ปลายปีแบบนี้ เรารู้นะว่าหลายคนกั๊กวันหยุดพักร้อนกันไว้ ไม่ก็ลืมใช้จนบริษัทต้องบอกให้ท่านลาหยุดซะบ้าง และเราก็พอจะเดาได้เหมือนกันว่าหลายๆ คนที่มาหยุดกันในช่วงนี้ อาจจะขี้เกียจเดินทางไปโน่นมานี่ หรือไม่ก็อยากจะใช้เวลาหาความสนุกอย่างมีคุณภาพที่บ้านกันบ้าง
เพราะอย่างนั้น เราเลยจะมาแนะนำถึงเกมที่คู่ควร
กับการซื้อไปเล่นยาวๆ ในช่วงปีใหม่กัน
นี่คือ 10 เกมที่ทีม The MATTER นำข้อมูลจากคะแนนของเว็บไซต์ Metacritic ควบคู่กับความเห็นของสื่อและทีมงาน The MATTER เราเห็นว่า 10 เกมนี้นี่แหละคือตัวแทนของเกมในปี 2016
10 – Pokemon GO (iOS, Android)
Metascore : 68 / User 5.4
สนนราคา : 0 – ∞ (ตามแต่ศรัทธาของผู้เล่น)
โอเค… ถึงกระแสตอนนี้จะดูดรอปลงไป แถมคะแนน Metascore ก็ไม่ได้ดีเด่อะไรเท่าไหร่นัก แต่เพราะตอนที่เปิดตัวสองได้สามเดือนแรก เกมนี้ก็ทำให้ ‘ทั้งโลก’ บ้าคลั่งได้อย่างแท้จริง ผู้คนออกเดินทางกันเพื่อสะสมโปเกมอนที่พวกเขาชื่นชอบ พยายามยึดยิมตามที่สำคัญๆ ทำให้คนที่ไม่เคยเล่นเกมมาก่อนได้ออกมาเล่นเกม ทำให้คนเล่นเกมได้ออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน จุดนี้นี่เองที่ทำให้เราเชื่อว่า Pokemon GO จะกลับมาฮิตเป็นระยะๆ ถ้าหากทางทีมพัฒนาปล่อยอัพเดทได้ถูกจังหวะจะโคน เหมือนที่ในช่วงนี้หลายๆ คนก็กลับมาล่า ปิกาจู ใส่หมวกซานต้ากันแล้วนั่นไงล่ะ
9 – Stardew Valley (PS4, XB1, PC, OSX, Linux)
Metascore : 88 / User 8.5
สนนราคา : 315 บาท
อย่าให้ภาพในสไตล์ 16 บิท หลอกตาคุณ นี่คือเกมอินดี้ที่ Eric Barone แฟนเกม Harvest Moon ดึงเอาพื้นฐานจากเกมที่เขาชอบมาใช้ ก่อนจะใส่อะไรอื่นๆ เพิ่มเข้าไป อย่างการสะสมของเพื่อนำมาพัฒนาไร่ของผู้เล่น ทำให้ Stardew Valley ก้าวข้ามจากเกมกลายเป็น ‘อุปกรณ์วาร์ปข้ามห้วงกาลเวลา’ แบบที่ทำเอาหลายคนเสียงานเสียการมาแล้ว แถมด้วยการเปิดให้โมดิฟายเกมได้ง่ายๆ และการอัพเดทที่ต่อเนื่องจากผู้สร้าง ทำให้การปล่อยมือจากเกมนี้เป็นเรื่องยากมากเรื่องหนึ่งเลยล่ะ
8 – Inside (PS4, XB1, PC)
Metascore : 92 / User 8.5
สนนราคา : 369 บาท – 720 บาท
อีกหนึ่งเกมอินดี้จากทีมงานที่เคยพัฒนาเกม Limbo มาแล้ว นอกจากจะมีสไตล์ภาพลึกลับ น่ากลัว แต่ก็ยังมีเสน่ห์ ทั้งยังใช้เวลาไม่นานในการศึกษาการเล่นและเล่นให้จบ แต่คนที่เล่นแล้วแทบทุกคนล้วนแล้วแต่เกิดคำถามว่า เรื่องราวในเกมนั้นคืออะไร และผู้เล่นหลายคนก็ตัดสินใจกลับไปเล่นอีกครั้งเพื่อหาคำตอบให้ตัวของเขาเอง เสน่ห์แบบนี้เองทำให้เกมนี้ได้รับรางวัล Best Independent Game หรือเกมอินดี้ยอดเยี่ยม จาก Game Critics Awards 2016 และ The Game Awards 2016 มาแล้ว
7 – Battlefield 1 (PS4, XB1, PC)
Metascore : 88 / User 8.4
สนนราคา : 1,699 บาท – 4,629 บาท
