ย้อนไปสมัยที่เด็กที่โตมาในยุค 1990 ตอนปลายๆ หลายคนอาจจะอยากได้รับจดหมายเป็นพ่อมดแม่มด หลายคนอาจจะอยากดวลการ์ด และหลายคนก็ยังอินการปล่อยพลังอยู่ แต่เราเชื่อว่ามีเด็กกลุ่มใหญ่ที่อยากจะเป็น ‘เด็กที่ถูกเลือก’ เพื่อที่ได้ไปผจญภัยในโลกดิจิทัลพร้อมกับเหล่าสิ่งมีชีวิตพิสดารที่สามารถวิวัฒนาการร่างได้อย่าง ‘ดิจิมอน’ นั่นเอง
แล้วในปี ค.ศ.2020 นี้ทางประเทศญี่ปุ่นฉลองอายุครบรอบ 20 ปี ให้กับอนิเมะ Digimon Adventure แถมยังมีการประกาศฉายภาพยนตร์ Digimon Adventure Last Evolution ภาพยนตร์ฉลองครบรอบเหตุการณ์สำคัญนี้ในประเทศไทยแล้วด้วย
เพราะฉะนั้นเราจะถือโอกาสนี้ เดินทางข้ามโลกกลับไปดูว่าจุดเริ่มต้นของเฟรนไชส์นี้มีที่มาอย่างไร และจะเดินทางไปไหนในอนาคต
1- ก่อนที่จะมาเป็นการ์ตูนอนิเมะที่หลายคนคุ้นเคย ดิจิมอน เริ่มต้นจากการเป็นของเล่นที่แตกไลน์มาจาก สัตว์เลี้ยงดิจิทัล ‘Tamagotchi’ ที่เป็นกระแสอย่างมากในช่วงปี ค.ศ.1996 แต่ตัวสินค้าโดยหลักแล้ว จะดึงดูดใจเด็กผู้หญิงมากกว่าเด็กผู้ชาย ทำให้ทางทีมผู้พัฒนา Tamagotchi สร้าง Digital Monster ที่นอกจากจะต้องเลี้ยงสัตว์เลี้ยงดิจิทัลให้โตแล้ว ยังฝึกวิชาท่าต่อสู้ได้ด้วย ก่อนที่จะมีการพัฒนาของเล่นดิจิมอนเวอร์ชั่นใหม่ที่สามารถนำเอาสัตว์เลี้ยงดิจิทัลมาต่อสู้กันได้ ซึ่งของเล่น ดิจิมอน ที่มีลักษณะกล่องเหลี่ยมๆ พร้อมหน้าจอขนาดเล็ก ก็ได้วางขายในปี ค.ศ.1997 และได้รับความนิยมไม่แพ้ญาติอย่าง Tamagotchi
2- ถ้าไปตรวจสอบชื่อของผู้พัฒนาของเล่นดิจิมอน จะพบว่า ชื่อของเขาคือ ฮอนโก อาคิโยชิ (Hongo Akiyoshi) ซึ่งความจริงแล้วเป็นนามแฝงที่เกิดขึ้นจากการรวมชื่อของ ไมตะ อากิ (Maita Aki) หนึ่งในผู้สร้าง Tamagotchi, อิซาวะ ฮิโรชิ (Izawa Hiroshi) ผู้วาดมังงะดิจิมอนฉบับแรก, และ ฮอนโก ทาเคอิจิ (Hongo Takeichi) ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ Bandai
3- นอกจากที่ ดิจิมอน จะถือกำเนิดมาจากของเล่นและเป็นญาติของ Tamagotchi แล้ว ดิจิมอน ยังเป็น มังงะ หรือ หนังสือการ์ตูนมาก่อน ซึ่งผู้เขียนก็คือ อิซาวะ ฮิโรชิ ที่กล่าวถึงในข้อก่อนหน้า โดยมังงะตอนแรกสุด ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Akamaru Jump ในปี ค.ศ.1997 โดยที่ตัวการ์ตูนเป็นการแนะนำการเล่นของเล่นดิจิมอนแบบตอนเดียวจบและยังไม่ได้มีพล็อตเรื่องชัดเจนแต่อย่างใด
4- ในเวลาต่อมา อิซาวะ ฮิโรชิ ก็ได้เขียนมังงะดิจิมอนภาคใหม่ในช่วงปี ค.ศ.1998 ที่ใช้ชื่อเรื่องว่า Digimon Adventure V-Tamer 01 เนื้อเรื่องของมังงะภาคนี้ เล่าเรื่องของ ยางามิ ไทจิ เด็กชายที่เล่นเกมดิจิมอนแล้วพบว่าสัตว์เลี้ยงดิจิทัลของเขาเป็นตัวละครใหม่ที่ไม่มีอยู่ในโปรแกรมของเกม ก่อนที่ไทจิจะถูกดึงไปยังโลกดิจิทัล และต้องต่อสู้ร่วมกับดิจิมอน เซโร่มารุ ก่อนที่จะได้พบว่าเขาต้องต่อสู้กับเด็กคนอื่นที่ถูกดึงมายังโลกดิจิทัลและต้องหาทางสยบภัยร้ายเพื่อปกป้องโลกดิจิทัล
