เห็นใครๆ พากันจัดอันดับนู่นนี่นั่นแห่งปี 2016 เราก็เลยอยากจัดบ้าง มานั่งคิดดูแล้วปีที่ผ่านมาเราลองกินเบียร์และไซเดอร์ใหม่ๆ เยอะมาก ถ้าอย่างนั้นก็จัดอันดับสองสิ่งนี่แหละ! แม้จะเป็นลิสต์ที่ดีเลย์ไปซักหน่อย เพราะนี่มันวันที่ 1 มกราแล้ว (Happy New Year!) แต่เราเชื่อว่าสายดื่มยังเฉลิมฉลองกันไม่เสร็จหรอก ว่าแล้วก็มาฉลองต่อด้วยกันเลย! แล้วโตๆ กันแล้วก็ drink don’t drive เนอะ!
*ออกตัวไว้ก่อนว่าเราไม่ใช่สายแข็ง แต่เป็นชะนีน้อยที่แฮปปี้กับแอลกอฮอล์รสหวาน ชอบกินไซเดอร์มากกว่าเบียร์ ดังนั้นถ้าใครเป็นสายแข็งอาจจะไม่ชอบลิสต์นี้ แต่ถ้าใครชอบกินไซเดอร์เหมือนกันก็น่าจะจอยนะ
*บทความนี้ไม่ได้รับสปอนเซอร์ใดๆ เราซื้อกินเองทั้งหมด แต่ถ้า PR แบรนด์ไหนผ่านมาเห็นแล้วอยากส่งมาให้กินฟรีสักลังสองลังก็ไม่ปฏิเสธนาจา
อันดับ 7
Aspall Perronelle’s Blush – suffolk cyder with a dash of blackberry juice
ถ้าใครชอบไซเดอร์รสเปรี้ยวน่าจะชอบ Aspall Perronelle’s Blush เพราะรสเปรี้ยวของแอปเปิ้ลและแบล็กเบอร์รี่นำมาก่อนแล้วค่อยตามด้วยรสหวานหน่อยๆ สดชื่น ดื่มง่าย ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูงถ้าเทียบกับขวดอื่นๆ ในลิสต์
Alc. 4% Vol / 500 ml. / 215 บาท / ซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
อันดับ 6
Cheers Selection Riceberry
เห็นชื่อแบรนด์ไทยแบบนี้อย่าเพิ่งเบือนหน้าหนี เพราะเบียร์ลาเกอร์น้องใหม่จาก Cheers ตัวนี้พรีเมียมจริง กลิ่นข้าวไรซ์เบอร์รี่ละมุนมาก ได้รสมอลต์และทิ้งรสหวานติดปลายลิ้น ความดีงามคือราคาเป็นมิตร กรึ่มได้แบบกระเป๋าตังค์ไม่ฉีก
Alc. 5% Vol. / 320 ml. / 37 บาท / ซื้อได้ตาม 7/11 และซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
อันดับ 5
Ark – Some & Some
สารภาพตรงๆ ว่าตอนแรกเราเลือกซื้อบราวน์เอลจากแบรนด์คราฟต์เบียร์สัญชาติเกาหลีตัวนี้มาเพราะฉลากดูน่ารักสดใส แต่พอกินก็พบว่ามันดีงามมาก ด้วยส่วนผสมของเมล็ดโกโก้ทำให้มันหอมสุดๆ สำหรับเรากลิ่นมันก็เหมือนช็อกโกแลตนั่นแหละ แต่บางคนก็จะบอกว่ากลิ่นเหมือนขนมปัง รสหนักแน่น อมหวานนิดๆ
Alc. 4.5% Vol. / 330 ml. / 169 บาท / ซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
อันดับ 4
Happy Monster – Strawberry Sundae
ไซเดอร์ตัวนี้ติดอันดับมาได้เพราะชะนีน้อยรอบตัวเราชอบกันมาก คือมันกินง่ายสุดๆ หอมและหวานเหมือนกินน้ำอัดลมรสเยลลี่สตรอเบอร์รี่ ดังนั้นเวลากินต้องมีสติมากๆ ไม่งั้นจะกระดกเอาๆ แล้วเมาไม่รู้ตัว