น่าเสียดายที่โหมดผู้เล่นคนเดียวของเกม Battlefield จืดชืดเหมือนลืมใส่ซุปก้อนเข้าไป แต่ใครเขาซื้อเกมนี้มาเล่นคนเดียวกัน ว่าแล้วทางทีมพัฒนาก็ใส่ใจกับการพัฒนาเกมให้การเล่นเป็นทีมนั้นสำคัญขึ้นมากๆ อย่างเช่นระบบ Behemoth ที่ให้ฝ่ายแพ้สามารถพลิกเกมกลับได้มากขึ้น หรือจะคลาสในแต่ละคลาสที่ไม่มีชั้นไหนโหดหรือกากเป็นพิเศษ ปัญหาใหญ่ก็คือ…จะหาเพื่อนดีๆ รู้ใจในเกมมันหายากเย็นอ่ะ
6 – Uncharted 4 : A Thief’s End (PS4)
Metascore : 93 / User 7.9
สนนราคา : 1,490 บาท – 2,200 บาท (มีระบบการซื้อของในเกมต่างหากด้วยนะ)
ถึงจะเป็นเกมที่สงวนสิทธิ์เฉพาะผู้มีเครื่อง Playstation 4 แต่ก็ต้องยอมรับว่า การสวมบทเป็น Nathan Drake นักล่าสมบัติในยุคปัจจุบันก็ทำให้เรารู็สึกตื่นเต้นเร้าใจได้ทุกครั้ง ไม่ว่าจะในฐานะผู้เล่นที่เน้นลุยหรือเน้นซุ่มก็ตาม หรือผู้ชมที่สามารถอิ่มเอมไปกับฉากในเกมที่สมจริงแทบจะทุกไอดินและเมล็ดหิน ส่วนระบบเล่นหลายคนที่ถือว่าเป็นของแถมก็สนุกอยู่ไม่น้อยทีเดียวเชียวล่ะ …ติดอย่างเดียวก็คือมันลงแค่เครื่อง Playstation 4 เนี่ยแหละ #เปย์วนไปค่ะ
5 – Doom (2016) (PS4, XB1, PC)
สมัยนี้เกมที่ดีเขาว่าจะต้องมีพลอตที่ดี การเล่าเรื่องที่อลังการ… แต่เรื่องแบบนั้นไม่มีเกมนี้เลย เพราะนี่คือการกลับมาของบิดาเกมยิงแหลกที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เป็นการฆ่าศัตรูที่โหดขึ้น ดังนั้นคอเกมที่เกิดทันเกม Doom ภาคเก่าๆ และมีคอมที่สเปคแรงพอ คงจะแฮปปี้ดี๊ด๊ามากที่ได้เจออะไรคลาสสิคแบบเดิม เสริมแต่งด้วยระบบการเล่นหลายคนที่มีทั้งสไตล์การเล่นเก่าๆ กับโหมดใหม่ที่เปิดให้ผู้เล่นแปลงร่างเป็นปีศาจไปกระทืบฝ่ายตรงข้ามบ้างอะไรบ้าง แต่คนที่รู้สึกว่าเกมมันควรจะมีอะไรลึกกว่านี้ก็ต้องเสียใจด้วยจริงๆ นะ
4 – Dark Souls III (PS4, XB1, PC)
www.darksouls3.com
Metascore : 89 / User 8.8
เกมสำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์และหัวร้อนช้าทั้งหลาย ภาคนี้แฟนคลับหลายคนบอกว่าง่ายขึ้นนิดหน่อยเพราะตัวเกมเอาข้อดีของเกม Bloodborne ทั้งระบบและตัวละคร ที่ทีมสร้างไปพัฒนามาเสริม แต่ก็ไม่ใช่ว่าเกมจะง่ายระดับที่สามารถเดินไปมาในเกมได้เหมือนอย่างเดินชมสวนสาธารณะนะ และยังมีระบบเล่นออนไลน์ที่กระตุ้นให้คนวนเวียนเข้าไปหัวเสียและปาจอยซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะงั้นสำหรับคนที่อยากได้อะไรชิลๆ …ก็ควรผ่านๆ เกมนี้ไปนะตัวเธอ
3 – The Witcher 3: Wild Hunt – Blood and Wine (PS4, XB1, PC)
VG247.com
Metascore : 92 / User 9.1
สนนราคา : ยกแพ็ครวมภาคหลักและภาคเสริมอีกตัวจ่าย 1,299 บาท
