คืนหนาวๆ แบบนี้จะห่มผ้าก็ไม่แปลก แต่บางทีในคืนหน้าร้อน ถึงจะร้อนตับแล่บแค่ไหน บางคนก็ยังต้องห่มผ้า ตื่นเช้ามาชุ่มโชกแต่หลับนอนอย่างอุ่นหัวใจก็ยอม การนอนเป็นส่วนสำคัญของชีวิตและการมีเครื่องนอนและนอนห่มผ้าถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม
การนอนเตียงพร้อมเครื่องนอนย่อมเป็นสัญญาณของการเป็นผู้มีวัฒนธรรม ‘ผ้าห่ม’ ถือเป็นนวัตกรรมที่มนุษย์สร้างขึ้น การที่เราจะมีผ้าห่มผืนใหญ่หนานุ่มได้ เราต้องมีเทคโนโลยีสิ่งทอในระดับสูง ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยอียิปต์ที่เรารู้จักการทอผ้าลินินผืนใหญ่ เรื่อยมาจนถึงการทอผ้าขนสัตว์ในสมัยโรมัน จนถึงการทำฝ้ายในยุคกลาง แน่นอนว่าผ้าห่มและเครื่องนอนในสมัยก่อนย่อมเป็นของแพง เป็นเครื่องใช้ที่จำกัดเพียงแค่ชนชั้นสูงเท่านั้น จนถึงยุคสมัยใหม่ การผลิตแบบอุตสาหกรรมทำให้ผ้าห่มมีราคาถูกลง ชนชั้นกลางทั้งหลายเริ่มซื้อผ้าห่มเครื่องนอนไว้ใช้ที่บ้านได้
เราอาจรู้สึกว่า เอ๊ะ ผ้าห่มอาจจะเป็นเรื่องของเมืองหนาว เป็นเรื่องของความจำเป็นรึเปล่า นักมานุษยวิทยาบอกว่า การห่มผ้าดูจะเป็นเรื่องสำคัญกว่าแค่ความจำเป็นเรื่องการต่อสู้กับสภาพอากาศเท่านั้น มีงานเชิงมานุษยวิทยาในปี 2002 หนึ่งในงานศึกษาเรื่องวัฒนธรรมการนอนที่มีน้อยนิด โดยลงไปดูกลุ่มชนดำรงชีพด้วยการหาของป่า พบว่า ไม่ว่าจะกลุ่มวัฒนธรรมในเขตร้อนหรือหนาวก็มีวัฒนธรรมเครื่องนอนทั้งนั้น มีแต่กลุ่มวัฒนธรรมเร่ร่อนเท่านั้นที่ไม่พบการใช้เครื่องนอนหรือผ้าห่ม ดังนั้นไม่ว่าจะเมืองร้อนหรือหนาว ประเทศร้อนๆ เช่น ปาปัวนิวกินี และแอฟริกากลาง นักวิจัยก็พบการใช้ผ้าห่มอยู่ – บ้านเราหรือประเทศจีน ก็มีผ้าบางๆ หรือผ้าแพรเพื่อห่มนอน
ดูเหมือนว่าผ้าห่มจะมีความหมายกับเรา และคุณภาพชีวิตของเรา Alice Hoagland ผู้อำนวยการศูนย์ปัญหาการนอนไม่หลับในนิวยอร์กบอกว่าการใช้ผ้าห่มส่งผลหลักๆ สองประการคือ เกี่ยวข้องกับวงจรอุณหภูมิร่างกาย และเป็นปัจจัยทางพฤติกรรม
ประการแรก ว่าด้วยความสัมพันธ์ของการนอนหลับและการควบคุมอุณหภูมิของร่างกายในช่วงกลางคืน อธิบายอย่างง่ายที่สุด ตอนที่เราจะนอน อุณหภูมิร่างกายเราจะค่อยๆ ลดต่ำลง เมื่อตัวเราเย็นลง ร่างกายก็จะหลั่งเมลาโทนิน ฮอร์โมนที่ทำให้ง่วงออกมา แต่วงจรการนอนและการคุมอุณหภูมิเรามีความซับซ้อนกว่านั้น ในขณะที่เราหลับสนิท (REM sleep) เราจะเข้าสู่ภาวะที่ไม่สามารถจัดการอุณหภูมิแบบตอนตื่นได้
ในระหว่างการนอนร่างกายของเราจะเย็นลงเรื่อยๆ จนกระทั่งช่วงก่อนรุ่งสาง ช่วงเวลาที่อุณหภูมิภายนอกลดต่ำสุด ช่วงเวลานั้นร่างกายเราจะหลับสนิท อุณหภูมิในร่างกายจะลดลงเกินระดับ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเมืองร้อนหรือไม่ การแกว่งของอุณหภูมิและกลไกของร่างกายดังกล่าว ทำให้เราต่างจำเป็นต้องมีผ้าห่มไว้ติดตัว
อีกอย่าง ผ้าห่มทำหน้าที่สัมพันธ์กับพฤติกรรม เป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่บอกว่าถึงเวลานอนแล้ว ตอนเด็กๆ พอเราจะนอน พ่อแม่มักกจะส่งผ้าห่มหรือห่มผ้าให้เรา ในทางพฤติกรรม เราจึงเรียนรู้ว่า นี่แหละคือเวลาที่เราต้องนอน มากไปกว่านั้น การห่มผ้าให้โดยพ่อแม่อาจมาพร้อมกับความอบอุ่นและความปลอดภัยที่พ่อแม่มอบให้
อ้างอิงข้อมูลจาก