โลกนี้ไม่เคยง่าย และบ่อยครั้งที่โชคชะตาเหมือนตั้งใจเล่นงานเราอยู่เสมอๆ เพื่อให้เจอกับสิ่งที่ต้องทำให้เจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
อาร์ย่า สตาร์ค หนึ่งในตัวละครสำคัญของ Game of Thrones น่าจะเข้าใจสิ่งนี้ได้เป็นอย่างดี
ชื่อของอาร์ย่าถูกพูดถึงกันเป็นอย่างมาก ในหลายชั่วโมงที่ผ่านมานับตั้งแต่ Game of Thrones ตอนล่าสุดฉายจบลง จากฉากสำคัญที่ทำให้เราเห็นถึงจุดเปลี่ยนและพัฒนาการของหญิงสาวในวัย 18 ปีคนนี้ได้มากยิ่งขึ้น
ตลอด 18 ปีที่ใช้ชีวิตอยู่ในเวสเทอรอส เธอต้องพบเจอกับประสบการณ์แบบไหนบ้าง เรื่องราวแบบไหนที่หล่อหลอมให้น้องสาวแห่งตระกูลสตาร์คคนนี้ กลายเป็นคนที่แข็งแกร่งได้อย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน?
(เนื้อหาด้านล่างนี้จะเต็มไปด้วยสปอยล์อันมากมายนะ)
ความสูญเสียครอบครัวที่ปรากฎขึ้นต่อหน้า
จุดเปลี่ยนแรกๆ ที่สำคัญเป็นอย่างมากต่อชีวิตของอาร์ยา คือการยืนอยู่หน้าลานประหาร และสัมผัสบรรยากาศในวินาทีที่พ่อของเธอ (เน็ด สตาร์ก) ถูกประหารโดยการตัดหัว
แม้ว่ายอร์รินจะเข้ามาปิดตาเธอไว้เพื่อไม่ให้มองเห็นวินาทีอันโหดร้าย แต่อาร์ย่าก็รับรู้ได้ว่า นี่คือช่วงเวลาที่แสนเจ็บปวดมากที่สุด
หลังจากนั้นเส้นทางชีวิตของอาร์ย่าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
หลังจากที่เน็ดถูกประหารแล้ว อาร์ย่าต้องปลอมตัวเป็นเด็กผู้ชายและหนีออกไปนอกเมือง เพื่อเอาตัวรอดจากศัตรูที่อาจจะตามล่าเธอ และต้องมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก
ในเวลาต่อมา เธอได้พบกับผู้คนมากมาย ทั้งที่เข้ามาด้วยความหวังดี และผู้ที่ต้องการช่วยเหลือจากใจจริง แม้ว่าเส้นทางหลังจากนั้นเกือบจะได้เจอกับครอบครัวอีกครั้ง แต่เหตุการณ์ ‘Red Wedding’ ที่เกิดขึ้นในปราสาทของตระกูลเฟรย์ กับทำให้อาร์ยาต้องเผชิญหน้ากับความสูญเสียครอบครัวครั้งใหญ่อีกรอบ คราวนี้ตระกูลเฟรย์ได้และโบลตันได้จับมือกันฆ่าเหล่าผู้นำของตระกูลสตาร์ค เหตุการณ์นี้อาร์ย่าต้องสูญเสียทั้ง แม่และพี่ชาย
ทั้งที่อยู่กันแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น แต่อาร์ย่ากลับไม่สามารถเจอหน้าครอบครัว แถมยังต้องพบกับความเจ็บปวดอย่างสาหัส เพราะความโหดร้ายที่เกิดขึ้นจากผลประโยชน์ทางการเมือง
จากท่านหญิงสู่ no one
หลังจากพบเจอความสูญเสียที่กลายเป็นบาดแผลทางจิตใจ รวมถึงความคับแค้นคนที่ทำร้ายครอบครัว ชีวิตของอาร์ย่าหลังจากนั้นได้เดินเข้าสู่โลกที่ลึกลับและเป็นไปด้วยปริศนาดำมืด เธอต้องการล้างแค้น ก่อนที่จะตัดสินใจละทิ้งตัวตน สู่การเป็น no one เพื่อเข้าไปฝึกฝนวิชาลอบสังหารกับ จาเคน ฮาการ์