จริงอยู่ว่า The Witcher ภาค 3 ไม่ใช่เกมของปีนี้ แต่ภาคเสริม Blood and Wine นั้นสมควรที่จะพูดถึงอย่างยิ่ง แม้ว่าตัวเอกของเรายังล่าปิศาจอยู่เช่นเดิม แต่ครั้งนี้สถานที่ถูกโยกย้ายไปเป็น Toussaint ดินแดนที่ยังไม่ถูกสงครามย่างเข้าไปทำลาย เพื่อสืบคดีการฆาตกรรมปริศนาที่อาจเกิดขึ้นจากเงื้อมมือปิศาจ ความเปลี่ยนแปลงเนื้อหาตัวนี้เห็นได้ชัดจากสีสันของตัวเมือง รวมถึง Vineyard ที่กลายเป็นฐานทัพ โรงเก็บของ และโรงสร้างของที่เพิ่มความสะดวกและเวลาที่ใช้กับมันมากขึ้น กับระบบ Mutation ที่ทำให้ตัวเอกเราเก่งโม้สะใจขึ้นไปอีกขั้น ถือว่าเป็นการปิดตำนานของเกมภาคนี้ได้อย่างดี
2 – Civilization VI (PC, OSX)
Metascore : 88 / User 7.3
สนนราคา : 1,600 บาท – 2,100 บาท
ต้นตำรับเกมที่กลายเป็น ‘อุปกรณ์วาร์ปข้ามห้วงกาลเวลา’ และทำให้เกิดวลี ‘ขอเล่นอีกเทิร์น’ (One More Turn) กลับมาอีกครั้งหลังจากเสียทรงไปเล็กน้อยกับภาคสำรวจอวกาศ ตัวเกมยังเปิดให้ผู้เล่นก้าวข้ามไปสู่ยุคใหม่ได้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือระบบ District ที่ทำให้การสร้างสิ่งปลูกสร้างต้องคิดเยอะขึ้น ระบบศาสนากับการเมืองที่มีผลต่อการเล่นมากขึ้นและใช้งานสะดวกขึ้น ไม่แปลกนักที่เกมนี้จะได้รางวัล Best PC Game และ Best Strategy Game จาก Game Critics Awards 2016 ไปครอง จุดที่น่าเสียดายก็คงไม่พ้นว่า ชนชาติสยามหายไปในเกมหลักแต่อาจจะตามมาในตัวเสริมตัวต่อๆ ไป
1 – Overwatch (PS4, XB1, PC)
Metascore : 91 / User 6.8
สนนราคา : 1,100 บาท – 2,200 บาท
ถ้าคอเกมคนไหนที่เล่นเกมของปีนี้แล้วบอกว่าไม่รู้จัก Overwatch ต้องพูดเลยว่าคุณตกยุคไปแล้ว ด้วยระบบการเล่นที่เอาของที่คนคุ้นเคยอย่าง FPS ผสานเข้ากับการเล่นสไตล์ MOBA ตัวละครที่มีเอกลักษณ์ทั้งรูปร่างและทักษะ ปริศนาเรื่องราวที่น่าติดตามและชวนค้นหา กับอนิเมชั่นสุดเจ๋งจากทาง Blizzard ทำให้เกมนี้กลายเป็นเกมที่ได้รับความนิยมและน่าสนใจที่สุดเกมหนึ่ง แล้วก็มีดราม่าอื่นๆ ตามมาหลากหลาย ทั้งเรื่องดราม่าตัวละครเซ็กซี่เกินไปบ้าง เสื้อผ้าตัวละครมีความสุ่มเสี่ยงทางศาสนาบ้าง ดราม่าการพนันบ้าง รวมถึงการตกเป็นสื่อโป๊มากที่สุดบ้าง แต่ที่มีดราม่าเยอะขนาดนี้นั้นก็เพราะว่าตัวเกมมีคนเล่นมหาศาลนั่นล่ะ
P.S. เกมที่ไม่ติดอันดับแต่อยากแนะนำ
นอกจาก Top 10 ของปีนี้ ก็ยังมีเกมอีกจำนวนหนึ่งที่เรามองว่าอาจจะมีความ ‘ไม่สุด’ อยู่นิดๆ หน่อยๆ แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สามารถละลายเวลาที่มีได้อย่างดี จะมีอะไรกันบ้างลองไปดูกันเลย
Titanfall 2 (PS4, XB1, PC)
Metascore : 88 / User 8.0
สนนราคา : 1,000 บาท – 2,000 บาท
ภาคต่อของซีรีส์เกมยิงยุคอวกาศควบการขี่หุ่นยนต์ที่ได้รับคำชื่นชมอย่างมาก ด้วยการพัฒนาทั้งในมิติการเล่นหลายคน และการเล่นคนเดียว (…ก็ภาคแรกไม่มีด้วยอะนะ) น่าเสียดายอย่างเดียวคือตัวเกมนั้นมีคนเล่นน้อยกว่าที่ควรไปนิด จนมีสื่อเกมหลายเจ้าออกความเห็นว่าเป็นหนึ่งในเกมดีที่ถูกคนมองข้ามของปี