5- แม้ว่าพล็อตจะไม่เหมือนกับอนิเมะที่ออกตามมาภายหลัง แต่ก็มังงะเรื่องนี้ก็มีองค์ประกอบหลายอย่างที่คุ้นเคยที่ถูกเก็บไปใช้งานในอนาคต อาทิ ตัวเอกที่มีแว่นตากันลมเป็นอุปกรณ์ติดตัว, อุปกรณ์ ดิจิไวซ์ (Digi Vice) ปรากฏตัวครั้งแรกในมังงะภาคนี้, ลักษณะภายนอกของตัวเอกในมังงะ รวมถึงชื่อ ไทจิ ได้ถูกหยิบยกไปใช้ในอนิเมะ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ ในภายหลัง
6- หลังจากที่ของเล่นและมังงะได้รับความนิยมไปพอสมควรแล้ว จึงมีแผนการที่จะสร้างอนิเมชั่นขนาดสั้นมาเพื่อลองเรียกกระแสตลาด ด้วยการสร้างหนังขนาดสั้นความยาว 20 นาที ตามความนิยมของตลาดญี่ปุ่นในช่วงยุค 1990 ก่อนที่จะมีการปรับแผนงานให้เรื่องในภาพยนตร์สั้นเชื่อมโยงกับอนิเมะโทรทัศน์ที่จะตามมาในภายหลัง และหยิบจับเอาดีไซน์ของไทจิในมังงะ Digimon Adventure V-Tamer 01 มาใช้งานเพื่อให้มีความเกี่ยวข้องกัน
7- ภาพยนตร์สั้นดังกล่าวใช้ชื่อในญี่ปุ่นว่า Digimon Adventure ออกฉายใน วันที่ 6 เดือนมีนาคม ปี ค.ศ.1999 ตัวหนังเล่าเรื่องของ ยางามิ ไทจิ กับ น้องสาว ฮิคาริ ที่จู่ๆ ก็พบกับไข่ที่ออกมาจากคอมพิวเตอร์ และเมื่อพ่อแม่ของเด็กทั้งสองคนออกจากบ้านก็พบว่า ไข่ดังกล่าวได้ฟักออกมาเป็นดิจิมอน และความวุ่นวายก็เกิดขึ้นเมื่อดิจิมอนตัวดังกล่าววิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นดิจิม่อนขนาดยักษ์ที่ออกเดินไปในเมือง ก่อนเข้าปะทะกับดิจิมอนอีกตัวที่ปรากฏตัวขึ้นในท้องฟ้า แล้วทุกอย่างก็หายไป พร้อมกับเด็กอีก 6 คน ที่ออกมามองเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งทำให้ทั้งหมดกลายเป็น ‘เด็กที่ถูกเลือก’
8- ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้มี โฮโซดะ มาโมรุ รับบทเป็นผู้กำกับและวางสตอรี่บอร์ด ก่อนที่เขาจะได้กลายเป็นผู้ควบคุมทิศทางและร่วมกำกับอนิเมะ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ และเป็นผู้กำกับของภาพยนตร์ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ วอร์เกมส์ของพวกเรา ในภายหลัง
9- 7 มีนาคม ปี ค.ศ.1999 อนิเมะซีรีส์โทรทัศน์ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ ก็ได้ออกฉายในญี่ปุ่น บอกเล่าเรื่องราวของ ยางามิ ไทจิ, อิชิดะ ยามาโตะ, ทาเคโนะอุจิ โซระ, อิซึมิ โคจิโร่, ทาคาจิ มีมี่, คิโด โจ, ทาคาอิชิ ทาเครุ ที่ไปเข้าค่ายช่วงฤดูร้อนแล้วถูกดึงไปยังโลกดิจิตอลก่อนจะได้รับอุปกรณ์ดิจิไวซ์ และได้ผูกสัมพันธ์กับเหล่าดิจิมอนคู่หู่ ประกอบไปด้วย