พาดหัวแบบนี้เพลงพี่บอย โกสิยพงษ์ ต้องมาแล้วล่ะ เพลงเขาก็บอกไว้ “เมื่อวันที่ชีวิต เดินเข้ามาถึงจุดเปลี่ยน” ก็ “อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน” แต่จะว่าไปก็เป็นเรื่องยากอยู่เหมือนกันที่อยู่ๆ อะไรต่อมิอะไรในชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไปซะจนรับมือไม่ทัน
วิธีพื้นฐานที่หลายๆ คนใช้เมื่อชีวิตเปลี่ยน คือ รับรู้ความรู้สึกของตัวเอง ฉันกลัว ฉันกังวล หรือความรู้สึกอะไรก็ตาม ยอมรับมันให้ได้ก่อน แล้วค่อยเผชิญหน้ากับความรู้สึกเหล่านั้นเพื่อหาทางรับมือในขั้นต่อไป การพูดคุยกับคนที่มีประสบการณ์คล้ายๆ กันก็ช่วยได้ และหลายคนก็ถือโอกาสใช้ความเปลี่ยนแปลงนี่แหละ เปลี่ยนตัวเองไปพร้อมๆ กัน
สุวีณา ฟังธรรมมงคล
อาชีพ : ธุรกิจส่วนตัว
“แบ่งเป็น 2 กรณี แบบที่ 1 กะทันหัน เช่น แมวตาย ของหาย ก็อนุญาตให้ตัวเองได้ช็อกสักพักและตั้งสติก่อน คิดว่าทางแก้มีอยู่แล้วในคนทุกคน มนุษย์เกิดมาพร้อมศักยภาพในการเอาตัวรอดและพัฒนาตนเอง
“แบบที่ 2 ระยะทำใจ เช่น แฟนมีชู้ ย้ายที่อยู่ เปลี่ยนงาน มีเวลาเยอะหน่อยก็ค่อยสังเกตและปรับตัวให้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ได้หรือไม่ค่อยว่ากัน”
พิมพิกา หงสาภิวัฒน์
อาชีพ : นักศึกษา
“ตอนเข้ามหาลัยรู้สึกว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงมากที่สุดสำหรับเราเหตุการณ์หนึ่ง เปลี่ยนทั้งปริมาณงาน วิถีชีวิต และสังคม กว่าเราจะปรับตัวได้เข้าที่ก็ 1-2 ปีเลย แรกๆ อาจจะรับไม่ค่อยได้ รับไม่ค่อยทัน แต่สุดท้ายถ้าใจเรามันเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็จะค่อยๆ ปรับตัวไปเอง เราว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องทำความเข้าใจก่อนอะ”
ชุติมา จันทนุภา
อาชีพ : นักเรียน
“เราย้ายจากเมืองไทยเพื่อมาเรียนภาษาที่อเมริกา ต้องเตรียมตัวทุกอย่าง รับมือทุกด้านเลยค่ะ ทั้งเรื่องวัฒนธรรม ภาษา การกินการอยู่ ต้องปรับทุกอย่าง อะไรที่เป็นไทยเก็บไว้ในใจค่ะ เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม เมื่อสตรองแล้วเราจะอยู่ได้”
ภัสสิริ เพียรสบาย
อาชีพ บรรณารักษ์.
