ไอ้แมงมุมกลับมาโลดแล่นในฐานะหนังโรงอีกครั้ง กับภาคใหม่ Spider-Man : Home Coming หลังจากที่เคยกลับมาโชว์ตัวกันแว้บๆ ใน Captain America : Civil War แถมดูคะแนนรีวิวจากเว็บต่างๆ ก็ทำให้แฟนคลับฮีโร่จอมพ่นใยคนนี้สบายใจไปล่วงหน้ากันบ้างแล้ว
พูดถึงสไปเดอร์แมนแล้ว สังเกตกันไหมครับว่าตัวละครที่เป็น ‘ซูเปอร์ฮีโร่’ จะมีอยู่หลายตัวที่ได้รับพลังมาจากสัตว์ พวกเขาอาจจะเป็นกลุ่มตัวเอกบ้าง ตัวร้ายบ้าง จุดนี้ผู้สร้างตัวละครหลายๆ คน มักจะให้ความเห็นว่าเพราะพวกเขาอยากจะเห็นว่าเมื่อมนุษย์ได้รับพลังแบบที่สัตว์มีแล้วจะเลือกทำตัวอย่างไร
แต่อีกส่วนก็สะท้อนความในใจของมนุษย์ ที่โดยพื้นฐานแล้วต้องการหาที่พึ่งและเหตุผล หลายๆ ครั้งมนุษย์อย่างเราๆ ก็มองเห็น ‘ความเหนือกว่า’ บางประการของสัตว์ ที่บางคนก็อาจจะแค่ชื่นชมจุดเหนือกว่านั้น จนกลายเป็นการเพาะเลี้ยง หรือบางกลุ่มคนก็นิยมความเหนือกว่าจนเกิดการบูชาสัตว์ในฐานะ เทพ หรือ เป็นตัวแทนของเทพ ซึ่งสื่อบันเทิงเองก็นำเสนอเรื่องเหล่านี่อยู่บ้าง ไม่ว่าจะในแง่แฟนตาซี ในแง่จริงจัง หรือแม้แต่ในแง่ตลกขบขัน
ถึงอย่างนั้นเราคงยังไม่ได้ลงลึกเรื่องปรัชญาของสรรพสัตว์ที่อยู่ในสังคมมนุษย์แต่อย่างใดครับ ครั้งนี้ The MATTER จึงขอมองไปยังโลกฝั่งบันเทิงและยกตัวอย่าง ตัวละครที่มีพลังมาจากสัตว์ ที่หากไม่แนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักคงจะถือว่าพลาดมากๆ
Spider-Man
ไอ้แมงมุมถือว่าเป็นตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ที่มีพลังจากสัตว์อันแสนโดดเด่นของ Marvel ถูกสร้างมาตั้งแต่ปี 1962 (ถ้านับอายุกันจริงๆ ก็ต้องเป็นคุณลุงวัย 55 ปี แล้ว) และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนถูกสร้างเป็นนิยาย ละครวิทยุ ละครทีวี (มีเวอร์ชั่นหนึ่งเป็นของญี่ปุ่นด้วย) อนิเมชั่น รวมถึงการถูกจับทำเป็นหนังมาแล้วถึง 3 เวอร์ชั่น
พลังพิเศษที่ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ได้รับมาจากแมงมุมอาบกัมมันตภาพรังสี (หรือ แมงมุมกลายพันธ์ตามแต่เวอร์ชั่น) ก็คือความสามารถในการปืนป่ายกำแพง พละกำลังเหนือมนุษย์ และ ‘สไปเดอร์เซนส์ (Spider-Sense)’ สัมผัสพิเศษถึงอันตราย ส่วนการยิงใยแมงมุมนั้นในฉบับการ์ตูนดั้งเดิมนั้นใช้อุปกรณ์ในการยิง ก่อนที่หนังเวอร์ชั่นแรกจะปรับให้สไปเดอร์แมนยิงเว็บเอง และทำให้ฉบับการ์ตูนปรับสลับใช้กันเป็นว่าเล่น
ทั้งนี้ไม่เคยมีการบอกกล่าวว่าการโดดแมงมุมกัดนั้นทำให้ผู้ที่ถูกกัดจะพูดเยอะขึ้นแบบที่สไปเดอร์แมนเป็นอยู่หรือเปล่า จะอย่างไรเสียเราก็คงจะได้ติดตามพลังอันยิ่งใหญ่ที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่งของไอ้แมงมุมกันอีกระยะหนึ่งแน่นอน
