ตามหลักวิทยาศาสตร์ ‘ความกลัว’ นั้นเป็นอารมณ์ที่สำคัญยิ่งของมนุษย์เรา เพราะมันทำให้มนุษย์มีขอบเขตในการใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย โดยเฉพาะเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ ‘ความมืด’ หรือ ‘ช่วงกลางคืน’ รวมไปถึงต้นไม้รกชัฏ แมลง ฯลฯ ผลจากสัญชาตญาณพื้นฐานนี้ก็ถูกพัฒนามาเป็นเรื่องเล่าที่เป็นกุศโลบายไม่ให้มนุษย์ไปเผชิญอันตราย ก่อนจะพัฒนาเป็นเรื่องเล่าในจินตนาการ และทำให้ ‘ความกลัว’ กลายเป็นการให้รางวัลที่มนุษย์เรียนรู้และเอาตัวรอดจากภัยต่างๆ
ในช่วงปลายเดือนตุลาคมเช่นนี้ก็เป็นช่วงที่หลายๆ ประเทศทั่วโลกเอนจอยไลฟ์กับเทศกาลฮาโลวีน แล้วสนุกสนานไปกับ ‘ความกลัว’ ที่ตัวเรานั้นปลอดภัย (ซึ่งนี่ก็เป็นสัญชาตญานของมนุษย์ที่ไม่อยากไปเสี่ยงอีกนั่นล่ะ) ไม่ว่าจะเป็นฝั่งหนังหรือฝั่งซีรีส์ก็พร้อมใจกันปล่อยหนังแนวแหวะๆ หลอนๆ ในช่วงนี้ และหลายๆ คนก็เลือกที่จะเอาเวลาช่วงนี้มา binge watch หนังกับซีรีส์โทนผีหรือสยองขวัญกัน
อีกกิจวัตรที่กลายเป็นเรื่องที่นิยมกันในเทศกาลฮาโลวีน ก็คือการเล่นเกมแนวสยองขวัญโต้รุ่ง ที่กลายเป็นเทรนด์ฮิตขึ้นมา เหตุผลอาจจะไม่ใช่เพราะคนอยู่ติดบ้านมากขึ้นอย่างเดียว แต่เพราะเกมแนวสยองขวัญเป็นการกลั่นกรองเอาเทคนิคที่ทำให้คนกลัวจากหลายๆ สื่อมารวมกัน เพราะเกมมีครบทั้งภาพ เสียง และบทที่นับวันก็พัฒนาไปเรื่อยๆ และพร้อมจะเขย่าประสาทของผู้เล่นมากขึ้น
เกมแนวสยองขวัญมีในตลาดมากขึ้น จนถึงขั้นมีงานวิจัยของ Indiana University โดย เทเรซา ลินช์ โดยศึกษาถึงวิธีที่เกมทำให้ผู้เล่นเกิดความกลัว ซึ่งเธอบอกว่า “ตัวละครของคุณ (ในเกม) กลายเป็นร่างแยกของตัวคุณ เมื่อมีอะไรที่น่ากลัวเกิดขึ้นกับตัวละครในเกม มันก็เกิดขึ้นกับตัวคุณด้วย” และ “การเล่นเกมนั้นเป็นการพาตัวเราเข้าไปในโลกเสมือน มันทำให้อารมณ์ร่วมที่มี (ต่อเกม) เข้มแข็งอย่างมาก”
นอกจากนี้เธอยังพูดถึงว่าเกมสยองที่เธอชอบเป็นเกม ‘ริดรอนสิทธิ์ของผู้เล่น’ จนทำให้คนเล่นเกมรู้สึกว่าไม่สามารถมั่นใจว่าตัวเองจะปกป้องตัวละครในเกม (หรือตัวเอง) ให้รอดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ เช่น เกมอย่าง Eternal Darkness: Sanity’s Requiem ที่บางจุดของเกมก็ทำให้การควบคุมกลับหัวกลับหางเอาซะเลย หรือเกมเก่าหน่อยอย่าง Resident Evil / Bio Hazard ภาคแรกๆ ที่ตัวละครมีความคล่องตัวต่ำจนดูแล้วไม่น่าจะรอดออกมาจากดงซอมบี้ได้
