิ่งกว่านั้น เดปป์ยังกล่าวถึงเรื่องที่เฮิร์ด แอบคบหาดูใจกับ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซีอีโอของ SpaceX ทั้งที่ยังแต่งงานอยู่กับเดปป์อีกด้วย ซึ่งแม้ทีมงานของทั้งฝั่งเฮิร์ด และมัสก์จะออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ แต่หลังจากที่เฮิร์ดฟ้องหย่ากับเดปป์เสร็จ เธอก็มาคบหาดูใจกับมัสก์จริงๆ
16. เรื่องราวกลับมาปะทุอีกครั้ง หลังจากมีการเผยแพร่คลิปเสียงของทั้งคู่ ที่ถูกบันทึกไว้เมื่อปี ค.ศ.2015 โดยเป็นคลิปเสียงที่เกิดขึ้นหลังเฮิร์ดไม่ยอมเล่าเหตุการณ์การทำร้ายร่างกายให้ทนายของเดปป์ฟัง ซึ่งในคลิปเสียงนี้ เฮิร์ดแสดงความไม่พอใจที่เดปป์เดินหนีทุกครั้งที่พวกเขาทะเลาะกัน และมีคำพูดยืนยันว่า เธอทำร้ายร่างกายเขาจริงๆ
เฮิร์ดพูดว่า “ฉันสัญญากับคุณไม่ได้หรอก ว่าจะไม่มีการทำร้ายร่างกายอีก บางครั้งฉันก็โคตรโมโห แล้วคุมตัวเองไม่ได้” ส่วนเดปป์ก็บอกว่า เขาต้องเดินหนี เพราะไม่อยากถูกทำร้าย
17. คลิปเสียงนี้ ทำเอาโลกโซเชียลโหมกระแส #JusticeForJohnnyDepp ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และมีหลายคนเรียกร้องให้ค่ายหนังถอดเฮิร์ด ออกจากบทบาทของราชินีเมร่า ในภาคต่อของภาพยนตร์เรื่อง Aquaman อีกด้วย
อ้างอิงจาก
https://variety.com/2016/film/news/amber-heard-sues-comedian-blackmailing-johnny-depp-1201788628/
https://www.tmz.com/2016/05/28/johnny-depp-ex-wife-denies-abuse/
https://people.com/movies/amber-heard-on-elon-musk-relationship/
https://www.posttoday.com/v5/ent/news/435336
https://www.bbc.com/news/entertainment-arts-48348911
#Recap #JusticeForJohnnyDepp #TheMATTER