อากูมอน, กาบูมอน, ปิโยมอน, เท็นโตมอน, พัลมอน, โกมอมอน, ปาตามอน ก่อนที่จะผจญภัยไปในโลกดิจิทัล การเดินทางทำให้ทั้งเด็กที่ถูกเลือกและดิจิมอนต่างเติบโตมากขึ้น พวกเขาได้รับสัญลักษณ์ประจำตัวและสามารถทำให้ดิจิมอนแปลงร่างเข้มแข็งมากขึ้น ก่อนที่จะมีการเปิดเผยในภายหลังว่า ฮิคาริ น้องสาวของ ไทจิ ก็เป็นเด็กที่ถูกเลือก และมีดิจิมอนประจำตัวเช่นกัน (ผลพวงจากภาพยนตร์สั้น) สุดท้ายทั้งหมดก็รวมพลังกันกำจัดเหล่าร้ายและทำให้โลกจริงกับโลกดิจิทัลสงบสุขอีกคร้ัง
10- อนิเมะดิจิมอนแอดเวนเจอร์ ประสบความสำเร็จในบ้านเกิดเป็นอย่างดี และทำให้ของเล่นในแฟรนไชส์ดิจิมอนมีความมั่นคง ก่อนจะมีการขยายการพัฒนาสินค้ากลุ่มอื่นๆ อาทิ เกม, ไลท์โนเวล, เพลง ฯลฯ และกลายเป็นสินค้าที่ยังคงทำตลาดยาวนานจนถึงปัจจุบัน
11- ความสำเร็จทีเกิดขึ้นในญี่ปุ่นของดิจิมอนแอดเวนเจอร์ ทำให้ทางประเทศอื่นๆ ต่างสนใจอนิเมะเรื่องนี้ ยกตัวอย่างเช่น อเมริกาที่นำเอาตัวอนิเมะไปฉายหลังจากออกอากาศในญี่ปุ่นเพียง 6 เดือน ซึ่งถือว่าเร็วกว่ามาตรฐานในยุคเดียวกันหลายเท่า แม้ว่าการทำตลาดนั้นอาจจะเป็นความต้องการในการเกาะกระแสฝั่ง Pokemon ที่กำลังฮิต แต่ด้วยความลึกของมิติตัวละครต่างๆ ในดิจิมอนแอดเวนเจอร์ ทำให้อนิเมะกลายเป็นจุดแตกต่างและกลายเป็นความทรงจำของเด็กปลายยุค 1990 เช่นกัน
12 – กระนั้น การฉายอนิเมะดิจิมอนแอดเวนเจอร์ในอเมริกาก็มีความแตกต่างจากญี่ปุ่น ที่ชัดเจนก็คือการเปลี่ยนชื่อตัวละครหลัก, ดิจิมอนหลายตัว, กับการปรับเนื้อหาบางส่วนให้ง่ายต่อความเข้าใจของเด็กที่พูดภาษาอังกฤษ และมีการตัดต่อบางฉากเพื่อให้ไม่เกินการจัดเรตติ้งของอเมริกา นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนแต่เราจะขอเก็บไว้พูดถึงในภายหลัง
13 – ดิจิมอนแอดเวนเจอร์เข้าฉายในสื่อหลักของประเทศไทยในช่วงปี ค.ศ.2001 ผ่านทางช่วงรายการ ‘ช่อง 9 การ์ตูน’ และได้รับการตอบรับจากเด็กๆ ชาวไทยไม่แพ้ในประเทศอื่น
14 – ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ภาคแรก ยังถูกสร้างเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งภาคนั่นก็คือ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ : วอร์เกมส์ของพวกเรา เรื่องราวของภาพยนตร์ภาคนี้เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนหลังจากเนื้อเรื่องของภาคแรกราวหนึ่งปี ได้มีไวรัสคอมพิวเตอร์แพร่กระจายในอินเตอร์เน็ตและพัฒนากลายเป็น เดียโบโรมอน (Diaboromon) ที่ทำให้ระบบเน็ตเวิร์กทั่วโลกมีปัญหา ในทางกลับกันเหตุการณ์นี้ทำให้เหล่าดิจิมอนสามารถติดต่อเด็กที่ถูกเลือกผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ตได้ แม้ว่าจะหาตัวต้นเหตุเจอแล้ว ช่วงเวลาปิดเทอมที่ทำให้เด็กที่ถูกเลือกต้องอาศัยอยู่กันคนละพื้นที่ ไม่สามารถรับมือกับปัญหาได้อย่างที่ควร มิหนำซ้ำยังทำให้ระบบการยิงนิวเคลียร์ในอเมริกาทำงานขึ้นอย่างอัตโนมัติ และจะทำการยิงจรวดมายังญี่ปุ่นในเวลาราว 10 นาที ในจังหวะที่ความวุ่นวายเกิดขึ้นนั้นเองเด็กที่ถูกเลือกจากทั่วโลกก็ร่วมมือกับพวกไทจิ และสามารถจัดการดิจิมอนตัวร้ายได้สำเร็จ