Batman
ว่ากันตามจริง… หนึ่งในฮีโร่ของทาง DC Comics ที่ชาวโลกจดจำได้มากที่สุดไม่ได้มีพลังอะไรจากสัตว์เลยแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่ใช้ทรัพย์สินของครอบครัวกับความสามารถของตัวเองในการต่อสู้และประดิษฐ์อุปกรณ์ต่างๆ ในการเข้าปะทะและสยบอาชญากรจำนวนมาก กระนั้นในการ์ตูนและหนังบางฉบับก็ตีความว่า เขาต้องการสร้างสัญลักษณ์ ‘ค้างคาว’ ให้เป็นตัวแทนของความยุติธรรมที่คนร้ายจะต้องเกรงกลัว
ตัวละครที่เป็นการออกแบบของ Bob Kane และ Bill Finger นี้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1939 จึงมีประวัติและการพัฒนาตัวละครที่ยาวนาน รวมถึงการถูกดัดแปลงเป็นสื่อประเภทต่างๆ จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น การ์ตูนเล่มแยกของตัวเอง การ์ตูนแบบสั้นลงในหนังสือพิมพ์ ละครวิทยุ ละครทีวี นิยาย และหนังทั้งในแบบคนแสดงและอนิเมชั่น ทั้งยังผ่านความดราม่ามาอีกจำนวนไม่น้อย (อาทิ ปมเรื่องรักร่วมเพศของระหว่างแบทแมนกับโรบิน)
ปัจจุบัน แบทแมน ถือว่าเป็น ‘มนุษย์ที่อันตรายที่สุด’ ของฝั่ง DC Comics เพราะนอกจากที่เขาจะสามารถไขคดีที่ยากเย็นได้ ปราบปรามเหล่าร้ายที่มีพลังเหนือกว่า เขายังมีอุปกรณ์และแผนการพร้อมรับมือกับแทบทุกตัวละครในจักรวาล DC (จนกลายเป็นมุกในโลกอินเทอร์เน็ตที่ว่า “ถ้าแบทแมนได้วางแผน…”) แถมยังเคยรวมร่างกับ Wolverine มาแล้ว
น่าลุ้นกันต่อไปว่าการปรากฏตัวครั้งต่อไปของอัศวินรัตติกาลจะกลับมาสร้างความน่าจดจำในรูปแบบใดได้บ้าง
Animal Man
ถึงซูเปอร์ฮีโร่ตัวเด่นของ DC อย่างแบทแมน และสหายใกล้ชิดของมนุษย์ค้างคาว ที่อยู่ในกลุ่ม ‘ครอบครัวแบทแมน (Batman Family)’ จะใช้ชื่อเกี่ยวข้องกับสรรพสัตว์ (โรบิน, แบทเกิร์ล ฯลฯ) แต่เกือบทุกคนก็เป็นแค่มนุษย์ปกติที่ใช้อุปกรณ์เสริม (ยกเว้น แคทวูเมน ในบางฉบับที่ได้พลังจากแมวจริงๆ มาบ้าง) และถ้าข้ามไปดูเพื่อนในกลุ่ม Justice League อย่าง อควาแมน ก็ไม่ได้มีพลังจากสัตว์เสียทีเดียว (พี่แกแค่สื่อสารกับสัตว์น้ำได้แต่พลังไม่ได้มาจากปลาแต่อย่างใด)
ทาง DC ยังมีตัวละครหนึ่งที่ใช้พลังของสัตว์แบบเต็มพิกัด ซึ่งตัวละครนั้นก็คือ Animal Man ยอดมนุษย์ที่สามารถใช้พลังของสัตว์ประเภทใดก็ได้ที่เคยมีตัวตนอยู่บนโลกนี้ ส่วนที่มาพลังของเขานั้นในฉบับดั้งเดิมกล่าวว่า เขาได้เจอกับซากยานอวกาศลึกลับและได้อาบลำแสงจากยานจนทำให้เขาสามารถดึงพลังสรรพสัตว์มาใช้ได้ และสรรพสัตว์ที่ว่านั้นหมายถึงสัตว์ที่สูญพันธ์ไปแล้วอีกด้วย ผลก็คือฮีโร่คนนี้บินได้ มีแรงแข็งแกร่งดั่งไดโนเสาร์ ปีนกำแพงได้ดั่งแมงมุม (หือ … แซวใครหรือเปล่านะ ?)
