บางคนสักเพราะความสวยงาม บ้างสักเพราะมีความหมาย และหลายคนสักไว้เป็นเครื่องเตือนความทรงจำ
รอยหมึกบนเรือนร่างนอกจากจะเป็นศิลปะแขนงหนึ่งคือสักเพื่อความสวยงามแล้ว เบื้องหลังรอยสักเหล่านั้นยังมีเรื่องราวและความหมายเฉพาะ บางคนสักเพื่อระลึกถึงบุคคลอันเป็นที่รัก บ้างสักเพื่อบันทึกความรู้สึก ณ ขณะนั้นในชีวิต หรือสักเพื่อเตือนใจให้ตัวเองลงมือทำ ไปจนสักเพื่อจดจำผลงานของตน
แล้วรอยสักของคุณล่ะ หมายถึงอะไร?
กมลกานต์ โกศลกาญจน์
อาชีพ : นักเขียนอิสระ
“ปีที่แล้วเจอเหตุการณ์หลายครั้งที่รู้สึกว่าชีวิตยากและก้าวผ่านความผิดพลาดไปไม่พ้น จนความผิดพลาดมันกำลังค่อยๆ เปลี่ยนเราให้เป็นคนอีกแบบที่เราต้องไม่ชอบแน่ๆ เราเลยรู้สึกว่าต้องมีสติ เรามีความคิดอยากสักมาตลอดแต่ไม่เคยเจอลายที่ถูกใจเลย วันหนึ่งเปิดเฟซบุ๊กเจอรูปโปรไฟล์ของเบิ้ม Wrongdesign (กรมัยพล สิริมงคลรุจิกุล) เป็นตัว K ตรงกับตัวอักษรชื่อจริงของเราเหมือนกัน นาทีนั้นคือไม่ได้แล้ว ก็เลยส่งข้อความไปขอพี่เบิ้มมาดื้อๆ เลย
“สิ่งที่ชอบมากคือพี่เบิ้มเขียนความหมายเพิ่มเติมกลับมาให้ว่า “ในนั้นมีตัว f (ตัวเขียน) เป็นความหมายซ้อน f แทน fault = ว่าเราก็เรียนรู้และเติบโตมาจากความผิดพลาด ไม่มีใครมีชีวิตสมบูรณ์ เราล้วนบกพร่องกันคนละเล็กคนละน้อย เป็นธรรมชาติของชีวิต ก็เติบโตเรียนรู้กันไป เติมขาลงไปขีดนึงก็เป็น K จากอักษรตัวแรกของชื่อเหมือนกัน” อ่านจบคือร้องไห้เลย สำหรับเราขาอีกขีดนึงจึงเป็นการเตือนสติว่า ตัวเราต้องพยุงและก้าวผ่านความผิดพลาดไปให้ได้ ให้เป็น K อยู่เสมอ ไม่เป็นยอมให้เป็น f อีก”
ปริญญ์ สุวรรณาภรณ์
อาชีพ : กราฟิกดีไซเนอร์
“แขนขวาคือของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดที่เรามี เป็นสิ่งที่พ่อกับแม่ให้มาตอนที่เราเกิด และเราก็ใช้มันสร้างศิลปะที่เรารัก มันจึงมีค่าที่สุดในชีวิต เราเลยสักโบว์ที่แขนขวาเพื่อเตือนใจเวลาท้อ เชี่ย จะร้องไห้ คนอาจจะมองว่าเฮ้ย มึงไม่ได้ใช้สมองทำงานศิลปะเหรอ แล้วจะให้สักโบว์ที่หัวเหรอ เราว่าเราไม่อยากสักโบว์รอบหัวอะ 555”
ศักดิร์พี รินสาร
อาชีพ : Creative
“ตอนนั้นสักไปแล้วสามลาย (ในครั้งเดียว) เรารู้สึกว่าอยากสักอีก เหมือนร่างกายต้องการธนบัตร เลยนั่งคิดนอนคิดดูรอยสักคนนู้นคนนี้จนนึกถึงความตายของนกขึ้นมา นกมันอิสระ มันบินได้ แต่เรารู้สึกเหมือนว่าเรากำลังจะตาย ก็เลยอยากได้นกตาย ไปหาความหมายของมันในกูเกิลจนได้คำตอบว่า มันเหมือนกับไพ่เดธที่แปลว่า การตายของสิ่งหนึ่งเพื่อการเกิดใหม่ของอีกสิ่ง ซึ่งมันกำลังเกิดขึ้นกับเราในตอนนั้น
“เลยบรีฟพี่นัทช่างสัก ( inksmith BKK) ว่า ช่วยออกแบบให้หน่อยเป็นรูปนกตายที่กำลังร่วงหล่นจากฟ้า เลยกลายมาเป็นนกอ้วนที่โดนแทงด้วยกรรไกรข้างเดียว สักอยู่ 8 ชั่วโมงได้ ตอนนั้นใหม่ทั้งช่างทั้งเรา เกือบตายเหมือนกัน เจ็บฉิบหาย”
ใหม่ ศุภรุจกิจ
อาชีพ : ฟรีแลนซ์
“หน้าเราสักอะไรอื่นไม่ได้หรอก นอกจากตัวอักษรจีน เลือกสักคำว่า 听 (ทิง) แปลว่าฟัง ความหมายก็ตามนั้นเลย ‘ฟัง’ พอสักเสร็จดันไปเจอความหมายของภาษาโบราณด้วย มันสื่อถึงรอยยิ้ม มีความสุข อะไรแบบนั้น ก็เออ ดูมีความหมายขึ้นมาเฉย”