15 – สำหรับท่านที่คุ้นเคยกับผลงานของ โฮโซดะ มาโมรุ อาจจะรู้สึกว่าพล็อตเรื่องนี้คุ้นตาอย่างยิ่ง เพราะตัวผู้กำกับเคยให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่า ภาพยนตร์ดิจิมอนเรื่องนี้ กลายเป็นแนวคิดพื้นฐานให้กับภาพยนตร์อนิเมะ Summer Wars ที่ออกฉายในปี ค.ศ.2009 นั่นเอง
16 – และเหมือนกับภาพยนตร์ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ ภาคแรกสุด ภาพยนตร์ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ : วอร์เกมส์ของพวกเรา ก็เป็นการเปิดม่านให้กับอนิเมะเรื่องใหม่ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ 02
17 – ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ 02 ออกฉายในบ้านเกิดช่วงเดือนเมษายน ปี ค.ศ.2000 หลังจากภาพยนตร์ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ : วอร์เกมส์ของพวกเรา เข้าฉายเป็นเวลาหนึ่งเดือน เรื่องราวของภาค 02 เป็นเหตุการณ์หลังภาคแรกสามปี ได้เกิดเหตุวุ่นวายในโลกดิจิทัลอีกครั้ง เมื่อดิจิมอนไคเซอร์ออกอาละวาดในโลกดิจิทัล หมายจะนำเอาเหล่าดิจิมอนมาเป็นทาสรับใช้ ทำให้ต้องมีการตามหา เด็กผู้ถูกเลือก ชุดใหม่เพื่อรับมือภัยนี้ ซึ่งเด็กกลุ่มใหม่นี้ประกอบไปด้วย โมโตมิยะ ไดสุเกะ, อิโนอุเอะ มิยาโกะ, ฮิดะ อิโอริ, และ ทาคาอิชิ ทาเครุ กับ ยางามิ โซระ จากภาคแรกที่มีประสบการณ์ในการผจญภัยกับเหล่าดิจิมอนมาก่อนแล้ว คราวนี้เด็กๆ ใช้ดิจิไวซ์รุ่นใหม่ ดีทรี (D-3) ในการเดินทางเข้าสู่โลกดิจิทัลและพัฒนาเหล่าดิจิมอน ทั้งห้าคนสามารถเอาชนะดิจิมอนไคเซอร์ ที่เปิดเผยว่าจริงๆ แล้วคือ อิจิโชจิ เคน ที่มีปมในใจและภายหลังได้กลายเป็นเด็กที่ถูกเลือกอีกคนก่อนจะออกเดินทางไปกำจัดต้นตอของปัญหาทั้งหมดให้เรียบร้อย
18 – ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ 02 ถือว่าเป็นภาคต่อโดยตรงจากภาคแรก ตัวละครในภาคแรกเองก็มีบทรับเชิญระดับหนึ่ง อย่างเช่น ไทจิ ที่ออกมาปรากฏตัวเพื่อส่งต่อแว่นตากันลมให้กับ ไดสุเกะ รวมถึง ทาเครุ กับ โซระ ที่ภาคแรกเป็นเด็กเล็กในภาคนี้ก็เป็นโตขึ้นจนมีบทเด่นของตัวเองชัดเจน
19 – ความนิยมของดิจิมอนแอดเวนเจอร์ 02 ถือว่าไม่น้อยหน้าจากภาคแรก ไม่ว่าจะในญี่ปุ่นหรือประเทศอื่นๆ โดยในประเทศไทย ก็มีทาง ช่อง 9 การ์ตูน นำเอาภาคต่อเข้ามาฉายในปี ค.ศ.2002 และเราเชื่อว่าหลายคนที่ทันดูกันในยุคนั้นต้องอยากได้ D-3 มาเป็นของเล่นประจำตัวอยู่