Animal Man ปรากฎตัวครั้งแรกในปี 1965 แต่ไม่ได้รับความนิยมนักจนหายจากหน้าหนังสือไปจนถึงช่วงปลายยุค 1980 ที่ Grant Morrison มาแต่งเรื่องและวาดให้ ก่อนจะถูกโยกไปอยู่กับ Vertigo ที่เป็นบริษัทลูกของทาง DC และโยกกลับมาสู่บ้านเก่าอีกครั้งในยุค New 52 ด้วยสไตล์เรื่องที่เครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ทว่าต่อให้บินได้ แข็งแรงจัด หรือเร็วว่องไวเหนือใคร ก็ไม่ได้รับประกันว่าฮีโร่คนนี้จะดัง และในตอนนี้ Animal Man ก็ได้หายตัวจากจักรวาล DC Rebirth ไปเสียอย่างนั้น เราเดาว่า Animal Man คงจะใช้พลังจากนกมากไปจนเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น
Squirrel Girl
กลับมายังฝั่ง Marvel อีกครั้งหนึ่ง ที่ก็มีฮีโร่จำนวนมากที่ใช้พลังจากสัตว์เช่นกัน ทว่าหากเลือก แบล็คแพนเธอร์ อาจจะไม่ได้ตรงประเด็นมากนัก จริงอยู่ว่าชื่อเป็นเสือดำ แต่ฮีโร่คนดังกล่าวก็ไม่ได้ใช้พลังจากสัตว์เสียทีเดียว เราจึงขอหยิบยกเอาสาวน้อยผู้มีพลังของกระรอกอย่าง Squirrel Girlมาพูดถึงแทน
แม่สาวกระรอกคนนี้ ถ้าเทียบวัยวุฒิแล้วก็ยังไม่มากเท่าตัวละครตัวอื่นๆ ที่เรายกมาพูดถึงวันนี้ด้วยซ้ำ เธอถูกสร้างขึ้นในปี 1992 พลังของเธอนอกจากสื่อสารกับกระรอกแล้วก็มีพละกำลังกับความเร็วเหนือมนุษย์ สามารถกางเล็บที่แหลมคม และมีหางฟูฟ่องแบบกระรอกงอกออกมาจากตัว เธอยังสามารถสั่งการกระรอกคู่ใจอย่าง Monkey Joe และ Tippy Toe ได้ด้วย
เห็นพลังดูไม่มีอะไรแบบนี้ แต่เธอมีเกียรติประวัติในฉบับหนังสือการ์ตูนอยู่หลากหลายประการ เรื่องที่เด่นมากๆ อาทิ การกระทืบตัวละครหลายตัวอย่าง ทานอส ที่ในหนังยังไม่ได้โชว์ฝีมืออะไรก็พ่ายแพ้ต่อเธอพี่ชายกรงเล็บคมมีพลังฟื้นฟูตัวเองอย่าง วูล์ฟเวอรีน เธอก็ชนะมาแล้ว และแม้แต่จอมเกรียนอย่างเดดพูล ก็ไม่อาจต้านทานพลังของเธอได้
แฟนการ์ตูนหลายๆ ท่านจึงลุ้นว่าเมื่อไหร่แม่สาวคนนี้จะกระโดดมาโลดแล่นในฝั่งหนังโรงบ้าง
TigerSharks
ชื่อทีมซูเปอร์ฮีโร่ทีมนี้อาจจะไม่คุ้นหูของหลายๆ ท่านเท่าไหร่ แต่พูดถ้าถึงชื่อของ ThunderCats และ SilverHawks หลายท่านอาจจะคุ้นเคยกันบ้าง และ TigerSharks ก็คือทีมฮีโร่ทีมหนึ่งที่มีผู้สร้างกลุ่มเดียวกันกับสองกลุ่มบน