แล้วถ้าไปดูในฝั่งเกมแคสเตอร์ในหลายๆ ประเทศทั่วโลกก็จะเห็นว่า กลุ่มคนเหล่านั้นนิยมจะเล่นเกมแนวสยองขวัญ ไม่ว่าจะเป็น PewDiePie ในโลกตะวัน หรือจะเป็นพี่เอก HEARTROCKER ของไทยเรา เป็นอาทิ ถึงอย่างนั้นถ้าพูดถึงตัวยอดขายแล้วเกมสยองขวัญอาจจะไม่ใช่เกมที่ทำยอดได้สูงมากนัก เมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งมีข่าวว่าทีมพัฒนาเกม Visceral Games ที่สร้างเกมซีรีส์สยองขวัญอย่าง Dead Space ก็ถูกปิดตัวลง และอดีตทีมงานก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเกมแนวสยองขวัญใช้งบในการสร้างเยอะ (ตามที่บอกข้างบนไปว่าตัวเกมแนวนี้ใช้ทุกเทคนิคของสื่อบันเทิงจริงๆ) แต่สร้างรายได้ไม่ค่อยเยอะ
เท่าไหร่
เพื่อต้อนรับบรรยากาศในวันฮาโลวีนแบบนี้ The MATTER จึงขอแนะนำเกมแนวสยองขวัญจำนวนหนึ่งที่แต่ละเกมจะมีจุดเด่นของความน่ากลัวต่างกันไป ใครเห็นเกมไหนน่าสนใจก็อย่าลืมไปอุดหนุนให้กำลังใจผู้พัฒนาเกม (ยิ่งช่วงนี้บางเกมก็ลดราคาอยู่ด้วย) แล้วสนุกไปกับความกลัวที่พวกเขาบรรจงสร้างเอาไว้ในเกมเหล่านี้ด้วยล่ะ
Outlast
เกมสยองขวัญมุมมองบุคคลที่หนึ่งที่ไม่ให้ผู้เล่นมีอาวุธติดตัว จะมีก็แค่อุปกรณ์ช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ แม้เกมรูปแบบนี้เป็นที่นิยมมากขึ้นและก็มีจำนวนไม่น้อยที่โดดเด่น กระนั้นเกมที่จัดเต็มทั้งบรรยากาศ ทั้งภาพที่นำเสนอ และเนื้อเรื่องอันน่าติดตาม ก็ยังต้องยกให้กับเกมซีรีส์ Outlast ที่ภาคแรกพาผู้เล่นไปสำรวจโรงพยาบาลจิตเวชที่มีข่าวลือว่าทดลองผิดกฏหมายกับคนไข้ในนั้น ส่วนภาคสองเป็นการไปทำข่าวในกลุ่มศาสนาที่มีความเชื่อปนรวมกับความรุนแรง
Alien : Isolation
เกมที่จับเอาหนังดังมาทำเป็นเกมแนวมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ตัวเกมนั้นจับเอาช่วงเวลา 15 ปีให้หลังจากหนังภาคแรกที่ลูกสาวของนางเอกในฉบับหนังเดินทางไปยังยานอวกาศที่แม่ของเธอเคยประจำการ ตัวเกมจำลองเอาบรรยากาศอันแสนอึดอัดอึมครึมของตัวหนังได้เป็นอย่างดี และบ่งบอกถึงความอันตรายของ ‘อวกาศ’ รวมถึงความอ่อนแอของมนุษย์ที่แทบจะต่อกรกับ ‘เซโนมอร์ฟ’ สัตว์ประหลาดอวกาศที่ฆ่าคนได้เหมือนเคี้ยวกล้วย แม้ว่าตัวเกมจะให้อาวุธมาใช้ป้องกันตัวเองไว้บ้าง แต่อาวุธที่ดีที่สุดสำหรับเกมนี้คงเป็นความใจกล้าที่ต้องใช้ทุกครั้งเมื่อคุณพยายามหลบเลี่ยงการไล่ฆ่าของเอเลี่ยนสุดโหดที่ป้วนเปี้ยนอยู่ภายในยาน
Until Dawn
เกมเฉพาะกิจบนเครื่อง PlayStation 4 เกมนี้่ นอกจากที่จะเอาเนื้อเรื่องอิงจากหนังสยองขวัญที่กลุ่มวัยรุ่นต้องเจอมือฆ่าลึกลับที่อาจจะไม่ใช่มนุษย์ ตัวเกมอาศัยให้ผู้เล่นต้องทำตามที่เกมสั่ง (เช่น การถือจอยให้นิ่งที่สุด) หรือเลือกทางเลือก ผู้สร้างเกมยังจริงจังกับการสร้างบรรยากาศความกลัว ถึงขั้นที่ใช้เทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ในการวัดความกลัวกับความเครียดที่เกิดขึ้นในร่างกายมนุษย์ อย่างการตอบสนองทางผิวหนังโดยการนำกระแสไฟ (Galvanic Skin Response) หรือปริมาณเหงื่อที่เกิดขึ้นระหว่างการเล่น มาวัดค่าเพื่อออกแบบเกมให้สยองยิ่งขึ้น แถมตัวเกมยังขึ้นสถิติของผู้เล่นคนอื่นๆ ว่าตัดสินใจเลือกชะตากรรมใดให้ตัวละครในเกม หรือจะบอกว่าหลอนครบถ้วนทั้งฝั่งจิตวิทยาและฝั่งสถิติกันเลยก็คงไม่ผิด
Yume Nikki
เกมเล็กๆ เกมนี้เกิดจากผู้พัฒนาเพียงหนึ่งคนที่ใช้โปรแกรม RPG Maker ในการสร้างเกม เนื้อหาของเกมให้ผู้เล่นควบคุมตัวละครตัวหนึ่งที่เป็นฮิคิโคโมริ เธอสามารถนอนแล้วเดินทางไปในโลกแห่งความฝันซึ่งอุดมไปด้วยฉากพิลึกพึลั่น พร้อมด้วยการกระทำหลายๆ อย่างที่คนเล่นเกมอาจจะคาดเดาลำบาก ตัวเกมทำให้เห็นว่า ต่อให้ไม่ได้ใช้เอฟเฟ็กต์อลังการในการสร้างเกมแต่ถ้าสามารถสร้างบรรยากาศที่ไม่น่าพึงประสงค์ให้คนเล่นเชื่อได้ เกมนั้นก็จะกลายเป็นเกมสยองชั้นดีเช่นกัน
Five Nights At Freddy’s
เรื่องเกิดขึ้นจากการที่ผู้ดีไซน์เกมอย่าง สก็อต คอวธอน ดันออกแบบตัวละครในเกมที่ควรจะน่ารักให้ดูน่ากลัวเกินไป เขาจึงเอาตัวละครพวกนั้นมาทำเป็นเกมแนวสยองขวัญแบบจริงจังซะเลย แม้ว่าตัวเกมจะมีแค่การกดคลิกเพื่อสำรวจดูว่า หุ่นภายในเกมที่จะทำการฆ่าใครก็ตามที่เพ่นพ่านในถิ่นของมันในช่วงกลางคืนอยู่ในห้องไหน แล้วผู้เล่นต้องปิดประตูป้องกัน เปิดไฟไล่ ด้วยพลังงานที่มีจำกัด ถ่วงเวลาให้ถึงรุ่งเช้า ตัวเกมได้รับความนิยมอย่างสูงแถมยังมีออกมาให้เล่นกันแล้วถึงห้าภาค และกำลังจะกลายเป็นภาพยนตร์คนแสดงอีกด้วย
Silent Hill 2
เจมส์ ซันเดอร์แลนด์ ผู้อมทุกข์เพราะการจากไปของภรรยาที่รัก จนกระทั่งมีจดหมายที่เธอส่งมาจากเมือง ‘ไซเลนต์ฮิลล์’ สถานที่ที่ทั้งสองคนเคยไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ แต่ครั้งนี้่ เมื่อเจมส์เดินทางไปถึง เขากลับพบว่าเมืองแห่งนี้ไม่ได้เป็นเมืองเล็กๆ น่ารักแบบที่เขาจำได้ มันอุดมไปด้วยเมฆหมอกบดบังสายตาและสัตว์ประหลาดมากมาย กระนั้นคนอื่นๆ ที่เขาเจอในเมืองกลับมองเห็นเมืองนี้แตกต่างกัน มีอะไรซุกซ่อนอยู่ในเมืองแห่งนี้กันแน่? แม้เกมสยองขวัญแนวมุมมองบุคคลที่สามที่หยิบยกมานี้ออกจะเก่าอยู่สักหน่อย แต่เกมในตระกูล Silent Hill ไม่ได้นำพามาแค่ความสยอง เกมในซีรีส์นี้มักจะมาพร้อมมุมมองที่ว่า ‘นรกอยู่ในใจ’ นั้นเป็นอย่างไร และในภาคที่ 2 นี้ มุมมองของนรกที่ว่าก็ถูกบิดให้เห็นได้ชัดขึ้น นอกจากนั้นตัวเกมยังมีฉากจบหลากหลาย ซึ่งทุกภาคจะมีฉากจบแนวโจ๊กหักมุม ที่ทีมผู้พัฒนาเกมเคยให้สัมภาษณ์ว่า “มันอาจจะเป็นฉากจบที่แท้จริงก็ได้นะ” เห็นไหมว่า ‘นรกอยู่ในใจ’ ของแต่ละคนนั้นมันแตกต่างกันจริงๆ