20 – ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ 02 ยังมีภาพยนตร์ออกมาให้ติดตามกันสองภาค ประกอบไปด้วย ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ 02 พายุสลาตันกับดิจิเมนทอลแห่งปฏิหารย์ ออกฉายในบ้านเกิดช่วงปี ค.ศ.2000 และ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ 02 การแก้แค้นของเดียโบโรมอน ออกฉายในช่วงปี ค.ศ.2001 โดยภาพยนตร์เรื่องแรกนั้นเหมือนเป็นเนื้อเรื่องพิเศษ ส่วนเรื่องหลังต่อยอดมาจากเนื้อหาของภาคซีรีส์และมีการเชื่อมโยงถึงภาคอื่นต่อไป
21 – ทั้งนี้ภาพยนตร์ของ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ สองภาคแรกจะมีความชวนสับสนเล็กน้อยเนื่องจากในประเทศที่ไม่ได้จัดฉายตามญี่ปุ่น จะมีการสลับเนื้อหาจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ง่าย อาทิในอเมริกา มีการจับเอาภาพยนตร์ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ ที่ฉายในปี ค.ศ.1999 มามัดเรื่องรวมกับ ภาพยนตร์ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ : วอร์เกมส์ของพวกเรา และ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ 02 พายุสลาตันกับดิจิเมนทอลแห่งปฏิหารย์ หรือในหลายท้องที่ตีความว่า ภาพยนตร์ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ ที่ฉายในปี ค.ศ.1999 เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาคหลัก เป็นอาทิ
22 – หลังจากจัดทำดิจิมอนแอดเวนเจอร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกันสองภาค หลังจากนี้อนิเมะดิจิมอนยังคงฉายต่อเนื่อง แต่เนื้อเรื่องจะปรับเปลี่ยนทิศทางการเล่าเรื่องไปทุกภาคไม่ได้มีเนื้อหาต่อเนื่องกัน
ดิจิมอนเทมเมอร์ส ออกฉายครั้งแรกในปี ค.ศ.2001 ที่เล่าเรื่องของ มาสุดะ ทาคาโตะ ที่ชอบเล่นการ์ดเกมดิจิมอน ก่อนจะพบว่าเขาถูกเลือกให้เป็น ‘เทมเมอร์’ สามารถใช้การ์ดของเขากับอุปกรณ์ ดีอาร์ค (D-Ark) เพื่อเรียกดิจิมอนให้ออกมาต่อสู้
ดิจิมอนฟรอนเทียร์ ออกฉายครั้งแรกในปี 2002 เล่าเรื่องของเด็กกลุ่มหนึ่งที่ถูกดึงมายังโลกดิจิตอลและสามารถใช้พลังจากดิจิมอนที่เป็น นักรบในตำนาน โดยที่พวกเขาสามารถแปลงร่างเป็นดิจิมอนได้ และต้องเดินทางไปในโลกที่รกร้างเพื่อคืนความสงบสุขให้กลับมาอีกครั้ง
ดิจิมอนเซฟเวอร์ส ออกฉายครั้งแรกในปี ค.ศ.2006 เล่าเรื่องของ ไดมง มาซารุ เด็กหนุ่มนักสู้ได้กลายมาเป็นสมาชิกของ DATS หน่วยงานที่รักษาความสงบสุขระหว่างโลกจริงกับโลกดิจิตอล และมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ประหลาดที่ทำให้เกิดภัยระหว่างโลกทั้งสองใบมากกว่าที่คิด เป็นดิจิมอนภาคแรกที่ปรับดีไซน์ให้ฉีกจากผลงานก่อนหน้านี้