เรื่องของ TigerSharks เริ่มต้นขึ้นบนดาว วอเทอร์-โอ ดาวอันห่างไกลที่มีเผ่ามนุษย์ปลาอาศัยอยู่ พวกเขาได้ถูกปิศาจร้าย ที-เรย์ รุกรานแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้จนกระทั่งทีมสำรวจชาวโลกได้มาถึง พวกเขามีอุปกรณ์ ฟิชแทงค์ ที่สามารถทำให้พวกเขาแปลงร่างเป็นสิ่งมีชีวิตลูกผสมระหว่างมนุษย์กับปลา และเข้าต่อสู้เพื่อปกป้อกดาววอเทอร์-โอ เอาไว้
ถึงแม้จะใช้คอนเซ็ปต์คล้ายกับ Thunder Cats กับ Silver Haws แต่คอนเซปท์ของ TigerSharks ให้ตัวเอกเป็นมนุษย์ปกติที่แปลงร่างได้ตรงข้ามกับสองเรื่องก่อนหน้าที่ให้ตัวเอกเป็นมนุษย์ต่างดาวไป แต่ตัวรายการไม่ได้รับความนิยมมากนัก ถ้าเทียบกับสองเรื่องก่อนหน้า
กระนั้นทีม TigerSharks ก็มีโอกาสได้อวดโฉมในยุคปัจจุบันอีกครั้ง ในฐานะแขกรับเชิญของ Thunder Cats ฉบับรีบูตในปี 2011
Choujuu Sentai Liveman
ย้อนไปในช่วงวัยเด็กที่โตมาในยุค 1980-1990 หลายคนน่าจะคุ้นเคยขบวนการห้าสี หรือ ขบวนการเซ็นไต เป็นอย่างดี โดยเฉพาะ ขบวนการไดโนเสาร์ จูเรนเจอร์ ขบวนการแปลงร่างที่สมาชิกแต่ละคนใช้พลังจากไดโนเสาร์ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจนถูกทางอเมริกาซื้อลิขสิทธิ์ไปดัดแปลงเป็น พาวเวอร์เรนเจอร์ ในภายหลัง และหลายๆ คน ก็น่าจะ ยังจดจำ ขบวนการวิหคสายฟ้า เจ็ตแมน ได้เป็นอย่างดี กระนั้น ขบวนการเซ็นไต กลุ่มแรกที่วางรากฐานการใช้ธีมจากสรรพสัตว์จริงๆ ก็ต้องยกให้ ไลฟ์แมน
ไลฟ์แมนเป็นขบวนการเซ็นไตลำดับที่ 12 แม้ว่าจะใช้สรรพสัตว์เป็นธีมแทนตัวละครหลัก เนื้อเรื่องของไลฟ์แมนกลับเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ทั้งตัวเอกและตัวร้ายก็เป็นนักวิจัยวิทยาศาสตร์กันมาก่อน และชุดของเหล่าไลฟ์แมนก็คือพาวเวอร์สูทที่หมายว่าจะพัฒนาไปใช้งานในอวกาศนั่นเอง ในตอนแรกนั้น สมาชิกของไลฟ์แมนมีเพียงสามคน ก็คือ เรด ฟอลคอน เยลโลว์ ไลอ้อน และ บลู ดอลฟิน ก่อนที่จะได้สมาชิกเพิ่มเติมอีกสองคนเป็น แบล็ค ไบสัน กับ กรีน ไซ (แรดเขียว) เข้าสมทบ
หลังจากไลฟ์แมน วางรากฐานในการใช้ธีมเป็นสัตว์ให้แล้ว ภายหลังขบวนการเซ็นไตก็ใช้สัตว์บ่อยขึ้นอย่างมากโดยปริยาย
Kamen Rider
หนังแปลงร่างอีกเรื่องที่ได้รับความนิยมอย่างยืนยาวมากกว่า 45 ปี ไม่ว่าคุณจะรู้จักชื่อ ไอ้มดแดง ไม่ก็คาเมนไรเดอร์ หรือ มาสค์ไรเดอร์ก็ตามที ทั้งหมดนี้ก็คือซูเปอร์ฮีโร่ฝั่งญี่ปุ่นที่มาพร้อมกับเข็มขัดแปลงร่าง การซิ่งมอเตอร์ไซค์ไปสู่กับศัตรู และการเตะเหล่าร้ายจนร่างสลาย!!!