Alc. 4% Vol. / 500 ml. / 190 บาท / ซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป หรือถ้าอยากนั่งชิลนอกบ้านก็ไปที่ Wish Beer Home Bar เลย แต่น่าจะมีอีกหลายร้านแหละ ลองถามหากันดูได้
อันดับ 3
Chalawan Pale Ale
เราได้ลองเบียร์รางวัลเหรียญทองจากเวที World Beer Awards 2016 ครั้งแรกที่ภูเก็ตบ้านเกิดของมัน (เชื่อว่าบาร์ของทุกโรงแรมในภูเก็ตมีชัวร์) แล้วก็ติดใจจนต้องตามหากินอีกในกรุงเทพฯ เอกลักษณ์ของชาละวันเพลเอลอยู่ที่กลิ่นลิ้นจี่ที่หอมมากๆ ส่วนรสชาติจะออกขมนิดๆ หวานหน่อยๆ เปรี้ยวเบาๆ กินง่ายมาก
Alc. 4.7% Vol. / 330 ml. / 129 บาท (ยังไม่รวมภาษี) ซื้อออนไลน์ที่ wishbeer.com / ในกรุงเทพฯ มีหลายร้านอาหารและบาร์ที่มี เช่น Where Do We Go, Bo.Lan, Err
อันดับ 2
Brothers Cider – Toffee Apple
เอาจริงก็ไม่ได้เพิ่งจะมากินในปี 2016 หรอก แต่เวลานึกไม่ออกว่าจะกินอะไรก็จะกลับมาหา Toffee Apple ทุกที เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากในทุกสถานการณ์ (เวอร์อะไรเบอร์นี้) ไซเดอร์ตัวนี้หอมกลิ่นคาราเมลมาก สาวๆ น่าจะจอย แต่ถ้าไม่นิยมหวานแนะนำให้ข้ามจ้า
Alc. 4% Vol. / 500 ml. / 190 บาท / ซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป และหาได้ง่ายมากตามร้านอาหารและบาร์เบียร์ แต่ถ้าอยากลิ้มรสชาติแบบสดจากแท็ปต้องไป Taproom
อันดับ 1
Harry Brompton’s London Ice Tea – Skinny Peach
เขียนมาจนจะจบบทความเพิ่งนึกได้ว่าลูกรักอันดับ 1 ของเราไม่ใช่ทั้งเบียร์และไซเดอร์นี่นา! นังเด๋อ! แต่เอาเถอะ ก็รักอะ อยากพูดถึงอะ Harry Brompton’s คือแบรนด์ที่เพิ่งเปิดตัวในไทยเมื่อต้นปี 2016 นี่เอง มันคือชาดำผสมกับวอดก้า รส Original ก็ดี แต่เราปลื้มรส Skinny Peach ที่สุด หอมกลิ่นชาและพีชมาก กินแล้วสดชื่น แนะนำจริงๆ ตอนแรกเราได้ลองที่ร้านเบียร์แถวบ้าน แต่ผ่านไปซักพักเค้าดันไม่รับมาขายต่อ หากินไม่ได้ จนถึงขั้นต้องสั่งซื้อมาเป็นลังเก็บไว้ทีบ้าน จริงจังแค่ไหนอะคิดดู๊
Alc. 4% Vol. / 275 ml. / เราซื้อราคาส่งมาขวดละ 117.7 บาท แต่ต้องซื้อขั้นต่ำ 1 ลัง (24 ขวด = 2,824.80 บาท) ติดต่อเพจ Harry Brompton’s Thailand ได้เลยแต่ต้องไปรับเองนะ / แต่ใครยังไม่บ้าเท่าเราก็ขอแนะนำให้ไปลองก่อนที่ Wish Beer Home Bar, Bottle of Beers และอีกหลายร้าน ดูในเพจได้เลยจ้า