ดิจิมอนครอสวอร์ส ออกฉายครั้งแรกในปี ค.ศ.2010 กลับมาใช้ดีไซน์ใกล้เคียงเดิม โดยเล่าเรื่องของเด็กกลุ่มใหม่ที่ถูกพาเข้าไปในโลกดิจิทัลและไปร่วมก่อตั้งกองทัพร่วมกับเหล่าดิจิมอนเพื่อต่อสู้กับภัยร้าย ดิจิมอนครอสวอร์ส ปรับเปลี่ยนการฉายเป็นซีซั่นย่อยๆ จำนวนสามซีซั่น โดยในซีซั่นสุดท้ายที่ออกฉายในปี ค.ศ.2012 ได้นำเอาตัวละครเอกของอนิเมะดิจิมอนภาคก่อนหน้ามามีบทรับเชิญเนื่องในโอกาสครบรอบ 15 ปีของอนิเมะดิจิมอนด้วย
ดิจิมอนยูนิเวิร์ส แอปพลิมอนสเตอร์ส ออกฉายครั้งแรกในปี ค.ศ.2016 เล่าเรื่องในปี ค.ศ.2014 ที่แอพพลิเคชั่นได้พัฒนาจนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตดิจิทัลที่ถูกเรียกว่า แอพมอน และต้องต่อกรกับตัวร้ายที่เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ซ่อนตัวอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต
ซึ่งทุกภาคได้เข้าฉายในประเทศไทยผ่านทางช่อง 9 อสมท. / MCOT ในช่วง ช่อง 9 การ์ตูน/โมเดิร์นไนท์การ์ตูน นอกจานั้นยังมีการฉายภาพยนตร์ดิจิมอนในระหว่างการฉายซีรีส์ทางโทรทัศน์ซึ่งมีภาคที่โดนเด่นก็คือ Digital Monster X-Evolution ที่เป็นภาพยนตร์ 3DCG เรื่องแรกของอนิเมะดิจิมอน
23 – ได้มีการการกลับมาสร้างเนื้อหาของ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ โดยใช้ชื่อภาคว่า Digimon Adventure tri. ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องราวหลังจากภาค ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ 02 ราวสามปี
24 – เพื่อให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลง ตัวละครในภาค Digimon Adventure tri. จึงมีการปรับมาใช้ดีไซน์ที่ อุคิ อัทสึยะ (Uki Atsuya) เป็นคนออกแบบแทน ซึ่งมีความเห็นปนเปกันทั้งในมุมมองว่าเป็นการแสดงความเปลี่ยนแปลงที่ดี และมุมที่มองว่าแตกต่างจากภาคต้นฉบับมากเกินไป
25 – Digimon Adventure tri. ถูกสร้างและจัดฉายเป็นเป็นภาพยนตร์ทั้งหมด 6 ภาค ออกฉายในปี ค.ศ.2015 จนถึง ปี ค.ศ.2018 โดยใช้ชื่อภาคดังนี้ การรวมตัว (Saikai), การตัดสินใจ (Ketsui), คำสารภาพ (Kokuhaku), ความสูญเสีย (Soshitsu), การอยู่ร่วมกัน (Kyosei), และ อนาคตของพวกเรา (Bokura No Mirai)
26 – เนื้อหาโดยรวมของภาพยนตร์ทั้งหกภาค เล่าเรื่องการกลับมาพบกันเด็กที่ถูกเลือก และได้พบกับเด็กผู้ถูกเลือกคนใหม่ที่มาพร้อมกับดิจิมอนคนใหม่ รวมถึงดิจิมอนตัวใหม่ กับปัญหาการอาละวาดจากตัวร้ายกลุ่มใหม่ และปัญหาส่วนตัวของเหล่าเด็กผู้ถูกเลือกในวันที่พวกเขาเป็นวัยรุ่น ปมปัญหาภายในใจจะส่งผลต่อการมองโลกและสายสัมพันธ์กับดิจิมอนอย่างไร ในภาพยนตร์ชุดนี้ยังนำเอาตัวละครจากดิจิมอนแอดเวนเจอร์สองภาคแรกมาเจอกันอีกครั้ง