Xcom 2 (PS4, XB1, PC)
Metascore : 88 / User 8.0
สนนราคา : 1,000 บาท – 1,499 บาท
เกมวางแผนการรบต่อต้านภัยจากต่างดาวภาคต่อ ที่ในภาคนี้มนุษย์ต่างดาวได้ยึดโลกไปเรียบร้อย ส่งผลให้ทีมของผู้เล่นกลายเป็นหน่วยต่อต้านที่มีเป้าหมายในการปลดแอกโลกให้เป็นอิสระอีกครั้งหนึ่ง สไตล์การเล่นยังสามารถทำความเข้าใจได้ง่าย แต่ก็มีความลุ่มลึกในการเอาชนะคู่ต่อสู้ ที่พร้อมจะทำให้คนเล่นเสียเวลากับเกมและหัวร้อนได้ง่ายๆ กับการบริหารกองกำลังกอบกู้โลกนี้
Forza Horizon 3 (XB1, PC เฉพาะ Windows 10)
Metascore : 91 / User 7.4
สนนราคา : 1,800 บาท – 3,600 บาท
เกมขับรถที่พาคนเล่นไปยังทวีปออสเตรเลียเพื่อขับเคลื่อนยานยนต์ที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก ไม่ใช่แค่การขับผ่านสถานที่ต่างๆ เพื่อดื่มด่ำภาพอันงดงามเท่านั้น แต่ยังมีการแข่งขันที่ท้าทายและสร้างชื่อเสียงในเกม เพื่อนำไปซื้อหรือปรับแต่งรถใหม่ๆ ให้ถูกใจมากขึ้น ตัวเกมไม่สมจริงมากไปหรือเป็นแนวของเล่นเด็กมากไป ทำให้คนเล่นสามารถเข้าถึงตัวเกมได้ง่ายๆ ฝรั่งออกจะบ่นสักหน่อยว่ารถพวงมาลัยขวาในเกมเยอะแต่สำหรับชาวไทยคงคุ้นเคยกันแล้ว ตัวเกมลงใน Xbox One และยังสงวนเนื้อสงวนตัวให้ผู้เล่นบนคอมพิวเตอร์ที่ใจถึงซื้อเกมจาก Microsoft Store ใน Windows 10 เท่านั้น
Dishonored 2 (PS4, XB1, PC)
Metascore : 88 / User 7.7
สนนราคา : 1,800 บาท – 2,000 บาท
ภาคต่อของเกมลอบเร้นในโลกสตีมพังค์ที่มีการใช้พลังพิเศษหลากหลาย ในภาคนี้เปิดให้เลือกเล่นเป็นตัวเอกจากภาคแรก Corvo หรือตัวเอกใหม่อย่าง Emily ที่ทั้งสองตัวมีพลังแตกต่างกัน ทำให้รสชาติของการเล่นแตกต่างกัน แถมความท้าทายของเกมก็อยู่ในระดับที่สนุกสนาน จนทำให้ได้รางวัล Game Of The Year มาจากนิตยสาร PC Gamer และ Best Action/Adventure จาก The Game Awards 2016 ด้วย ข้อเสียก็คือตัวเกมมีปัญหาจุกจิกโดยเฉพาะบนเวอร์ชั่นคอมพิวเตอร์ที่ปัจจุบันแพทช์แก้ไขก็ยังไม่สมบูรณ์เสียที
Final Fantasy XV (PS4, XB1)
Metascore : 82 / User 7.9
สนนราคา : 1,600 บาท (แผ่นแบบปกติ) – 16,000 บาท (เครื่อง PS4 FINAL FANTASY XV LUNA EDITION)
อย่างที่คุณซัน Lead Designer ของเกมนี้เคยบอกกับเราว่า ว่ามันเป็นเกมที่ทำให้คุณไปผจญภัยกับเพื่อนในโลกแฟนตาซีโดยแท้จริง และจากข่าวที่ว่ากำลังจะมีอัพเดท DLC ตัวใหม่ที่เพิ่มเนื้อหาให้ตัวเกมมากขึ้น ทั้งโหมด New Game+ ที่ให้คุณเริ่มเกมใหม่โดยมีไอเท็มจากการเล่นจบครั้งก่อน และการปรับเปลี่ยนอีกหลายประการ ส่วนข้อด้อยที่เกมนี้ประสบก็เป็นการเล่าเรื่องบางช่วงบางตอนที่ทีมพัฒนาบอกว่าจะแก้ไขเพิ่มเติมให้ภายหลังด้วย