นับเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อน เมื่อ เจ.เค.โรว์ลิง (J.K. Rowling) ผู้ประพันธ์เรื่อง Harry Potter ทวีตข้อความเกี่ยวกับทรานส์เจนเดอร์ ที่ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนถึงขั้นที่ทำให้แก๊งนักแสดงกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อโต้ตอบกับนักเขียนในประเด็นดังกล่าว The MATTER เลยขอสรุปรวมเรื่องราวที่เกิดขึ้น มาให้ทุกคนชมกัน
1. เรื่องราวเริ่มต้นมาจากการข้อความของ เจ.เค.โรว์ลิง ที่ทวีตว่า “‘คนที่มีประจำเดือน’ ฉันมั่นใจว่า มันจะต้องเคยมีคำเรียกคนพวกนี้แน่ๆ ใครรู้ช่วยบอกที ผู้หยิง (Wumben) ปู้จิ๋ง (Wimpund) ผู้ฉิง (Woomud)” พร้อมกับแนบลิงก์บทความเรื่อง โลกหลังวิกฤต COVID-19 ควรให้โอกาสคนที่มีประจำเดือน จากเว็บไซต์ Devox
2. ทวีตข้อความดังกล่าว มียอดไลก์มากถึง 80,000 กว่าไลก์ และยอดรีทวีตกว่า 40,000 ครั้ง พร้อมด้วยกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยหนึ่งผู้ที่มาตอบกลับ มีคนทวีตด้วยว่า เขาเคยพยายามจะฆ่าตัวตายมาแล้ว แต่ก็ล้มเลิกความตั้งใจนั้น เพราะอยากเห็นตอนจบของ Harry Potter จนได้มาเจอกับสามีและได้รักตัวเองอีกครั้ง การกระทำของ เจ.เค.โรว์ลิง กำลังเหยียดหยามเขาอย่างมาก
3. หลังจากนั้น เจ.เค.โรว์ลิง ก็ทวีตอีกหนึ่งข้อความตามมา โดยบอกว่า “ฉันใช้เวลา 3 ปีที่ผ่านมาในการอ่านหนังสือ บล็อก และเปเปอร์ทางวิทยาศาสตร์โดยเหล่าคนที่เป็นทรานส์ ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านเพศ ฉันรู้ดีว่าความแตกต่างคืออะไร อย่าคิดเลยว่าเพราะเขาคิดต่าง แล้วพวกเขาจะไม่มีความรู้”
4. จากนั้น ก็ตามมาด้วยทวีตข้อความอีกมากมาย โดยทวีตที่คนหยิบมาพูดถึงกันมากที่สุด คืออันที่ระบุว่า “ถ้าเรื่องเพศไม่มีจริง ก็จะไม่มีการชอบเพศเดียวกัน ถ้าเรื่องเพศไม่มีจริง ความจริงในชีวิตของผู้หญิงทั่วโลกก็จะถูกลบหายไป ฉันรู้จักและรักทรานส์เจนเดอร์ แต่การลบกรอบคิดเรื่องเพศ แปลว่าหลายๆ คนจะไม่สามารถพูดถึงเรื่องที่มีคุณค่าต่อพวกเขาได้ การพูดความจริงไม่ได้แปลว่าเกลียดชัง”
5. “ความคิดว่าผู้หญิงอย่างฉัน ที่รู้สึกเห็นอกเห็นใจกลุ่มคนข้ามเพศมานาน รู้ว่าพวกเขาต่างผ่านประสบการณ์ไม่ต่างจากผู้หญิง เช่น เผชิญกับความรุนแรงของผู้ชาย แต่ฉันก็โดนกล่าวหาว่าเกลียดชังทรานส์เจนเดอร์ เพียงเพราะพวกเขาคิดว่าเพศกำเนิดคือเรื่องจริง และเคยผ่านผลกระทบที่มีต่อการใช้ชีวิต มันเป็นเรื่องไร้สาระ”
6. “ฉันเคารพเหล่าทรานส์เจนเดอร์ทุกคน พวกเขามีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตในแบบที่สบายใจ และเป็นตัวของตัวเอง ฉันเดินประท้วงไปกับคุณ ถ้าความเห็นต่างของคุณถูกต่อต้านหรือโดนเหยียด แต่ในเวลาเดียวกัน ชีวิตฉันก็ถูกหล่อหลอมจากการเป็นผู้หญิง ฉันเชื่อว่ามันไม่ผิดหากจะพูดอย่างนี้”
7. หลังจาก เจ.เค.โรว์ลิง ทวีตข้อความเหล่านี้ ก็เกิดกระแสโต้กลับอย่างหนักหน่วง จน แดเนียล แรดคลิฟฟ์ (Daniel Radcliffe) นักแสดงผู้โด่งดัง ซึ่งเป็นผู้รับบท แฮร์รี่ พอตเตอร์ กล่าวว่า “ผู้หญิงข้ามเพศก็คือผู้หญิง ความคิดเห็นที่แตกต่างจากนี้ คือการลบล้างตัวตน และศักดิ์ศรีของทรานส์เจนเดอร์ และต่อต้านคำแนะนำทั้งหมดที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพซึ่งมีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้มากกว่า โจ (เจ.เค.โรว์ลิง) และผมเอง”