27 – เรื่องราวของ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ ยังไม่สิ้นสุดลงแค่นั้นเพราะมีการประกาศแบบสั้นๆ ในช่วงปลายปี ค.ศ.2018 ว่าจะมีการสร้างภาพยนตร์ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ จากนั้นข่าวก็เงียบหายไปจนถึงช่วงเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ.2019 ที่มีการยืนยันว่าจะใช้ชื่อภาคว่า Digimon Adventure : Last Evolution และเป็นหนึ่งในโครงการฉลองครบรอบ 20 ปี ของอนิเมะดิจิมอน
28 – Digimon Adventure: Last Evolution ปล่อยตัวอย่างขนาดสั้นออกมาทำตลาดเป็นระยะๆ โดยมีการยืนยันว่าทีมพากย์เสียงญี่ปุ่นนั้นตัวละครเด็กที่ถูกเลือกจะเป็นชุดเดียวกับทีมพากย์ Digimon Adventure tri. ส่วนเหล่า ดิจิมอนคู่หู ยังคงใช้บริการของนักพากย์ท่านเดิมที่เคยพากย์ดิจิมอนแต่ละตัว ก่อนจะมีการประกาศว่าภาพยนตร์จะออกฉายในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ.2020 ในญี่ปุ่น
29 – ในประเทศไทย ทาง Facebook Fanpage ของ Cartoon Club ได้ทำการอัพเดทเมื่อวันที่ 30 มกราคม ปี ค.ศ.2020 ว่าจะมีการฉายดิจิมอนแอดเวนเจอร์เร็วๆ นี้ ก่อนจะมีการแจ้งเพิ่มในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ.2020 ว่าภาพยนตร์ Digimon Adventure: Last Evolution จะได้เข้าฉายในประเทศไทย
30 – หลังจากนั้นไม่นานทาง Cartoon Club ก็ได้แจ้งว่าภาพยนตร์จะใช้เพลง ‘ปีกรัก’ มาใช้ในการโปรโมทภาพยนตร์ ซึ่งเพลงดังกล่าวนั้นเป็นการใส่เนื้อภาษาไทย ให้กับเพลง Butter-Fly เพลงเปิดของอนิเมะชุดแรกที่ขับร้องโดย วาดะ โคจิ (Wada Koji) ผู้ล่วงลับ ที่คนชอบการ์ตูนเมืองไทยคุ้นเคยกันดี
31 – วาดะ โคจิ เป็นนักร้องเพลงแนวป๊อปร็อคที่มีฉายาว่า ‘นักร้องเพลงอนิซองผีเสื้ออมตะ’ และร้องเพลงให้กับอนิเมะดิจิมอนหลายเพลง อาทิ เพลง Butter-Fly, Seven, The Biggest Dreamer ฯลฯ และเคยเดินทางมาแสดงเพลงเด่นของเขาที่ประเทศไทยเมื่อปี ค.ศ.2014 นักร้องท่านนี้เสียชีวิตในปี ค.ศ.2016 เนื่องจากอาการป่วยที่เกี่ยวข้องจากโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก
32 – วกมาพูดถึงเรื่องเพลงกันเล็กน้อย ในช่วงที่ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ ฉายในประเทศไทย ได้มีการนำเอาเพลงอนิเมะมาใส่เนื้อร้องเป็นภาษาไทยและใช้แสดงประกอบในช่วง ‘เพลงฮิตการ์ตูนเก้า’ เพลงหนึ่งที่ได้รับความนิยมก็คือเพลง ‘ปีกรัก’ ซึ่งเป็นการนำเอาทำนองเพลง Butter-Fly มาใส่เนื้อไทยที่หลายจดจำได้ในหัว โดยเฉพาะท่อนสร้อยที่ร้อง ‘ปีกกางเหินไปไม่มีวันแผ่วปลาย’ และท่อน ‘โอ้ มาย เลิฟฟฟฟฟฟฟ’ ที่หลายคนยังเผลอตะโกนตามหากมีคนเอาเพลงนี้มาเล่นโชว์