Dead By Daylight
ใครว่าเกมสยองขวัญจะต้องเป็นเกมเล่นคนเดียวเสมอ? Dead By Daylight ที่เป็นเกมจำลองสถานการณ์ในหนังแนว ‘ล่อมาเชือด’ โดยให้ผู้เล่นคนหนึ่งรับบทเป็นน้กฆ่าที่มีพลังเหนือธรรมชาติ ส่วนอีกสี่คนจะรับบทเป็นคนที่ต้องเอาชีวิตรอดไปให้ได้ แม้ว่าหลายๆ คนอาจจะเห็นว่าตัวเกมเน้นเล่นเอามันส์เสียมากกว่า แต่ถ้าหากเจอคนเล่นเกมที่คุมสถานการณ์ภายในเกมดีๆ อย่างเช่น มีผู้เล่นที่ชอบรับบทนักฆ่าบาง คนจริงจังถึงขั้นที่ใช้เครื่องเปลี่ยนเสียงในการเล่นเกม หรือทีมผู้เล่นกันเองอาจจะพยายามสร้างสถานการณ์หักหลังกัน กลายเป็นว่าความน่ากลัวของเกมนี้อาจจะไม่ใช่วิธีการฆ่าฟัน แต่เป็นการ ‘กลัวใจ’ ของผู้เล่นคนอื่นภายในเกมต่างหาก
Fatal Frame 2 : Crimson Butterfly
Fatal Frame คือเกมที่อุดมไปด้วยผีหลากสไตล์จากเกาะญี่ปุ่น เรียกได้ว่าแทบจะขนผีเกือบทุกตนที่เราคุ้นตาในหนังผีญี่ปุ่นมาอยู่ในเกมก็ว่าได้ ตัวเกมภาคสองนั้นนอกจากผีจะเฮี้ยนแล้ว ฉากและเรื่องราวก็ชวนตามติด กับฝาแฝดที่ดันไปติดแหงกอยู่ในหมู่บ้านที่หายสาปสูญไปอย่างกะทันหัน แต่โชคดีที่เรามีกล้องปราบผีให้ใช้งาน ปัญหาก็คือ แฝดสาวที่เราควบคุมนั้นจะไปช่วยแฝดอีกคนที่เหมือนจะโดนผีสิงอยู่ได้ทันเวลาหรือไม่ การที่ตัวเกมภาคนี้่ถูกจัดจำหน่ายซ้ำถึงสี่ครั้ง จึงเป็นข้อพิสูจน์ได้ดีว่าเกมภาคนี้น่าจะฮิตเพราะความหลอนของผีและเรื่องที่ติดตาม
P.T.
จะบอกว่าเกมนี้เป็น ‘เกมเต็ม’ ก็ไม่น่าใช่ เพราะมันคือ ตัวอย่างเกม (หรือ Playable Teaser ตามที่ชื่อเกมระบุไว้) ที่เปิดให้เล่นฟรีในช่วงระยะเวลาหนึ่งบนเรื่อง PlayStation 4 ฉากของเกมไม่มีอะไรมากแค่ตัวเอกเดินวนอยู่ในชั้นหนึ่งของบ้านหลังหนึ่ง ที่ในเกมระบุว่ามีการฆาตกรรมในครอบครัวเกิดขึ้น แต่ความสยองที่เกิดขึ้นในพื้นที่เล็กๆ นี้ ไม่ได้เล็กน้อยเลยแม้ว่าจะเป็นแค่ตัวอย่างเกม แต่ก็ทำให้เห็นว่าเกมสยองขวัญยังมีที่ว่างให้พร้อมเล่นงานคอเกมอยู่เสมอ แม้ว่าตัวเกมจะถูกหยุดพัฒนาไปแล้ว แต่ผู้พัฒนาเกมหลายคนก็เอาเศษเสี้ยวของเกม Silent Hills นี้มาต่อยอดและพัฒนาต่อจนกลายเป็นเกมใหม่ๆ ต่อมาอีกมากมาย
Home Sweet Home
พูดถึงเกมต่างประเทศมาตั้งแต่เริ่ม ก็ขอปิดท้ายเกมที่น่านั่งเล่นในวันฮาโลวีนนี้ด้วยเกมสยองจากบ้านเราเองอย่าง Home Sweet Home แม้ว่าพื้นเพจะใกล้เคียงกับเกม Outlast ที่เราพูดถึงไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่บรรยากาศสยองขวัญแบบไทยๆ ภายในเกมนั้น ต่อให้ผู้เล่นไม่ใช่คนไทยก็ยังรู้สึกตัวสั่นงันงกไปกับเกมได้โดยง่าย และคิดว่าเกมภาคต่อควรจะรีบออกมาให้คอเกมทั่วโลกได้เล่นกันต่อในเร็ววันนี้
อ้างอิงข้อมูลจาก