หลายท่านอาจจะจำได้ว่า ไอ้มดแดงหมายเลขหนึ่ง อย่าง ฮอนโก ทาเคชิ ถูกขบวนการช็อคเกอร์จับไปผ่าตัดแปลงร่าง แต่การผ่าตัดนั้นไม่ได้ผ่าตัดเปล่าๆ ทางช็อคเกอร์มีคอนเซ็ปต์เอา DNA ของสัตว์ชนิดต่างๆ ไปผสมด้วย อย่าง ไอ้มดแดงในยุคโชวะ (โดยเฉพาะ 3 คนแรก) จะได้พลังมาจากตั๊กแตน (ไม่ใช่มดแดงตามที่คนไทยเข้าใจ)
ซีรีส์มาสค์ไรเดอร์ถูกพัฒนาต่อยอดขึ้นมาเรื่อยๆ และเริ่มใช้สัตว์ประเภทอื่นๆ เป็นพลังของตัวเอก ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ในโลกจริง หรือสัตว์แฟนตาซีแบบมังกรมาใช้งาน (ในช่วงหลังมีการตีความไปไกลถึงขั้นใช้พลังจากไพ่ หรือ ผลไม้กันแล้ว) และการขับขี่พาหนะก็ไม่จำเป็นต้องเป็นมอเตอร์ไซค์อีกต่อไปแล้ว แม้ว่าความฮิตในฝั่งอเมริกาอาจจะสู้ฝั่งเซ็นไตไม่ได้ แต่ในฝั่งเอเซียเหล่าไรเดอร์ก็ยังป็นขวัญใจของเด็กๆ อยู่เหมือนเดิม
Science Ninja Team Gatchaman
ผลพวงจากการสร้างคาเมนไรเดอร์ ทำให้วงการการ์ตูนญี่ปุ่นก็พัฒนาทีมซูเปอร์ฮีโร่จำนวนมากออกมา แต่ซีรีส์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานก็คงต้องยกให้ กัชช่าแมน ของทาง Tatsunoko Production บริษัทอนิเมชั่นญี่ปุ่น ที่สร้างเหล่ากัชช่าแมนขึ้นมาในปี 1972
กัชช่าแมน เป็นการ์ตูนแอคชั่นไซไฟที่จับให้กลุ่มตัวเอกที่เป็นนินจาในโลกอนาคตใช้พลังของชุดเกราะพิเศษที่ช่วยให้พวกเขาคล่องตัวขึ้นเหมือนกับนก และตัวละครก็ใช้ชื่อแทนตัวเป็นนกแต่ละชนิด เข้าต่อสู้กับตัวร้ายที่ใช้เทคโนโลยีไปในทางที่ไม่เหมาะสม
ความนิยมของกัชช่าแมนในญี่ปุ่นถือว่าไม่น้อย จนถูกดัดแปลงเป็นหนังโรงทั้งในแบบอนิเมชั่นและคนแสดง และภาคล่าสุดของซีรีส์กัชช่าแมนก็ออกอากาศให้รับชมไปเมื่อปี 2013 ที่แสดงให้เห็นว่าฮีโร่พลังวิหคกลุ่มนี้ก็ยังได้รับความนิยมบนเกาะญี่ปุ่นอยู่ไม่น้อย
Tony Tony Chopper จาก One Piece
เราพูดถึงคนมีพลังเป็นสัตว์มาเยอะแล้ว คราวนี้เราขอพูดถึงสัตว์ที่กลายเป็นคนแต่ยังคงความสามารถของสัตว์กันบ้างครับ
โทนี โทนี ช็อปเปอร์ เป็นตัวละครจากการ์ตูนเรื่อง One Piece เดิมทีแล้วเขาเป็นกวางเรนเดียร์จมูกสีน้ำเงินที่ได้กินผลฮิโตะฮิโตะ จนสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ และสามารถพูดคุยกับมนุษย์ได้อย่างชิลๆ แต่ช็อปเปอร์ก็ยังมีความเป็นสัตว์อยู่ทำให้หลายครั้งเขาทำหน้าที่เป็นล่ามให้ระหว่างมนุษย์กับสัตว์ทั้งหลาย
