รู้หรือไม่? นักเรียนที่ฝ่าฝืนกฎในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งที่สหรัฐอเมริกา ถูกเสนอให้ไปเดินป่ากับคุณครู แทนที่จะกักขังไว้ในโรงเรียน
เลสลี่ ทรูนดี้ (Leslie Trundy) ที่ปรึกษาประจำโรงเรียนมัธยมมอร์ส (Morse High School) รัฐเมน สหรัฐอเมริกา ได้ริเริ่มโครงการทางเลือกสำหรับการลงโทษกักขังสำหรับนักเรียนที่ฝ่าฝืนกฎแทนที่จะให้นั่งอยู่ในห้องเรียน เป็นการเดินป่าตามเส้นทางธรรมชาติแทน
เดิมการลงโทษกักขังนักเรียนจะถูกใช้กับนักเรียนมัธยมปลายที่ฝ่าฝืนกฎของโรงเรียน เช่น โดดเรียน โต้เถียงครู สูบบุหรี่ไฟฟ้า หรือใช้โทรศัพท์เมื่อไม่ได้รับอนุญาต และ ‘การถูกกักขัง’ คือ การลงโทษให้พวกเขานั่งในห้องเรียนตลอด 2-3 ชั่วโมงหลังเลิกเรียน
โดยทรูนดี้เริ่มโครงการนี้หลังเข้าร่วมการประชุมการศึกษากลางแจ้ง และเกิดความสงสัยว่า หากใช้เวลานอกอาคารร่วมกันจะทำให้นักเรียนเปิดใจเกี่ยวกับปัญหาที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่หรือไม่ โดยหวังว่าระหว่างเดินป่าจะเป็นช่วงเวลาที่มีคุณภาพระหว่างเขากับผู้เรียน ผ่านการแสดงความเอาใจใส่นักเรียน พร้อมรับฟังนักเรียนระหว่างทาง
ในช่วงแรกนักเรียนที่ต้องเข้าร่วมมักรู้สึกว่า ‘น่าเบื่อ’ การนั่งเฉยๆ ที่โรงเรียนเพื่อรอเวลาครบโทษอาจดี เพราะการเดินป่าต้องใช้แรงกายมหาศาลในการเดินทางครั้งนี้
ทว่า นักเรียนได้สัมผัสธรรมชาติและรู้สึกผ่อนคลาย ผ่านกลิ่นต้นสน เสียงนกร้อง และการพูดคุยกันระหว่างทาง ทำให้เกิดผลลัพธ์คือ นักเรียนบอกว่าการเดินป่าดีต่อสุขภาพจิตของเขา รู้สึกเหมือนเป็นความสําเร็จเมื่อเดินเสร็จ และบางคนขอเข้าร่วมการเดินป่าอีกครั้งแม้ไม่ถูกกักขัง
ถึงกระนั้น มีผู้ปกครองบางคนไม่เห็นด้วยการลงโทษลักษณะนี้ และถอนลูกออกจากโครงการ โดยมองว่าการเดินป่าไม่ใช่บทลงโทษที่เพียงพอสำหรับการทำผิดกฎ
ทั้งนี้ เอมี แม็กดอนเนลล์ (Amy McDonnell) นักวิชาการด้านประสาทวิทยาความรู้ความเข้าใจประจำมหาวิทยาลัยยูทาห์ (The University of Utah) อธิบายว่า การใช้เวลากลางแจ้งช่วยลดความเครียด เพิ่มสมาธิ และการสร้างมิตรภาพหรือความสัมพันธ์แบบตัวต่อตัวยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิตและร่างกายอีกด้วย
สุดท้ายนี้ จำนวนนักเรียนที่ถูกกักขังลดลงในปีการศึกษาล่าสุด ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าโปรแกรมได้ผล ทรูนดี้จึงตั้งเป้าที่จะสานต่อโครงการนี้ในปีการศึกษาหน้าต่อไป
อ้างอิงจาก