33 – อีกเพลงหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับดิจิมอน และมาจากจากช่วงเพลงฮิตการ์ตูนเก้า ก็คือเพลง ‘ออกอาวุธ’ กับท่อนสร้อยที่ชวนจำฝังหัวแบบ ‘ออกอาวุธ ออกอาวุธ ทีพัฒนามาเป็นชุด’ ตัวเพลงเป็นการนำเอาเพลง Break Up! ที่ขับร้องโดย มิยาซากิ อายูมิ (Miyazaki Ayumi) นักร้องชายอีกท่านหนึ่งที่ร้องเพลงให้อนิเมะดิจิมอนอยู่หลายครั้ง
34 – สำหรับเพลงเวอร์ชั่นไทยนั้น เป็นหน้าที่ของ พี่นัท-น้องนพ ซึ่งจริงๆ แล้วก็คือ ธนัท ตันอนุชิตติกุล กับ ธนพ ตันอนุชิตติกุล ซึ่งท่านหลังนั้น ปัจจุบันนี้เป็นผู้บริหารของทาง Cartoon Club
35 – ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศเดียวที่เปลี่ยนแปลงเพลงที่ใช้ในการฉายอนิเมชั่นเท่านั้น อย่างที่เราบอกไว้ในข้อที่ 12 ว่าในอเมริกาก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน แต่ในอเมริกาไม่ได้เป็นการเปลี่ยนเนื้อเพลงเท่านั้น เพราะพวกเขาเปลี่ยนเพลงเปิดไปเลย ตัวเพลงกลายเป็นเพลงเทคโนป๊อป และใช้ในการฉายอนิเมชั่น ดิจิมอนแอดเวนเจอร์, ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ 02 และ ดิจิมอนเทมเมอร์ส ตัวเพลงถูกเรียกว่า Digimon Theme แต่หลายคนจะจำได้ว่าเป็น Digimon Are The Champions! เพราะเป็นท่อนสร้อยหลอนหูนั่นเอง
37 – ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ ไม่ได้มีแค่เพลงป๊อปมาใช้ประกอบในเรื่องเท่านั้น เพราะมีการใช้เพลงคลาสสิคอย่างเพลง Boléro ของ Maurice Ravel ศิลปินชาวฝรั่งเศส มาเรียบเรียงใหม่และใช้ประกอบในเรื่อง ซึ่งในตัวอย่างของภาพยนตร์ Digimon Adventure: Last Evolution ตัวหนึ่งด้วย
38 – ทั้งนี้ ถึงตัวภาพยนตร์ Digimon Adventure: Last Evolution จะเหมือนเป็นปลายทางการเดินทางของ ไทจิ กับ อากูมอน แต่เหมือนการผจญภัยยังไม่จบโดยสมบูรณ์ เพราะมีการประกาศในช่วงเดือนมกราคมปี ค.ศ.2020 ว่า จะมีการฉายอนิเมชั่นชุดใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Digimon Adventure: (ใช่ครับ ดิจิมอนมอนสเตอร์ แล้วเครื่องหมาย โคล่อน)
39 – ข้อมูลโดยคร่าวระบุว่าอนิเมะ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ ภาคใหม่ จะเป็นเรื่องราวของพวกไทจิ ที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ.2020 แทน ดังนั้นจึงน่าจะเป็นการรีบูทแบบซอฟท์ๆ เพื่อส่งต่อเรื่องราวของ ‘เด็กที่ถูกเลือก’ ให้กับผู้ชมยุคใหม่
40 – และเราเชื่อว่าผู้ชมจะยังคงเป็น เด็กที่ถูกเลือก ผู้รักและชื่นชอบ ดิจิมอน ต่อไป แม้ว่าโลกดิจิทัลทั้งในความเป็นจริงและในการ์ตูนจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาก็ตาม
อ้างอิงข้อมูลจาก
Youtube Channel: Jawiin – History of Digimon: Geek History Lesson