ช็อปเปอร์ยังได้ฝึกฝนวิชาแพทย์กับ ดร. ฮิลรุค และ ดร. คุเรฮะ ก่อนที่จะร่วมเป็นสมาชิกคนหนึ่งของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง เมื่อถึงเวลาต้องสู้ ช็อปเปอร์จะกินยารัมเบิ้ลบอลที่ทำให้ช็อปเปอร์สามารแปลงร่างให้เหมาะสมกับสภาพการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นร่างที่เป็นกวางเขาใหญ่ หรือร่างล่ำบึ้กกระทืบคนแล้วน่าจะเจ็บ
แล้วด้วยความที่ร่างมนุษย์ของช็อปเปอร์นั้นน่ารักน่ากอด เขาเลยกลายเป็นมาสคอตตัวสำคัญตัวหนึ่งของเรื่อง One Piece ไปโดยปริยาย
Teenage Mutant Ninja Turtles
ย้อนกลับไปดูการ์ตูนของชาติตะวันตกอีกครั้งกับ ขบวนการเต่านินจา ซึ่งเป็นเต่าที่เกิดการกลายพันธุ์จนมีความสามารถแบบมนุษย์ ก่อนที่จะฝึกฝนตัวเองเป็นนินจาคอยปราบเหล่าร้ายที่อาละวาดภายในเมือ
แรกเริ่มเดิมที เต่านินจา เป็นการ์ตูนที่ออกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1984 ออกมาในลักษณะการ์ตูนแอคชั่นมีความรุนแรงมาก ก่อนที่จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นแนวปลอดภัยต่อครอบครัวมากขึ้นเมื่อถูกดัดแปลงเป็นการ์ตูนทีวีในปี 1987 ซึ่งก็เป็นเต่านินจาฉบับนี้ ที่ทำให้หลายคนได้คุ้นเคยกับไลฟ์สไตล์นินจาเฮฮาและชอบกินพิซซ่า
เต่านินจา ฉบับการ์ตูนทีวียังเป็นพื้นเพให้กับภาพยนตร์คนแสดงไตรภาค ครั้งแรกในช่วงปี 1990 – 1993 ก่อนที่จะถูกปรับไปสร้างเป็นซีรีส์คนแสดงในช่วงปี 1997-1998 (ซึ่งไปครอสโอเวอร์กับ พาวเวอร์เรนเจอร์ด้วย) ก่อนที่จะถูกสร้างเป็นภาพยนตร์คนแสดงอีกครั้งในปี 2014 และ 2016
นอกจากนี้ เต่านินจายังมีฉบับการ์ตูนทีวีและหนังการ์ตูนออกมาเรื่อยๆ แม้ว่าความนิยมอาจจะไม่ได้พีคเหมือนตอนช่วงยุค 90 แต่กลุ่มเต่ากลายพันธ์ที่คอยปกป้องผู้คนกลุ่มนี้ก็ยังมีแฟนที่ติดตามอยู่ไม่น้อย
อิทธิพลของสัตว์ต่อสื่อบันเทิงยังมีอีกมาก ทั้งยังถูกผลิตออกมาในรูปแบบแตกต่างกันไปในแต่ละยุค ซึ่งนั่นก็เป็นผลพวงของการที่มนุษย์ยังพยายามใช้ ‘สัตว์’ เป็นสื่อกลางในการนำเสนอเรื่องราวอีกมุมที่คนส่วนมากอาจจะมองข้ามไป ทั้งนี้มนุษย์เองก็ถือว่าเป็น ‘สัตว์ประเภทหนึ่ง’ ที่ควรจะเคารพสัตว์ร่วมโลกพันธุ์อื่นๆ เช่นกัน