“ความจริงก็ยังรับมือไม่ค่อยได้ สิ่งที่ทำทุกวันนี้คือพยายามเอากิจกรรมเก่าที่ชอบทำ หรือทำเป็นประจำมาเสียบในวิถีชีวิตใหม่ อย่างเมื่อก่อนเดินไปเรียน ก็หาหอพักที่ใกล้ที่ทำงาน เมื่อก่อนทำกับข้าวกินเองก็ไปซื้อกะทะไฟฟ้ามา (แต่ยังไม่ทำเลย555 ) บางครั้งก็ใช้วิธีปรับทุกข์กับเพื่อนเอา แล้วก็พยายามคิดว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มันต้องมีเรื่องดีๆ แน่ๆ จะได้มีกำลังใจ”
จรัลพร พึ่งโพธิ์
อาชีพ : พนักงานบริษัท
“เราเปลี่ยนงานในรอบ 6 ปี ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงใหญ่เสต็ปหนึ่งในชีวิตเลย เปลี่ยนไปทำสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน วิธีรับมือของเราคือ ‘โชว์โง่’ ไปเลย อะไรที่ไม่รู้ก็ขอคำแนะนำ อะไรที่รู้แล้วก็รู้อีก เพราะความรู้ของสังคมใหม่ๆ คนใหม่ๆ ก็เป็นเรื่องใหม่เสมอ อีกอย่างที่เราใช้กับการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ในชีวิตคือ เราคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีมากในการ rebranding ตัวเองใหม่ อยากปรับนิสัยตัวเองตรงไหน หรืออยากเห็นตัวเองเป็นแบบไหน ก็ใช้โอกาสในพื้นที่ใหม่หลังการเปลี่ยนแปลงนี่ล่ะเป็นจุดเริ่ม”
ฉัตรปวีณ์ ประวิชพราหมณ์
อาชีพ : ธุรกิจส่วนตัว / full time แม่
“วิธีรับมือกับการเปลี่ยนเป็น ‘แม่’ ของเราคือต้องทำใจยอมรับบทบาทหน้าที่ใหม่นี้ให้ได้ พูดอาจจะดูง่าย แต่จริงๆ กว่าจะยอมรับได้ก็ปาเข้าไป 3 เดือน ต้องยอมรับว่าปัจจุบันไม่เหมือนเดิมแล้ว ทั้งกิจวัตรประจำวัน งานที่เคยทำ คอยบอกตัวเองว่าชีวิตไม่ใช่ของเราแล้ว เรามีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบอีกชีวิต ต้องทำให้ได้ และต้องทำให้ดีที่สุดด้วย
“สิ่งสำคัญอีกอย่างคือกำลังใจจากคนใกล้ตัว (ซึ่งคนใกล้ตัวอิชั้นนนน ปรับตัวช้าพอๆ กัน 555) อีกอย่างที่ช่วยได้มากคือสังคมออนไลน์นี่แหละ พันทิป กรุ๊ปในเฟซบุ๊กที่เหล่าแม่ๆ มาแชร์ประสบการณ์กัน ทำให้เราทำใจและยอมรับกับสิ่งที่เป็นง่ายขึ้นด้วย สำคัญที่สุดคือการมองหน้าลูก ก็ทำให้มีกำลังใจไปต่อค่ะ”
Wathunyoo Keelawong
“แรกๆ พอรู้ว่าต้องแต่งงานย้ายมาเยอรมนี บอกตรงๆ เลยว่ารู้สึกแปลกๆ ชีวิตเข้าเลขสามเเล้วยังจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกเหรอ? ซึ่งเป็นการเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ต้องทิ้งหน้าที่การงาน ครอบครัว และประเทศ แล้วย้ายมาที่นี่จริงๆ ทุกอย่างนับหนึ่งใหม่หมด ตั้งแต่ภาษา วัฒนธรรม การใช้ชีวิต อาหาร ไปจนอากาศ จะ 7 เดือนแล้วยังไม่ชินเลย แต่ก็พยายามปรับตัว
“ชีวิตมันเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ หน้าที่ของเราคือต้องปรับตัวเองให้เร็ว และทำใจยอมรับสิ่งใหม่ๆ ที่จะเข้ามาไม่ว่ามันจะดีหรือร้าย เราต้องพร้อม การมองโลกในแง่ดีก็ช่วยได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทุกคน ทุกอย่างอยู่ที่การฝึก การปรับตัว และการเปลี่ยนมุมมอง หากชีวิตคือการเดินทางจริงๆ เมื่อมีเริ่มต้นก็ต้องมีจุดหมายปลายทาง ให้เวลากับหนทางและการเปลี่ยนแปลง แล้วมันจะพาเราไปถึงจุดหมายที่ตั้งไว้”
สุภัทริณี ศรประดิษฐ์
อาชีพ : Senior Proofreader at a day magazine
“แม่เราเพิ่งเสีย ทุกวันนี้เวลาอยู่คนเดียวก็นึกถึงแม่ตลอด แต่พยายามจะไม่ฟูมฟาย เราเพิ่งเรียนรู้ที่จะควบคุมความเศร้า ก่อนหน้านี้เวลาร้องไห้ เราจะร้องโฮจนหลับไป แต่อย่างเรื่องนี้เรารู้ว่ามันจะไม่จบลงง่ายๆ แน่ๆ เราเลยต้องหาวิธีอยู่กับมัน อะ น้ำตามาเหรอ โอเค ปล่อยให้มันไหล ไหลให้พอแล้วต้องหาทางลง ใช้ชีวิตต่อ ซักผ้า ล้างจาน กวาดบ้าน คือต้องอยู่กับมันให้ได้ ทำไงได้ ในเมื่อเรายังต้องมีชีวิตอยู่”