8. นอกจากนี้ แรดคลิฟฟ์ ก็ยังบอกด้วยว่า “ตามรายงานของ The Trevor Project พบว่า 78% ของทรานส์เจนเดอร์ และ Non-binary จะถูกเหยียดเพราะอัตลักษณ์ทางเพศ พวกเราควรสนับสนุนพวกเขาให้มากขึ้น ยอมรับในตัวตนของพวกเขา และไม่ทำให้ชีวิตพวกเขาต้องเจอกับความน่ากลัวไปกว่าเดิม”
9. นอกจากแรดคลิฟฟ์แล้ว อีวานน่า ลินซ์ (Evanna Lynch) นักแสดงสาวที่เล่นเป็น ลูน่า เลิฟกูด ออกมากล่าวว่า “การที่ต้องรู้สึกไม่เข้าพวก หรือไม่ได้รับการยอมรับในสิ่งที่คุณเป็น คือเรื่องที่แย่ที่สุด และเป็นความโดดเดี่ยวที่สุด เท่าที่มนุษย์จะเผชิญได้ และฉันจะไม่ทำอะไรที่ลดคุณค่าของเหล่าทรานส์เจนเดอร์ไปมากกว่านี้ ฉันขอแสดงความนับถือความกล้าหาญมหาศาลที่พวกเขาแสดงออกมา ด้วยการโอบกอดความเป็นตัวเอง และฉันคิดว่า พวกเราทุกคนควรฟังเรื่องราวของคนเหล่านี้”
10. นอกจากนี้ ลินซ์ ยังย้ำด้วยว่า เธอไม่เห็นด้วยกับ เจ.เค.โรวลิง ที่บอกว่า ผู้หญิง cis (มีเพศสภาวะตรงกับเพศสภาพ) เป็นชนกลุ่มน้อยที่อ่อนแออีกด้วย
11. เช่นเดียวกับ เอมม่า วัตสัน (Emma Watson) นักแสดงดังที่รับบท เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ก็ออกมาให้กำลังใจกับทรานส์เจนเดอร์ โดยบอกว่า ตัวเธอและอีกหลายคนทั่วโลกมองเห็นพวกเขา ให้เกียรติพวกเขา และรักพวกเขาในแบบที่พวกเขาอยากจะเป็น พร้อมบอกว่า เธอได้บริจาคเงินให้กับองค์กรที่ช่วยเหลือทรานส์เจนเดอร์ด้วย
12. ไม่เพียงแต่นักแสดงใน Harry Potter เท่านั้น เอดดี เรดเมน (Eddie Redmayne) ผู้รับบทเป็น นิวท์ สคามันเดอร์ จากเรื่อง Fantastic Beasts ที่ออกมากล่าวว่า ตัวเขาเองพยายามหาความรู้เกี่ยวกับทรานส์เจนเดอร์ เพื่อทำความเข้าใจกลุ่มคนเหล่านี้ ทั้งยังย้ำว่า ผู้หญิงทรานส์ ก็คือผู้หญิง เช่นเดียวกับผู้ชายทรานส์ ที่เป็นผู้ชาย และ non-binary ก็มีตัวตนอยู่จริงเช่นกัน
13. นอกจากนี้ ยังมีนักแสดงคนอื่นๆ ที่ออกมาเห็นค้านกับ เจ.เค.โรว์ลิง มีทั้ง เคที เหลียง (Katie Leung) ที่รับบทเป็น โช แชง, โมนา ดัมเมสเวนิ (Noma Dumezweni) ที่รับบทเป็นเฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ เวอร์ชั่นบรอดเวย์, บอนนี่ ไรท์ (Bonnie Wright) ที่รับบทเป็น จินนี่ วิสลีย์ และ คริส แรนกิน (Chris Rankin) ที่รับบทเป็น เพอร์ซีย์ วิสลีย์
14. ล่าสุด เจ.เค.โรว์ลิง ออกมาอัพเดทผ่านเว็บไซต์ของเธอว่า ความสนใจในเรื่องของทรานส์เจนเดอร์ของเธอ เริ่มมาจากการที่เธอเป็นผู้รอดชีวิต จากการถูกทารุณกรรม ทั้งยังบอกว่า การแสดงความคิดเห็นนี้ ถือเป็นเสรีภาพในการแสดงออกของเธอ
ประเด็นถกเถียงนี้ยังคงถูกพูดถึงเรื่อยๆ ซึ่งเราก็คงต้องติดตามกันว่า เรื่องราวนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร
อ้างอิงจาก
https://twitter.com/jk_rowling/status/1269389298664701952
https://www.bbc.com/news/uk-53002557
https://twitter.com/EmmaWatson/status/1270826851070619649
#recap #JKRowling #TheMATTER