ชุติมา รัตนเมธางกูร
อาชีพ : Co-Founder Ton Tor Homemade Ice cream
“ลายนี้เป็นรอยสักลายแรกของเรา คิดอยู่นานมากว่าลายแรกจะเป็นลายอะไรดี เพราะอยากสักเยอะแยะไปหมด สรุปมาได้ที่ลายดอกกุหลาบสีแดงซึ่งเป็นหนึ่งในลายยอดฮิตของ tattoo อยู่แล้ว เราคิดว่ามันเป็นลายที่คลาสสิค และดอกกุหลาบสีแดงมันมีความ passion สูง ถ้านึกถึงผู้หญิงก็จะนึกถึงผู้หญิงที่เฉี่ยวๆ เปรี้ยวๆ นึกถึงความรักก็จะเป็นความรักลึกซึ้งอมตนิรันดร์กาลยิ่งใหญ่ แต่ก็มีความเร่าร้อนแฝงอยู่ ดูมีสเน่ห์
“อีกความหมายสำหรับเรา ดอกกุหลาบดอกนี้เปรียบเสมือนคุณยายของเรา คุณยายเป็นผู้หญิงที่เก่ง และสวย เรามีคุณยายเป็นไอดอลที่รัก คุณยายเราชื่อกุหลาบค่ะ ลายสักดอกกุหลาบสีแดงทำให้เราเหมือนมีคุณยายอยู่กับเราตรงนี้ตลอดไป เราสักลายดอกกุหลาบตรงข้อพับแขนด้านซ้าย ที่เลือกสักตำแหน่งนี้เพราะเวลาเราหุบแขนจะไม่เห็นว่าเป็นลายอะไร แต่พอยืดแขนตรงๆ ก็จะเห็นว่าเป็นดอกกุหลาบสีแดง”
มัทนี เอื้อเจริญทรัพย์
อาชีพ : ผู้ช่วยผู้กำกับ
“ที่สักลายนี้เพราะชอบที่ถ้าปล่อยแขนลงรอยสักจะเป็นรูปคนว่ายน้ำไปทางซ้าย ถ้ายกแขนขึ้นตรงๆ จะเป็นรูปคนว่ายน้ำท่ากรรเชียง แล้วถ้ากางแขนออกจะเป็นคนเต้นระบำใต้น้ำ”
อสมาภรณ์ สมัครพันธ์
อาชีพ : Freelance editor
“ปกติรอยสักทุกรอยสักของเรา จะสักมาจากอะไรสักอย่างในหนังของเรา ซึ่งรูปนี้เป็นรูปดวงอาทิตย์ มาจากหนังเรื่องนึงที่เราทำเมื่อปีที่แล้ว จริงๆ ตอนนี้ก็ยังไม่เสร็จหรอก เพราะตอนแรกจะเอาไปส่งประกวดที่ Cat Radio พอทำออกมามันยาวเกินเลยไม่ได้ส่ง แล้วก็ยังไม่ได้เอาไปมิกซ์เสียงสักทีเลยยังไม่ได้ปล่อยให้ดู ที่มันเป็นรูปดวงอาทิตย์ เพราะว่าโจทย์ของหนังคือ ให้ตั้งชื่อเป็นชื่อเพลงไหนก็ได้ที่เคยเปิดใน Cat แล้วเราก็ตั้งตามเพลง ‘ดวงอาทิตย์’ Sol ของ Napat Snidvongs เราก็เลยไปสักรูปดวงอาทิตย์มา
“จริงๆ ก็ดูไม่ออกว่าดวงอาทิตย์กำลังจะขึ้นหรือตกจากขอบฟ้า เรารู้สึกว่ามันสะท้อนทั้งสภาวะตัวละครในเรื่องและสะท้อนสภาวะของหนังเรื่องนี้ได้ดี เพราะตัวละครในเรื่องก็กำลังคิดจะทำสิ่งหนึ่งดีหรือเปล่า กับหนังของเราเมื่อไหร่มันจะเสร็จ เมื่อไหร่ดวงอาทิตย์จะได้ขึ้นมาสักที เราเสิร์ชหารูปแล้วก็เอามาปรับๆ และไปสักที่ร้าน Tantai tattooer อยู่แถวๆ ราชพฤกษ์”
รัตนวลี นุชแผน
อาชีพ : กราฟิกดีไซเนอร์
“IF NOT NOW, WHEN?” เกิดขึ้นในช่วงหมดไฟกับธีสิสบวกนิสัยผลัดวันของเรา ตัดสินใจแบบไม่คิดอะไรเลย แค่อยากเห็นคำถามนี้ซ้ำๆ อยากด่าตัวเองแต่รู้ว่าด่าไปก็เหมือนเดิม งั้นสักเลยก็แล้วกัน เป็นรอยสักที่เป็นลายมือตัวเอง มันสักถาวรเลยคิดว่าลายมือตัวเองนี่แหละที่จะไม่มีวันเบื่อ เราสักที่หลังมือซ้าย เพราะสักไว้ถามตัวเอง
“ตอนนั้นคิดแค่ว่าตรงไหนตัวเองจะเห็นง่ายสุด แล้วมือก็เป็นส่วนที่เราเห็นตลอด แต่ลืมคิดไปว่าคนอื่นก็เห็นตลอดเหมือนกัน หลังจากคิดได้ก็โทรไปสารภาพกับที่บ้านก่อนเลย ไม่มีที่ซ่อน 555”