จาเคน ฮาการ์ ฝึกฝนให้อาร์ย่ากลายเป็น no one หรือเป็นนักฆ่าที่สมบูรณ์แบบ หากแต่เงื่อนไขสำคัญคือ ในระหว่างนั้นอาร์ย่าต้องเผชิญช่วงเวลาที่สูญเสียดวงตา หรือพูดอีกแบบคือเป็นเด็กสาวที่ตาบอดเสียก่อน
อย่างไรก็ดี อาร์ย่าฝึกวิชาได้สำเร็จ และได้รับดวงตาทั้งสองคืนกลับมา พร้อมกับทักษะการเป็นนักฆ่าที่เธอต้องการ
เธอพร้อมแล้วสำหรับการล้างแค้นและเป้าหมายแรกๆ ที่เธอหมายหัวเอาไว้คือตระกูลเฟรย์
“ถ้าใครถามว่าเกิดอะไรขึ้น ให้ตอบว่าชาวเหนือจดจำได้” อาร์ย่า พูดประโยคนี้ไว้หลังจากเธอสังหารวัลเดอร์ เฟรย์ เพื่อล้างแค้นให้กับครอบครัวได้สำเร็จ แต่มันยังเป็นแค่ก้าวแรกเท่านั้น เพราะยังมีรายชื่อของผู้คนอีกมาย ที่อาร์ย่าตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะต้องปลิดชีพให้ได้ (แน่นอนว่า หนึ่งในนั้นคือ เซอร์ซี่ แลนนิสเตอร์ คนที่อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายมากมาย ที่เกิดขึ้นกับตระกูลสตาร์ค)
อาร์ย่า สตาร์ค ในวันนี้จึงมีชีวิตอยู่ได้โดยมีความแค้นเป็นแรงผลักดัน เพื่อมอบความยุติธรรมให้กับคนที่กระทำต่อครอบครัวของเธอ เราจึงเห็นได้ว่าสิ่งที่โหดร้ายซึ่งเกิดขึ้นในเวสเทอรอส ได้หล่อหลอมให้เด็กสาวคนหนึ่งได้เปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
เติบโตเป็นผู้ใหญ่โดยใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง
อย่างที่รู้กันว่า อาร์ย่าเกิดมาในตระกูลสตาร์ค และมีเกียรติยศชั้นสูงที่ผู้คนในเมืองเหนือพร้อมภักดี แต่ถึงอย่างนั้น จากประสบการณ์ที่เธอต้องเจอมามากมาย จากการเกือบถูกฆ่า กลายมาเป็นนักฆ่า จากท่านหญิงเป็นบุคคลนิรนาม จนมาถึงวันที่เธอกลับมาเคียงข้างพี่สาวอย่างซานซ่า ที่วินเทอร์เฟลอีกครั้ง เราได้เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องของหญิงสาวคนนี้ ที่ขอเลือกเส้นทางชีวิตในแบบของตัวเอง
เหตุการณ์สำคัญ เช่น การละทิ้งการผจญภัยคู่กับ The Hound ผู้แข็งแกร่ง แล้วกลับมาพึ่งพาตัวเองก็เป็นหนึ่งในบทพิสูจน์ได้ว่า อาร์ย่าเติบโตมากขึ้นแค่ไหน
บาดแผลที่เธอเคยเจอมามากมาย ได้กลายเป็นทั้งภูมิคุ้มกัน และประสบการณ์อันมีค่า ที่ทำให้เธอเข้าใจโลกแห่งความโหดร้ายในเวสเทอรอสว่าหน้าตาของมันเป็นอย่างไร และจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อไปในความโหดร้ายเช่นนี้
อ้างอิงจาก